สัตว์โลก

หากด้วยมีความเป็นทาสอยู่ในตัว เมื่อรู้ตัวยามไปไหนต่อไหนว่าด้วยเจอก็มักจะเข้ามาหามาทักทายไม่สบายคิดนึกหาแม้ไม่รู้จักกัน มานอนงอพุงพลุ้ยสบายใจเชิบด้วยตัวเปิบหาทาสถนัดหามาออดอ้อนออเซาะยามอุรา เพราะรู้ว่าตัวนั้นน่ารักเอ่ย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sawitree Pimvong ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ จากที่เธอนั้นเป็นพนักงานขับรถส่งอาหารหรือ Grabfood ที่หลายๆคนได้รู้จักกันด้วยทว่าอาชีพนี้ก็ต้องทำงานแข่งขันกับเวลาด้วยเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งเธอก็รีบที่จะขึ้นไปส่งอาหารให้กับลูกค้า ในคอนโดแห่งหนึ่งจนไม่ได้ปิดกระเป๋าที่เอาไว้ส่งอาหารเอาไว้ แต่เมื่อเธอได้ลงมาจากการส่งอาหารแล้วก็พบเจ้าเหมียวตัวอ้วนมานอนพุงพลุ้ยสบายใจในกระเป๋าส่งอาหารราวกับว่าน้องจะถามว่าที่บ้านมีแมวหรือยังละมุด เธอจึงได้ถ่ายเอาไว้เป็นเรื่องราวและนำมาลง ยังกลุ่ม ทาสแมว เพราะหากเพื่อนๆคนไหนที่เป็นทาสแล้วถ้าเจอเช่นนี้ก็คงจะปิดกระเป๋าและเอากลับบ้านกันทุกคน เพราะด้วยความน่ารักและความอ้วนเลยไม่รู้ว่าเจ้าตัวนี้เป็นแมวจรจริงแน่แท้หรือป่าว ซึ่งหากว่าน้องเป็นแมวจรจริงๆแถวแมวแถวนั้นคงจะผอมแห้งกันหมดแน่ ที่มา Sawitree Pimvong

    หากในความเป็นทาสที่เรามีอยู่ในตัว เมื่อได้ไปที่แห่งไหนพวกเจ้าเหมียวเองก็จะมักรู้ว่าคนนี้เป็นทาสแมวและก็มักจะเข้ามาหาเราโดยแบบที่ไม่ต้องเรียกร้อง อาจจะด้วยกลิ่นที่มีในตัวหรือความฉลาดของพวกเขารู้ว่าคนคนนี้มีความมีเมตตาต่อแมว   เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า April Come She Will ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าดำแมวสีดำตัวนี้ลงในกลุ่มคนเลี้ยงแมว หลังจากที่เขาได้พบน้องเป็นผู้ชายปีนรั้วข้ามหลังคามานอนข้วางอยู่ที่หน้าประตูห้องซึ่งเป็นหอพักสตรี พอเจอแอร์เย็นๆก็เลยเปิดให้น้องเข้ามานอน   แต่ทว่าเจ้าดำก็นอนไม่ยอมลุกไปไหนล้มตัวหลับสลบไปนอนเงียบด้วยความเย็นของแอร์ และเมื่อเธอให้น้องเข้ามานอนแล้วน้องก็มักจะมาร้องเรียกที่หน้าประตูของห้องเธออยู่ทุกวันเธอก็จะต้องเปิดให้น้องเข้ามาแบบนั้นอยู่ทุกวัน ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่าน้องเป็นแมวของใคร   หรือน้องอาจจะเคยอาศัยอยู่ที่ห้องนี้โดยที่เจ้าของเก่าไม่ได้เอาน้องไปด้วยเมื่อได้ย้ายออก เธอก็เลยเลือกที่จะเลี้ยงดูน้องเอาไว้เวลาน้องมาเธอก็จะให้น้องเข้ามานอนในห้องทุกครั้งด้วยความเห็นใจ เพราะนั้นอาจจะเป็นบ้านที่น้องได้เคยใช้ชีวิตอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ   แต่เธอก็ยังบอกเอาไว้อีกว่าที่ตัวน้องเนื้อตัวมีแต่แผลน่าจะเป็นแมวเจ้าถิ่นประจำซอยในแถวนั้น และยังบอกอีกว่าไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะได้ลาภเป็นสัตว์สี่ขาอยู่ตลอด จึงอยากจะฝากเอาไว้ว่าหากพบแมวหรือสุนัขที่มาร้องขอให้เข้าห้องก็อยากจะให้ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้เพราะนั้นอาจจะเป็นบ้านที่เขาเคยอยู่มาก่อนเรา ที่มา April Come...

เมื่อถูกเลี้ยงเติบใหญ่มาด้วยรักจึงเลือกมักจงรักภัคดีเสมอ ด้วยตัวนั้นคิดว่าคุณแทนคุณเธอจึงเสนอเฝ้าตามหานานแรมวัน แม้เจ็บเท้าไม่หยุดพักยอมหยุดวิ่งด้วยทุกสิ่งที่ตนมีเพียงเจ้าของ จะเลือกใยไมตรีไม่คะนองเฝ้าสนองวิ่งตามนานนับเรื่อยไป เพราะหากจะเอ่ยถึงเรื่องของความซื่อสัตย์ก็มีสัตว์ที่เรียกว่าสุนัข แม้ให้ข้าวให้น้ำยังจดจำแม้วันเดียว หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า AT Thanitra ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าตูบหลังจากที่พบน้องวิ่งเฝ้าตามหาผู้เป็นเจ้าของมานานแรมวัน แม้ตัวลำพังจะไร้เรี่ยวฝืน ด้วยเจ็บเท้าก็เฝ้าทนและกล้ำกลืนเลือกทนฝืนหานายที่เฝ้าคอย โดยเธอได้บอกไว้ว่าเมื่อไหร่จะได้พบเจอเจ้าของ น้องจะไม่ไหวแล้วใครช่วยส่งข่าวถึงเขาให้ที คนในซอยนี้ก็พยายามจะช่วยอย่างสุดความสามารถ แต่ด้วยน้องนั้นตื่นคนคงจะพ้นหนีเจ้าถิ่นไล่หนีมา จึงพยายามนำมาโพสต์ด้วยอุรา เมื่อไหร่หนาจะพบเจอกันเสียที โดยน้องสุนัขหลงมาด้วยสภาพร่างกายที่อ่อนเพียเจ็บขาหลังวิ่งตื่นทั้งรอบซอย นานมาแล้วร่วมหลายวัน ขนสีน้ำตาลขาวมีปลอกคอสวมไว้ พิกัดที่ได้ในซอย งามวงศ์วาน 35 ตรงข้ามตลาดพงษ์เพรช กทม. ซึ่งทางผู้คนในหมู่บ้านก็ช่วยกันแจ้งติดแผ่นกระดาษตามหาให้ ด้วยหวังและเป็นห่วงด้วยจิตใจจะหาใครมาช่วยต่อก็ไม่มี...

หากด้วยสัญชาติญาณของพวกเขาที่มนุษย์เราเรียกว่าสัตว์หน้าขน อาจจะเพราะด้วยเชื้อสายพันธุ์ของแมวนั้นมาจากเสือซึ่งก็มีความดุร้ายหรืออารมณ์โกรธหรือโมโหเมื่อฟิวส์หลุด คนโบราณจึงมักบอกว่าห้ามไปห้ามหรือเอาตัวไปขวางเวลาที่สัตว์เหล่านี้เค้าทะเลาะกันมิงั้นอาจจะโดนลูกหลงตกมาถึงเรา เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wikanda Pho-ngoen ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เธอนั้นเข้าไปเสนอตัวเป็นกรรมการห้ามเจ้าเหมียวตอนที่กำลังโกรธและทะเลาะกันกับแมวตัวอื่น ซึ่งเมื่อความโกรธนั้นขึ้นตาน้องก็ไม่เห็นว่าตัวเป็นผู้เป็นเจ้าของที่เคยรัก เหมือนกับคนที่กำลังคิดหนักเมื่อตัวมีไฟลุกที่หัว น้องจึงได้วิ่งเข้าใส่ขาทั้งข้างลายพร้อยพร้อม แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคืองน้องแต่อย่างใดเพราะเลี้ยงมาด้วยหัวใจจึงรักและเอ็นดู โดยเธอได้บอกไว้น้องไม่ได้ทำหมันทั้งไม่เคยได้พบเจอกับแมวข้างนอกบ้านเลยโมโหแรงมาก ซึ่งเธอยังได้บอกถึงเรื่องตอนที่ได้เกิดว่าเธอก็พยายามที่จะแยกน้องกับแมวอีกตัว อาจจะเป็นเพราะน้องไม่เคยได้เจอกับแมวนอกบ้านมาก่อนและเป็นตัวผู้ทำให้โกรธและโมโหเวลาได้พบเจอแมวข้างนอกเป็นเรื่องปกติ และเมื่อเธอได้แยกน้องออกก็พยายามที่จะปิดประตูหนี ด้วยในเวลาที่แมวโกรธพวกเขาจะมีอารมณ์ที่ชุนเชียวและจำหน้าใครไม่ได้พร้อมที่จะจู่โจมเข้าใส่ทุกคนเมื่อไฟลุกหัวหรือหัวร้อน เพื่อนๆในกลุ่มเองก็ได้มาแนะนำกันเพิ่มเติมเอาไว้ว่าหากแมวทะเลากันให้ใช้ไม้กวาดหรือไม้ถูพื้นเพื่อที่จะแยกน้องไม่ให้เอาตัวเองเข้าไปกั้นหรือห้ามเป็นอันขาด ที่มา Wikanda Pho-ngoen

เมื่อมีชีวิตได้พันธ์ผูกจำต้องฝืนแม้จำทนเมื่อตัวจนเลือกไม่ได้แต่ก็ไม่แม้จะเทไป หากได้เลี้ยงก็ย่อมรักอุปสรรค์มีหนักหนา ด้วยชีวิตตนก็ทนสู้อุรายามเรียกหาใครช่วยเหลือก็ไม่มี จะร้องบอกกับใครเขาเมื่อตัวเราเลือกไม่เทให้หายหนี ชีวิตหนึ่งสู้จนมีเพราะมีสิ่งที่ล่ำค่าสำคัญกว่าตน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กัญญาพัชร ธนะปรีดากุล ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่ถูกชายหนุ่มล่ามเอาไว้ติดกับต้นไม้เป็นจำนวนมากเพราะด้วยน้องเป็นแมวจรและผู้เป็นเจ้าของเองก็มีอาชีพขายของเก่า ซึ่งต้องหาเลี้ยงชีวิตตัวเองกับแมวทั้งหมดอีก 8 ตัว โดยก่อนหน้านี้ทางเราก็เคยได้นำเรื่องราวของคุณลุงมาลงแล้วแต่ทว่าก็ยังไร้การช่วยเหลือแต่อย่างใด ทั้งน้องแมวและคุณลุงก็ยังต้องใช้ชีวิตจำทนนอนตากยุงอยู่แบบนี้ เพราะไม่ได้มีหน่วยงานใดให้ความช่วยเหลือ เธอจึงได้มาพยายามที่จะหาบ้านให้กับคุณลุงอยู่เป็นหลักแหล่ง เพราะด้วยจากการใช้ชีวิตอยู่อย่างนี้อาจจะทำให้น้องนั้นเกิดป่วยขึ้นมาได้ เมื่อคุณลุงเองก็ไม่เลือกที่จะเทหรือยอมยกให้ใครเพราะเลี้ยงมาด้วยรักและเอ็นดู หากเป็นคุณก็คงจะไม่ยอมเช่นกันแต่เธอก็อยากจะให้น้องและคุณลุงมีชีวิตที่ดีกว่านี้ จึงอยากจะฝากหาบ้านหรือห้องเช่าแถววัดภูเขาทองหรือเขตดุสิต ซึ่งหากเพื่อนคนไหนพอจะมีที่อยู่หรือรู้จักที่เช่าถูกๆก็สามารถแจ้งบอกกับเธอได้ ที่มา กัญญาพัชร ธนะปรีดากุล

หากวันนี้ชีวิตยังอยู่ดีมีสุขไม่ต้องทนทุกข์ยากไร้ด้วยแสนสา จะร้องไห้เสียใจเมื่อตัวอุราเมื่อร้องเรียกหาผู้เป็นแม่ที่เคยมี จะยากดีมีสุขก็นึกถึงอ้อมกอดคำนึงถึงทักไม่ว่าสิน จะร้องเรียกเสียงใดไม่จำนินตัวแม่นี้ไม่สิ้นชีวีวา เมื่อเกิดมาเป็นเพียงจรต้องทนอกห่างอกแม่น้ำตานอง หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sompit Pulcharoen ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่เขาได้ขับรถผ่านพบเห็นน้องพยายามคลานกกกันไว้ด้วยไออุ่น เมื่อถูกเขาเอามาเทไว้ริมถนนด้วยแรกเกิดจากท้องแม่เพียง 3 วัน ลำพังตัวนั้นยังไร้ช่วยเหลือตัวเอง แต่เมื่อเป็นเพียงสัตว์จะร้องบอกกับใครเขาเมื่อตัวเกิดมาเพียง 3 วันลำพังจะคลานยังไร้แรง โดยพิกัดที่เธอได้พบเจอน้องอยู่ที่วงเวียนค่ายชิราลงกรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ซึ่งหากมีใครที่พอจะเป็นแม่นมให้น้องได้ก็อยากให้มาช่วยเหลือตัวน้อยนี้ แม้จะฝืนดึงรั้นไม่ใยดีไม่รู้มีใจทำได้ลงคอ ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนอยากจะรับชีวิตน้อยๆนี้ไปรับเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ และอยากจะฝากไว้ให้ไตร่ตร่องชีวิตน้อยๆก็มีค่าเหมือนกับเราหากคิดจะปล่อยให้พ้นตัวให้รู้ดีชั่วว่าตัวรอด นำมาปล่อยไว้ริมทางตลอดจะไร้คนใคร่เขาจะช่วยเหลือได้ ที่มา Sompit Pulcharoen

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nitat Klinhorm ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวอ้วนที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเหมียวตัวนี้อายุก็ปาเข้าไป 12 ขวบแล้ว แต่ด้วยพฤติกรรมสุดห้าวของพี่แกทำให้เจ้าของปวดหัวหนักถึงขนาดบอกเองเลี้ยงแมวมา 20 ปีไม่เคยพบเคยเจอ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า มันจะอ้วนเกินไปมากแล้วนะ อ้วนเกินไป อยากจะลดความอ้วนให้กับแมวสุดชีวิต โดยที่บ้านนั้นมีแมวทั้งหมดอยู่5ตัว นี่ขนาดให้อาหารให้พี่อ้วนแกน้อยที่สุดแล้วนะตัวอ้วนสุดก็ดันมาหงุดหงิดไปแย่งข้าวตัวอื่นเขากินจนหมด แยกเลี้ยงเดียวแล้วก็อารวาท ทำลายข้าวของ พอให้มาอยู่กับตัวอื่นก็ไปฟัดตัวอื่นเขาไปหมด แบบเก๋าสุดๆ ในตอนนี้จนปัญญา แล้วเลี้ยงแมวมา 20 ปีไม่เคยพบเคยเจอกับปัญหาหนักใจขนาดนี้มาก่อนเลย จับอาบน้ำ ยังง่ายกว่า ด้านชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่าต้องกำหราบน้องบอกเค้าให้เชื่อฟังคะ...

หากว่าวันนี้คุณยังไม่เคยที่จะเป็นทาสหรือเป็นมือใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มเข้าวงการของทาสแมว อาจจะมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้คุณแผลกใจเพราะด้วยนิสัยของเจ้าเหมียวนั้นเป็นสิ่งที่เราคาดการณ์อะไรไม่ได้ เมื่อบางครั้งพวกเขาก็จะทำให้เราเห็นว่าพวกเขานั้นฉลาดและแสนรู้ แต่ในบางครั้งพวกเขาก็ไม่ค่อยจะสนใจต่อสิ่งรอบข้างหรือแม้แต่ตัวเราที่เป็นทาสของเขาเอง แม้แต่การเรียกชื่อหรือพูดคุยวันไหนคิดอารมณ์ดีก็จะตอบรับเล่นด้วยวันไหนอินดิ้หน่อยก็ไม่สนโลกอะไรเลย เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pt Ws Patty ที่ได้มาโพสต์เรื่องราว ที่ทำให้เขานั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนเกือบทั้งคืน เมื่อกลางดึกหลังจากที่เขากำลังจะเข้านอนและปิดไฟก็ได้ยินเสียงผิดปกติขึ้นภายในบ้านเหมือนกับว่ามีคนกำลังเคาะสิ่งของภายในตัวบ้านของเธอ ซึ่งทุกคนก็ได้เข้านอนกันหมดแล้วและนั่นก็เป็นเวลากว่าตีหนึ่งแล้ว เธอจึงพยายามที่จะฟังเสียงพร้อมกับสวดมนต์เพราะคิดว่าตัวเองคงจะโดนเข้าให้แล้วอย่างแน่นอน จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมงเสียงนั้นก็ยังไม่ยอมที่จะหยุดหย่อนแต่อย่างใดเธอจึงได้กลั้นใจขึ้นมาเปิดไฟดูให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย ซึ่งสิ่งที่เธอได้เห็นก็คือเจ้าเหมียวตัวน้อย กำลังเล่นถังขยะที่มีฝาพับกลับไปมาเหมือนกับเล่นของเล่นในสวนสนุก ซึ่งเธอก็นั่งดูน้องอยู่นานแต่ก็ยังไม่มีท่าทีว่าน้องจะหยุดจึงได้ถ่ายเอาไว้และนำมาลงยังกลุ่มชมรมแมวสายดาร์ก ด้วยอาจจะเพราะเธอเองก็คงจะเป็นมือใหม่สำหรับทาสจึงไม่รู้ว่าน้องจะไม่นอนและมานั่งเล่นให้เธอกลัว และก็อยากจะฝากเอาไว้สำหรับทาสมือใหม่ว่าอย่าคิดไว้ใจว่าพวกเขาเพราะพวกเขาอาจะทำในสิ่งที่เราไม่คาดคิด ที่มา Pt Ws Patty  https://www.facebook.com/230495853992903/videos/3189406847780032  

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Darawadee Thongsuk ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวอ้วนตัวนี้มีชื่อว่าโอเลี้ยง โอเลี้ยงเป็นแมววัย 4 ขวบ ถูกชุบเลี้ยงมาอย่างดีจนกระทั่งได้โพสต์รูปน้องในโลกออนไลน์ จนกระทั่งมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาสอบถามว่าเลี้ยงแมวยังไงให้อ้วนขนาดนี้ ! . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า อิแม่มั่นใจว่าเลี้ยงมาเป็นอย่างดีค่ะ เราเลี้ยงมาสี่ปีลูกไม่ต้องเข้าโรงบาลเลยเพราะอาการป่วยค่ะ เข้าแต่รับวัคซีนป้องกันตามหมอนัดและตรวจสุขภาพ นี่ถ้าจะเข้าอีกทีเพราะทำหมัน อิแม่ให้พี่โอเลี้ยงกินอะไรยังไงบ้าง? เป็นคำถามเยอะมาก วันนี้อิแม่จะมาตอบคำถามว่าเลี้ยงยังไงถึงสุขภาพดีและตัวอ้วนขนาดนี้ 1 อิแม่จะทำน้ำใบไผ่เงินกับใบเตยไว้ให้น้องเพื่อล้างสารในร่างกาย และน้ำใบเตยหรือไผ่เงินสามารถป้องกันการเกิดโรคไตได้ ลองเปิดเน็ตศึกษาดูค่ะว่าจริงตามที่บอกมั๊ย 2 อิแม่ทำอกไก่ต้มผสมกับฟักทองนึ่งสุกให้น้องกินค่ะ...

แม้แต่การที่เราได้เลี้ยงแมวอยู่แต่ในบ้านซึ่งหากคิดว่าปลอดภัย ก็คงจะไม่ใช่เพราะเมื่อภัยก็อาจจะมาได้ด้วยตัวเอง ด้วยเหมือนกับการที่เราได้เลี้ยงเด็กซึ่งหากมีอะไรที่ผิดแผลกไปก็ควรที่จะรีบลงมาดูถ้าไม่ได้นอนกับน้องแมวหรือน้องแมว เพราะหากว่าเกิดความประมาทขึ้นมาก็อาจจะต้องเสียใจไปตลอด เช่นเดียวกับเรื่องราวนีัเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า วิภาวดีสัตวแพทย์ ได้โพสต์เรื่องราวของเธอลงยังโลกออนไลน์หลังจากที่ได้ยินเสียงแมวขู่ในช่วงเวลาตี 5 ซึ่งเธอก็คิดว่าแมวนั้นเล่นกันและโกรธกันจนทะเลาะ แต่เสียงขู่ก็ดังไม่ยอมหยุดเธอจึงได้ตื่นและลงมาดู เมื่อเธอได้เอื้อมมือไปเปิดไฟให้ได้เห็นก็ได้พบแขกไม่ได้รับเชิญห้อยหัวลงมาให้เห็นให้รู้ว่าตัวมาหาอาหาร แต่ก็ยังโชคดีว่าหน้าต่างในวันนี้เธอได้ปิดสนิทเพราะในตอนปกติจะเปิดรับลม ด้วยฝนที่ได้ตกลงมาทำให้เธอปิดเอาไว้ก่อนที่จะขึ้นไปนอน เด็กๆเลยรอดและปลอดภัย ไม่อย่างงั้นคงจะต้องเสียใจไปตลอดเพราะหากลงมาช่วยเอาไว้ไม่ได้ทัน เธอจึงได้มาบอกกับเพื่อนๆให้ระวังและอย่าประมาทกับสิ่งที่เราคุ้นเคยหรือความเคยชินแม้จะอยู่แต่ภายในบ้านอันตรายก็เข้ามาหาเด็กๆได้ เพราะฉะนั้นก็อย่าที่จะชะล่าใจไป ที่มา วิภาวดีสัตวแพทย์