หัวใจทาสแหลกสลาย เมื่อแฟนทักมาบอกว่าก้อนส้มหายเรียกแล้วหาไม่เจอ
หากเลี้ยงดูด้วยรักมาตลอดวันนี้ทักมาบอกว่าหายหน้าหนี เรียกแล้วเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีทำไงดีหัวใจทาสตกลงดิน ไม่เคยปล่อยให้สิ้นหรือต้องอดดมแม้ตดยังว่าหอมด้วยใจหาย รักเลี้ยงดูเฝ้ามองไม่มีคลายยามทุกข์ร้ายคอยอยู่เคียงข้างดู เมื่อแม่เลี้ยงมาก็รักเหมือนกับลูก
ไม่เคยสู่หายจากอกให้สั่นไหว วันนี้ทักมาบอกด้วยตัวใจก้อนส้มหายไปใจแม่หายไม่เหลือดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wajathip Passadu ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แฟนของเขาทักมาบอกว่าก้อนส้ม คือน้องแมวที่เขาเลี้ยงดูมาด้วยรักตัวสีส้มเลยตั้งชื่อให้น้องว่าก้อนส้ม
ได้หายออกไปจากบ้านที่ได้เลี้ยงในระบบที่ปิด ซึ่งแฟนของเขาก็พยายามจะเรียกหาน้องแล้วแต่ก็ไม่พบเจอน้องเลย และไม่รู้ว่าน้องหายไปได้ยังไงเพราะบ้านก็ปิดอยู่ตลอด จึงได้ทักมาบอกเขาว่าน้องหายไปเรียกเท่าไหร่น้องก็ไม่ยอมมาแม้ว่าจะหาทั่วบ้านแล้วก็ตาม
โดยเมื่อเขาได้เห็นว่าแฟนเขาทักมาบอกเช่นนั้นหัวใจสั่นตกลงไปยังพื้นดินแม้รีบหา ตัวแม่เองเลี้ยงมาด้วยรักคอยถนอมยุงไม่ให้ตอมไร้ไม่ให้ไตร่ทำใจหาย จึงบอกแฟนให้ช่วยดูให้ดีให้ลองไปหาดูอีกที แต่แฟนของเขาก็หาแล้วบอกกลับมาว่าไม่เจอ
ซึ่งในเวลาผ่านมาหลังจากที่เขากระวนใจอยู่พักใหญ่ แฟนก็ได้ทักมาบอกเขาว่าเจอก้อนส้มแล้วน้องหลบแอบหลับอยู่ในโซฟา ซึ่งก็ไม่รู้ว่าน้องเข้าไปได้อย่างไร เธอจึงได้บอกไว้ว่าไม่รู้ว่าจะว่าใครดีระหว่างแฟนกับก้อนส้มตัวดี
ที่มา Wajathip Passadu
เฝ้าเลี้ยงดูมาด้วยรัก แม่ขอโทษหนักที่ต้องพ่วงไว้เมื่อปล่อยไปไม่ได้เลย
ยามยังเล็กเฝ้าเลี้ยงดูคอยถนอมแม้จะนอนยุงไม่ให้มีมาดม ด้วยความรักที่แม่ได้คอยเฝ้าดูชมไม่แม้ขมให้ได้กินด้วยอุ่นใจ จนวันนี้ได้โตมาจนเติบใหญ่เลี้ยงด้วยใจใช่ตามหาใช่ว่าที ยามลูกห่างหายหน้าแม่ใจไม่ดีไม่คิดหนีรีบตามหาลูกเร็วไว เมื่อตัวเองโตเป็นหนุ่มชอบหนีเที่ยว
ตัวไม่เอี่ยวออกเดินหนีไปยันไหน ตัวแม่เองก็ต้องวิ่งตามลูกอย่างเร็วไปไม่เห็นใจคนเป็นแม่ใจไม่ดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ae Jaiaree ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาจำต้องพ่วงน้องเอาไว้ ด้วยตัวน้องเองมีชื่อว่า ถัง ซึ่งชื่อจริงๆคือถังทองนะครับแต่ตอนนี้แม่เรียกรถถังแล้วครับ
เพราะตามน้ำหนักครับ น้องถังเป็นแมวบ้านสวนป่าละอู แม่จำต้องพ่วงถังเอาไว้เพราะถังชอบหนีเที่ยวมาก 5 ครั้งแล้วที่ถังหนีเที่ยวไปแล้วกลับบ้านไม่ถูก แต่กลางคืนแม่ก็จะปลดให้ถังนอนในที่ของเขาครับ ไม่ได้ไปเที่ยวนอกบ้านเลยหุ่นเสี่ยครับน้ำหนักถังไป 6 กิโลกว่าแล้วครับ
ถังทำหมันแล้วนะครับแต่ไม่ได้มีผลกับถังเลยครับ อดีตถังเป็นลูกแมวจรร้านอาหารตามสั่งตานิ่ม ซ.โรงเหล็กหัวหินครับ แม่เอาถังมาเลี้ยงไว้โดยในตอนนี้ถังเป็นหมีไปแล้วครับ...
เห็นวิ่งหนีหมามาหลบที่หน้าบ้าน จึงรับมาเลี้ยงเฝ้าดูแลไม่ขาดเลยได้เห็นผ้าขีริ้วห่อทอง
ด้วยตัวเกิดมาไร้ใครเขาจะต้องการเมื่อไร้บ้านไร้ที่อยู่ จำวิ่งหนีหลบหมาหลบฝนแม้ต้องทนไปไม่มีที่จะให้ไป ต้องหลบแอบอาศัยเอาตัวรอดยามท้องหิวท้องร้องกระสนหาเศษอาหารเพื่อให้ได้อิ่มท้อง แม้ยามจะนอนทุกข์เข็นไม่มีแม้จะเย็นใจหรือหลับสนิทได้สักคืนวัน
แม้หากแต่ไปพบบ้านเจอที่หลบตัวประสบพบหาคนไร้ใจเขาก็ไม่มีแม้ที่ใดจะให้หลบภัย เมื่อตัวใจไร้ที่อยู่อาศัยด้วยเป็นจร เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Bunyisa Thuengthin ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากเขาขอเข้าวงการเป็นทาสแมวลงในกลุ่มทาสแมว
หลังจากสามเดือนที่แล้วได้พบน้องวิ่งมาหลบแอบอาศัยหนีหมามาหลบภัยที่หน้าบ้าน เธอจึงได้รับเลี้ยงเอ็นดูเหมือนกับลูก แม้ตัวผูกเดิมทีกลัวแมวใหญ่ไม่กล้าแม้จับต้องแต่อย่างใด วันนี้ใกล้ได้ชิดสนิทตัวเธอเฝ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่ในวันที่ได้พบตัวประจบพบรักไม่ห่างเลย
เลี้ยงดูแลคอยถนอมแม้จำเลยทว่าเอ่ยอ้วนเป็นตุ่มในทันตา ซึ่งเธอได้บอกไว้ว่าในวันที่น้องวิ่งหลบมาหนีหมาที่หน้าบ้านของเธอเอง น้องมีแผลที่คอเธอจึงต้องนำน้องไปรักษาที่คลีนิครักษาสัตว์ในวันแรก มาวันนี้ประจบครอบเดือนที่ 3 แล้วจึงได้เห็นผ้าขีริ้วห่อทอง
โดยเธอเองก็ได้บอกกับเพื่อนๆในกลุ่มเอาไว้ว่าเธอใช้อาหารเพียวรีน่าวันเลี้ยงดูน้องมาจนน่ารักแล้วก็อ้วนกลมตุ๊ต๊ะอย่างที่เห็นเลยจ้า จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยิ้มไม่หยุดกับเรื่องราวดังกล่าว
ที่มา Bunyisa Thuengthin
ส้มตำเป็นเหตุสังเกตได้ เผลอไปซื้อส้มตำแปบเดียวพอกลับมาแมวดันล็อครถจนเป็นเรื่อง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kesinee Srimake ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้ขับรถมาซื้อส้มตำกับแมวคู่ใจอย่างเจ้าอ๊อกซี่ เธอก็เอาแมวไว้ในรถและเปิดแอร์ให้น้องเพราะกลัวว่าน้องจะร้อน แต่พอเธอซื้อส้มตำเสร็จกลับเปิดรถไม่ได้เพราะเจ้าแมวดันล็อครถเอาไว้ซะอย่างงั้น
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราจอดรถลงมาสั่งส้มตำได้แป็บเดียวเอง แต่เราสตาร์ทรถเอาไว้ไม่ได้ดับรถ กลับมาอีกทีกลับเข้ารถไม่ได้ ผลสรุปคือนางแมวเขากดล็อครถไปแล้ว ป.ล.กุญแจอยู่กับตัว ไม่ได้อยู่ในรถแต่คืองงมาก ทำไมเปิดไม่ได้
รถของเราเป็นระบบไฟฟ้า และอัพเดทล่าสุดตอนนี้เปิดรถได้แล้วนะคะน้องปลอดภัยดีจ้า รถปลอดถัยดีค่ะ ช่างบอกว่าน่าจะเป็นที่ระบบไฟฟ้ามันเออเร่อนิดหน่อย เพราะเจ้าอ๊อกซี่ไปกดปุ่มอะไรค้างไว้ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์
จนมีชาวเน็ตมากมายได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวพร้อมกล่าวว่า ระวังแมวตกใจคน ไปโดนคันเกียร์เข้านะ ฮ่าฮ่าฮ่า บ้างก็บอกว่าแล้วจะทำยังไงละทีนี้ บ้างก็บอกว่าน่าจะพกกุญแจสำรองเอาไว้นะ...
หัวใจสลายหลังเจ้าอาวาสยินดียื่นมือเข้ามาช่วยแมวจร แต่นั่นกลับทำให้เขารู้สึกผิดไม่มีวันลืม
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thanakorn ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อยที่ศาลาวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท พอสักพักมีเจ้าอาวาสมาเห็นและยินดียื่นมือเข้ามาช่วยยินดีให้น้องไปหลับนอนในกุฏิ ตอนแรกเขาก็โล่งใจที่มีพระดีๆแบบนี้อยู่ แต่นั่นกลับทำให้เขารู้สึกหัวใจสลายในทันใดหลังได้ทราบว่า.....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า พอดีย่าผมเสีย แล้วมาจัดงานขาวดำที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยนาท แล้วผมเจอน้องในศาลาน้องดูมีอาการกลัวตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้พบเจอ ซึ่งตอนแรกผมไม่รู้เลยว่าทำไม ผมพยายามเอาอาหารเอาขนมไปให้น้องกินจนน้องเริ่มรู้สึกผ่อนคลายแล้ว
จนยอมออกมาให้เล่นด้วย แต่วันนี้เจ้าอาวาสบอกกับผมว่าจะเอาน้องไปนอนด้วย เพราะเอาไว้ในศาลาแล้วกลัวจะฉี่เรี่ยราดอะไรอย่างงี้ แล้วทุกคนก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับแกหรอกนะครับ จึงยอมให้แกนำไป แต่บังเอิญผมได้ยินเสียงแมวร้อง ไอ้ตัวผมนึกว่าแมวโดนหมาฟัดจึงออกตามหา
แล้วมีพลเมืองดีบอกว่าเจ้าอาวาสเป็นคนเอาแมวยัดใส่ไว้ในโอ่ง แล้วเอาเขียงปิดเอาไว้ คือหัวใจผมสลายเลยครับ น้องตัวแค่นี้ขี้อ้อน แถมน่ารักมากๆด้วย ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย แมวมันไร้หัวใจเหรอ...
ตาเพิ่งลืมยามแรกเกิดถูกเขาหิ้วมาโยนไว้ข้างป่า ไม่รู้ประสีประสาไม่รู้ใยใจทำได้ลงคอ
หากวันนี้ได้เกิดมาแล้วมีสุขไม่ต้องทุกข์ยากลำบากเข็น แม้เช้าค่ำกล้ำกลืนด้วยเช้าเย็นแม้ยามเห็นได้มองน้ำตาตก เมื่อแรกเกิดยามแรกแม้ไร้แม่ไม่มีแท้ใครจะมาเฝ้าดูเห็น ด้วยชีวิตที่เกิดมาไม่จำเป็นไม่นึกเห็นว่าจะมีชีวิตต่อเยี่ยงไร หอบมาเทไว้ที่ข้างป่า
ไม่ประสีประสาไม่รู้ตัวที่แห่งไหน ตายังไม่ลืมฝืนกลั้นทุกข์ทนใจแม่อยู่ไหนไม่รู้ตัวเขามาเท เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Orapin Aor Sanmung ได้โพสต์เรื่องราวหลังเขาได้พบเจ้าเหมียวตัวน้อยที่ตายังไม่ทันได้ลืม ถูกเขาเอาใส่ถุงพลาสติกมาเทไว้ที่ข้างป่าริมถนน
ด้วยที่บอกไว้ว่าพวกเขาต้องใจดำขนาดไหนกันถึงได้เอาลูกแมวตาเพิ่งลืมใส่ถุงหิ้วมาโยนเทไว้ป่าข้างทางเช่นนี้ ทำไมต้องเป็นเขาที่ต้องมาเจอในสภาพน้องเช่นนี้ด้วย ใส่ถุงหูหิ้วมาโยนตอนโยนก็โยนไปทั้งถุงจนน่าจะกระแทกกับขอบปูนตรงขอบสะพาน ซึ่งมีน้องตัวหนึ่งอาการหนัก
เพราะกรามโยก มดแดงก็มารุมฟัดเต็มเนื้อตัวจนแฟนของเธอเองก็ยังรับไม่ได้เลยน้ำตาคลอเบ้า ช่างใจดำเหลือเกินตัวเล็กขนาดนี้น้องก็เหมือนเด็กเล็กๆที่เขาเอามาเทแหละ ซึ่งเขาเองก็เพิ่งจะกลับมาจากการไปส่งหมารักษาหายและกำลังจะเดินทางกลับกาฬสินธุ์ ขากลับก็มาเจอเลย
ด้วยทางนี้ก็มีแต่ป่ากับนาห่างไกลจากตัวเมืองได้ยินเสียงน้องตัวขาวดำร้องอยู่กลางถนนหน้าจะคลานไปไม่รู้ทิศทาง แฟนก็จอดลดรีบวิ่งลงไปดูเห็นสภาพแล้วรับไม่ได้ไม่รู้ต้องตากฝนทนหิวอยู่ตรงนั้นมานานกี่ชั่วยามแล้ว ขอให้คนทำได้รับในสิ่งที่ตัวทำก็แล้วกัน
ที่มา Orapin Aor Sanmung
https://www.facebook.com/whangchai.sanmnung/posts/2740261762908440
หัวอกแม่เกิดเป็นจรเดินหอบลูกหาอาหาร ไม่ว่าขารถูกเขาแกล้งทำจนหูหาย
มาวันนี้เกิดมาตัวจนเป็นแม่ แม้จำแต่ฝืนทนต้องอดฝืนใช่ว่าทนหิวทุกข์ร้อนต้องกล้ำกลืน แม้ยามฝืนลูกก็หิวตัวเจ็บเอง ถูกเขาแกล้งเด็กหอทำจนหูหายไม่ว่าสายเช้าบ่ายเฝ้าหาอาหาร เดินหอบลูกแม้ร้อนค่ำฝนช่ำทุกข์อุรา ไม่ว่าหาสิ่งใดให้ลูกอิ่มเอย
หากเมื่อก่อนเรายังคงเด็กและยังไม่ได้เติบใหญ่แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณได้มีลูกขึ้นมาแล้ว ความเป็นแม่ในตัวก็จะเติบโตขึ้นมาแม้แต่การนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็เช่นกัน เพราะพวกเขาก็เหมือนกับเด็กที่เราจะต้องคอยดูแลอย่างสม่ำเสมอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Peet Chaiyapot
ได้มาโพสต์เรื่องราวของแม่แมวจรรายนี้หลังจากที่เขาได้พบร้องเดินหอบลูกมาขออาหารประทังหิว ซึ่งแม้แต่สภาพอาการจะร้อนหรือฝนจะตกก็จะต้องพยายามหาเศษอาหารให้กับลูกให้ได้ ซ้ำตัวเป็นจรไร้บ้านไร้ที่อยู่แม้คำคืนดึกดื่นก็ยังต้องซุกหาที่นอนให้แก่ลูก
ด้วยเขามีกันสองแม่ลูกขออาหารเรื่อยไป ซ่ำด้วยโดยเด็กหอแถวนั้นแกล้งจนหูเจ็บหนักเกือบจะหายไปหมด ด้วยเขาเองก็ไม่สะดวกที่จะรับน้องไว้จึงทำได้แค่ให้อาหารประทังความหิว และน้องก็เป็นแมวสามสีโดยพิกัดที่เขาได้ลงเอาไว้ที่ สะพานใหม่ เอื้ออาทรเพิ่มสิน
ด้วยโดยภายหลังทางเจ้าของโพสต์เองก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมไว้ว่าน้องได้บ้านแล้ว แต่ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆที่ไม่ชอบหรือไม่คิดจะชอบเลย ก็อยากจะให้ต่างคนต่างอยู่เพราะพวกเขาเองก็มีความเป็นแม่หรือหัวอกคนเป็นแม่ไม่ต่างจากเรา ซ้ำพวกเขาก็ยังมีลมหายใจรู้สึกนึกคิดได้ไม่ต่างกัน
ที่มา Peet Chaiyapot
เข้าห้องน้ำเอาไว้วางกะเสร็จแล้วค่อยออกมากินใหม่ โกรธไม่ลงใจเมื่อได้เห็นท่า
หากด้วยการได้เลี้ยงแล้วก็มักจะเกิดความรักหรือความเอ็นดู แต่ถ้าสิ่งนึงถ้าเราไม่พร้อมรับมือกับพวกเขาเราก็จะปวดหัวคือความซนที่เราจะต้องพร้อมที่จะได้พบเจอ ด้วยความคิดและนิสัยที่มีเท่ากับเด็กอายุ 2 ขวบในหลายๆมุมก็อาจจะต้องคอยบอกคอยสอน
จนกว่าจะถึงวัยโตหรือเป็นผู้ใหญ่ก็ร่วมอายุเข้า 3 ปีพวกเขาถึงจะนิ่งและไม่ซุกซนเหมือนยังเล็ก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pum 'msis ได้โพสต์เรื่องราวของเธอหลังจากที่เธอได้วางเครื่องดื่มเอาไว้และก็เกิดปวดท้องเข้าห้องน้ำขึ้นมา จึงกะว่าเดี๋ยวค่อยออกมากินใหม่
ด้วยความที่ตัวเธอเองเป็นทาสแมวและก็เลี้ยงแมวเอาไว้ที่บ้าน เธอจึงไม่ทันได้คิดให้รอบครอบจึงไม่ได้ปิดฝาเครื่องดื่มและใส่หลอดคาเอาไว้พร้อมกับดื่มไปเพียงไม่กี่อึก เมื่อเธอได้กลับเข้ามาจากการไปเข้าห้องน้ำก็ได้กลับมาเห็นเจ้าเหมียวปัดขวดเครื่องดื่มของเธอตก
ซึ่งในตอนแรกเธอก็รู้สึกโกรธและกำลังจะดุว่าน้องแต่ทว่าเมื่อได้เห็นในน้องที่กำลังปัดเครื่องดื่มตกลงมา พร้อมกับค่อยๆเอามือเกี่ยวหลอดที่ตกลงมาพร้อมกันออก ไม่ให้เลอะหลอดหรือมือตัวเองพร้อมกับคาบหลอดและวิ่งออกนำไปเล่นแล้วเธอก็โกรธไม่ลงจริงๆ
เพราะด้วยความที่เธอทำงานหนักและน้องแมวก็จะต้องอยู่บ้านด้วยเพียงลำพังในทุกวัน น้องก็คงจะเกิดอาการเหงาด้วยต้องอยู่เพียงตัวคนเดียวมาตลอด จึงพยายามหาของเล่นไปเล่นคนเดียวเสมอ เธอจึงได้โพสต์เรื่องราวนี้ลงในกลุ่ม ทาสแมว พร้อมกับบอกว่าโกรธไม่ลงก็ตอนเห็นท่าได้หลอดไปแล้วนี่ล่ะ
ที่มา Pum 'msis
https://www.facebook.com/1123070904506609/videos/1074897746265531/
ความจริงที่ทำเอาร้องไห้ไม่หยุด หลังรู้ความจริงว่าแมวที่เลี้ยงไว้ไม่เคยรักเธอเลย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Wang Li ได้เผยเรื่องราวของแมวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเธอพยายามที่จะหนีออกจากบ้านอยู่ตลอดเวลา และเธอก็นึกสงสัยอยู่ตลอดเวลาแมวของเธอเคยรักเธอบ้างมั้ย จนกระทั่งมีวันนึงน้องหลุดหายไปและมารู้ความจริงว่าแมวที่เลี้ยงมาตั้งแต่เด็กนั้นไม่เคยรักเธอเลยแม้แต่น้อย
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรารับน้องแมวตัวนี้มาเลี้ยงเพราะเค้าถูกสุนัขฟัด จนขาเป๋พาไปรักษาแล้วทำหมันเรียบร้อยและเลี้ยงดูอย่างดี วันๆกินๆนอนๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในทุกๆวันก็คือ การหาทางหนีออกจากบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ทางประตู ทางหน้าต่าง ย้ำนะคะทุกๆวันเลย
เราต้องล็อคตลอดเวลา แต่มีวันนึงที่เราลืมล็อคประตูกระจกบานเลื่อนเอาไว้ และเค้าหนีออกไปได้ เราพยายามตามหาในหมู่บ้านก็แล้ว ตามหาทุกซอกทุกซอยก็แล้ว ฝนตกก็ออกตามหา สามวันผ่านไป ลงประกาศในกลุ่มไลน์หมู่บ้านก็ไม่มีใครพบเจอ...
เดินเตร็ดเตร่เร่กับแม่อยู่กันสอง เมื่อตัวจรไร้ที่จะให้แม้ยามหลบฝน
หากวันนี้เราได้เกิดมาอยู่ดีหรือว่ามีสุขก็ถือว่าเป็นบุญที่ได้ทำแต่ก่อนมา แต่ถ้าหากเลือกไม่ได้ต้องเกิดมาเดินเร่หาที่พักแรมแม้หลบแดดฝน ถูกเขาไล่ให้พ้นทางเหมือนรังเกี้ยจตัวสะเนียดเป็นจรไร้ความหมาย จึงต้องแอบหลบเอาแม้บรรณเทาก็ยังดี
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Peat Rose ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังจากที่พบน้องมาเดินหลบฝนกับแม่เพียงสองตัว ด้วยเป็นจรและมีแม่คอยเฝ้าเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดแต่ทว่าเมื่อยามที่ฝนตกแดดออกแม่ลูกคู่นี้ก็ไร้ที่กำบังฝนหรือแม้ร่มเงาจะหลบแดด
ต้องเที่ยวเดินขอร่มเงาชาวบ้านเค้าแอบอิงพักพิงเอา ตกดึกยุงก็กัดไม่มีแม้ที่จะให้หลบพัก เธอจึงได้มาหาบ้านให้กับน้องและแม่โดยที่ไม่อยากจะให้ทั้งคู่ได้แยกจากกันไป เพราะตัวแม่เองก็คงจะมีเพียงน้องตัวเดียวที่เฝ้ารักและห่วงหาซึ่งเธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ ซีคอนบางแค
และขอคนที่พร้อมจะรับไว้ด้วยแม่ลูก ซึ่งตัวน้องเองก็น่ารักมากอยู่ในวัยที่กำลังซนและอยากรู้เห็นกับโลกภายนอกและที่อยู่กันมาได้ในตอนนี้ก็คงจะเป็นเพราะแม่คอยปกป้องเฝ้าเอาไว้ไม่ให้มือ และภายหลังจากที่โพสต์ลงไปก็ได้มีคนอยากรับน้องเอาไว้เป็นอย่างมาก
โดยหากเพื่อนคนไหนอยากจะได้น้องไปเลี้ยงรักก็ลองติดต่อไปที่ต้นโพสต์ดูซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะทันอยู่บ้างหรือไม่
ที่มา Peat Rose