หอบกระเตงมาขอประทังหน้าตาเป็นแผลแหวอะ เนื้อตัวส่งกลิ่นเยอะผอมไร้แรงจะยืนไหว

ด้วยชีวิตที่ไร้ที่ให้ไปแม้ไร้ทางจะช่วยเหลือตัวเอง ยามเจ็บป่วยต้องทนอยู่ลำพังไปแม้แทบจะไร้แรงยืนไหวยังต้องไปร้องขอเขาเพื่อประทังหา ซึ่งชีวิตก็ไร้คนเมตตาเพราะเข้าไปหาใครเขาก็ไล่ออกเพราะตัวเป็นแผลและส่งกลิ่นเหม็นทุกข์ทั้งเป็นกว่าจะได้อิ่มท้องแต่ละมื้อเนื้อตัวก็เหลือแต่หนังหุ้มกระดูกไปแล้ว เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piyaying Chanthip ได้โพสต์เรื่องราวขอความช่วยเหลือให้กับน้องแมวจรจัดตัวนี้เพราะน้องเป็นแผลเต็มตัว จมูกก็เริ่มที่จะส่งกลิ่นเหม็นแม้ตัวก็ผอมมากเลยอยากจะให้มีผู้ใจบุญช่วยเหลือพาน้องไปรักษาด้วยนะคะ แม้เธอก็ไม่รู้ว่าน้องแมวมาจากไหนน้องเป็นเป็นโรคอะไรหรือเปล่า พิกัดที่น้องอยู่ใกล้ๆกับร้าน The Tanao cafe Bar ตรงถนนตะนาวชอบมานั่งอยู่ข้างๆร้านเขต พระนครแขวงบวรนิเวศกทม ซึ่งทางเธอก็ได้ให้เบอร์ติดต่อหรือจะสอบถามเพิ่มเติมจากทางต้นโพสต์ได้เลย ซึ่งจากที่เราดูน้องน่าจะเป็นโรคคลิปโตหรือเชื้อรากินเนื้อ ซึ่งจะต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่องแม้ต้องใช้ค่ารักษาจำนวนมาก และยังต้องแยกใส่กรงไว้เพราะเป็นโรคติตต่อและสามารถแพร่เชื้อติดกับน้องแมวตัวอื่นได้ ถ้าจะจับหรือแตะต้องน้องก็ควรที่จะใส่ถุงมือหรือล้างแอลกอฮล์เพื่อที่จะจับน้อง เราก็ฝากไว้ถ้าใครใจบุญก็อยากจะให้ช่วยเหลือชีวิตน้อยๆนี้ให้มีลมหายใจอีกครั้ง ที่มา Piyaying Chanthip

ยังเฝ้าคอยอยู่ที่เดิมหลังเค้าย้ายจากไปไม่หวนกลับ กว่า 11 ชีวิตต้องอยู่กันอย่างอดอยากแม้ไร้การจะช่วยเหลือ

เพราะการจะรับหนึ่งชีวิตมาไว้หรือเลี้ยงดูเขา เราซึ่งเป็นมนุษย์ที่สามารถจะทำทุกอย่างได้เลยจะต้องมีความรับผิดชอบกับชีวิตที่คิดจะมาเลี้ยงไว้ให้ดีก่อนรับ เพราะมิเช่นนั้นชีวิตของพวกเขาอาจจะต้องกลายเป็นจรแม้ไร้ที่นอนหรือต้องอดอยากเพราะการหากินเองไม่ได้ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มะลิ กะปิ ได้โพสต์เรื่องราวผ่านโลกออนไลน์ว่าโพสต์ใหม่อีกครั้งนะคะ เพราะเห็นหลายคนคอมเม้นท์จะเกิดการเข้าใจผิดว่าน้องๆได้รับการช่วยเหลือแล้ว เพราะน้องๆยังอยู่ที่เดิมยังไม่มีใครมาช่วยรับอุปการะ จึงยังไม่สามารถที่จะช่วยพาน้องๆออกมาได้ เพราถ้าช่วยออกมาไปฝากโรมแรมหรือโรงพยาบาลสัตว์ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงและระยาวนานมากๆหรือตลอดชีวิต น้องๆมีกันอยู่ทั้งหมด 11 ตัวถ้าช่วยกันรับบ้านละ 1 ตัว 11 บ้านก็จะสามารถช่วยน้องออกมาได้ไว เพราะทางเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะรับเพิ่ม เพราะ 44 ตัวที่รับผิดชอบอยู่ก็มาจากการช่วยเหลือจากเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าต่างคนต่างช่วยกันรับแค่บ้านละ 1 ตัวจะดีมากๆเลยค่ะ หรือท่านใดสะดวกจะรับน้องไว้ทั้งหมด 11...

ถึงตัวจะเป็นแมวไร้บ้านไร้ที่อยู่ให้หลับนอน แต่น้องแมวส้มตนนี้กลับมีความสุขที่สุด

ถ้าแมวจรได้อยู่ถูกที่ถูกเวลา และถูกชุมชนแล้วละก็ ถ้าแม้ว่าตนจะเป็นแค่แมวจร แต่แมวจรก็มีความสุขได้พวกเค้าทั้งได้รับความรักและอาหารที่ผู้คนในชุมชนต่างก็ช่วยเหลือกัน เหมือนกับชีวิตแมวจรตนนี้กับชีวิตที่มีแต่ความสุข . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Emma Montida ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า น้องเป็นแมวจร อาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เรา นางอยู่ประจำระหว่าง ตึก 10-11 ( อพาร์ทเม้นท์แมวจรมีกันอยู่หลายตัวค่ะ อยู่แยกๆกันเป็นโซนๆแบ่งถิ่นกันไป) น้องแมวเฟรนลี่และนิสัยดีมากค่ะ อยู่เป็นสุดๆที่ประจำคือสนามหญ้าระหว่าง 2 ตึกและเกาอี้ระเบียงห้องใครสักคนนึง นางก็จะเวียนกันไป ลุงในตึกก็พาน้องไปตรวจสุขภาพทุกปี คนเอ็นดูคนให้อาหารน้องเยอะมากๆ ดูจากความแมวจรที่ตุ๊บตั๊บมากแต่ละตัว คือแต่ละตัวนึกว่าเป็นแมวบ้านนะ...

สาวหัวจะปวดหลังไปซื้อทรายแมว 10 ถุง เจ้าของร้านดันแถมแมวกลับมาให้เป็นของแถมหนึ่งตัว

เพราะในโรคแมวงอกอาจจะเป็นสิ่งที่คนไม่เคยเลี้ยงมองว่ามันไร้สาระ แต่ในความเป็นจริงแล้วถ้าจะเรียกให้ถูกมันคือภาระที่เราจะต้องมีเพิ่มมากขึ้น อาจจะเป็นเพราะจากความสงสารหรือความเห็นอกเห็นใจหรือความน่ารักที่อดทนไม่ไหวเลยต้องหามาไว้อีกหนึ่งตัวเลยกลายเป็นแมวงอก เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า KhunnaiTik Saranya Tantisattayanon ได้โพสต์เรื่องราวหลังไปซื้อทรายแมว 10 ถุงมาที่ร้านขายอาหารสัตว์ตามปกติที่เธอต้องซื้อมาให้น้องแมวที่บ้านใช้ แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เหมือนครั้งไหน เพราะหลังจากที่เธอได้ซื้อทรายแมวครบจำนวน 10 ถุงทางร้านกลับมีบริการพิเศษ เพราะทางเจ้าของร้านกลับบอกว่าจะแถมแมวกลับมาให้ด้วย 1 ตัว ซึ่งหลายๆคนก็คิดว่านี้อาจจะเป็นเรื่องตลกที่เกิดขึ้นแต่เธอก็ได้ออกมายืนยันว่าได้มาจริงๆนะคะ และนี่ก็ไม่ใช่แค่คอนเทนต์แม้ยังต้องกุมขมับเพราะกลายเป็นแมวงอกเพิ่มอีกตัวในบ้าน และหลังจากที่เธอได้พาน้องแมวกลับมาบ้านด้วยความปวดหัวเพราะทางร้านได้แพ็คใส่ลังกลับมาให้เลย และด้วยความไม่คุ้นชินกับแมวในบ้านของเธอน้องก็ได้หลุดออกจากกรงที่เธอได้ใส่น้องไว้เพื่อให้ปรับตัว และในตอนนี้เธอก็ได้มาอัพเดทว่าต้องเอาน้องไปคืนแล้วไม่ไหวน้องดุมากไล่งับแมวได้ในบ้านเพราะหลุดออกมาจากกรง ที่มา KhunnaiTik Saranya Tantisattayanon

เล่าทั้งน้ำตาที่เสียลูกน้อยไปตรงหน้า ใจสุดระทมหนักแมวตัวแรกในชีวิต

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kajeab Sky ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า แมวตัวนี้เป็นแมวตัวแรกที่เราอุ้มแบบไม่ได้รู้สึกว่าไม่ชอบเลย เราแพ้น้องมากๆ วันนี้ช่วงเวลาประมาณ18.00น.แฟนกับเราออกไปเก็บผ้าข้างบ้าน . ทันใดนั้นเราได้ยินเสียงแมวร้องแบบแหบแห้งมาก เราเอาไฟมาฉายหาน้องจนเจอ คือสภาพตอนนั้นน้องดูแย่มาก ตอนไปไม่ได้คิดอะไรเลยหาตะกร้าอุ้มน้องเอาผ้าห่อไปยังคลินิก คุณหมอออกมาดูพร้อมยากับน้ำเกลือและทำการรักษาน้องขณะกลับหัวใจเราเต้นแรงมาก เราได้แต่นั่งภาวนาว่าอย่าเป็นอะไรเลยนะ ท่าหายเราจะได้อยู่ด้วยกัน เราเอาน้องมานอนในบ้านห่มผ้าให้เราก็อาบน้ำเข้ามาสวดมนต์มั่นใจว่าพรุ่งนี้น้องคงดีขึ้นแหละ แต่แล้วเมื่อเวลา 22.03น. น้องก็ได้จากไปตัวแข็งตาไม่หลับเลยเราใจหายน้ำตาค่อยๆไหลออกมา เราเลยเข้าใจเลยว่าทาสแมวรู้สึกกันยัง เวลาน้องป่วยเราร้องไห้แบบที่ไม่อาย ขอให้น้องไปอยู่ดาวแมวนะ เกิดชาติใหม่ขอให้เจ้าของรักและเมตตาน้องไม่ทอดทิ้งน้องโชคดีนะลูก เจ้าบุญน้อย แมวหลงที่มารบกวนแป๊บเดียวจริงๆ เราเจอกันที่สวนมะนาวเราลากันที่นี่นะ ที่มา Kajeab...

จำต้องเอาข้าวเหนียวคลุกแกงให้แมวมีกิน กับชีวิต2ตายายที่เลี้ยงแมวจรไว้เต็มบ้าน

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : นางมารร้าย ช่างหมู เอี่ยมอิ่ม ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมว+ อันมีใจความระบุว่า ขออนุญาตแอดมินเพจนะคะ เราอยากได้อาหารเอาไปให้แมวของคุณตากับคุณยายข้างบ้านค่ะ โดยคุณตามีแมวทั้งหมด14ตัวค่ะ . ตัวเราเองจับไปทำหมันแล้วทั้งหมด12ต้วค่ะ ตอนนี้เหลืออีก2ตัวที่ยังทำไม่ได้เพราะน้องกำลังท้องอยู่ค่ะ สิ้นเดือนนี้เราต้องเดินทางไปทำงานที่ระยองแล้วค่ะ คุณตากับยายอายุ70กว่าแล้วค่ะ ยายป่วย ส่วนตาทำงานรับจ้างทั่วไป ตอนนี้อาศัยเงินเดือนผู้สูงอายุและตาก็รับจ้างทำงานค่ะ ไม่มีกำลังพอที่จะซื้ออาหารให้น้องแมวเด็กๆได้กิน ต้องกินข้าวเหนียวซาวน้ำแกงประทังชีวิตไปวันๆค่ะ หากท่านใดอยากช่วยเหลือท่านสามารถเข้าไปดูได้ที่ต้นโพสต์ต่อได้เลย เพราะทางผู้โพสต์เองก็ทำเต็มที่แล้วที่จะช่วยเหลือตากับยาย ด้วยชีวิตที่ไม่มีทางเลือก แล้วแกก็พยายามช่วยแมวจรเอาไว้มาก พอช่วยมากเข้าภาระมันก็ตามมาแบบที่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย ขอให้มีคนช่วยคุณตากับคุณยายด้วยนะ ที่มา นางมารร้าย ช่างหมู...

สาวโพสต์อุทาหรณ์ให้กินนมจุก ตัวสะอึกรีบพาไปหาหมอบอกโอกาศรอด 50/50

เพราะทุกครั้งที่เราพยายามจะบอกให้มีความพร้อมก่อนจะนำมาเลี้ยงดูแลไว้ ด้วยหนึ่งชีวิตที่รับมาเลี้ยงไว้ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากเด็กตัวน้อยๆเพียงหนึ่งคนเลย เราเลยย้ำบอกตลอดว่าอย่าให้เกิดความประมาทเพราะอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า S'water Caramelly At First ที่ได้มาโพสต์เรื่องราวเล่าประสบการณ์อุทาหรณ์เกี่ยวกับน้องแมวที่กลืนจุกนมเข้าไป ซึ่งน้องอายุเพียงแค่ 1 เดือนนิดๆ คืนวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 1 ทุ่ม 50 นาที เธอป้อนนมน้องและน้องได้กลืนจุกนมลงไปด้วยความที่เธอตกใจมากและไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน เธอก็รีบพาน้องไปคลินิกแห้งหนึ่ง และหมอก็ได้ทำการเอกซเรย์จึงได้พบว่าจุกนมนั้นได้ลงสู่กระเพาะอาหารไปแล้วแต่ทางคลินิกเองก็ได้บอกว่าควรจะพาน้องไปโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ และเครื่องมือในการส่องกล้องและคีบจุกนมนั้นออก หรือไม่นั้นก็ต้องทำการผ่าออกซึ่งหากอุดตันลำไส้ถ้าถึงขนาดนั้นเจ้าของจะต้องผ่าตัด เธอเลยทำกลับไปว่ามีโอกาสไหมที่จุกนมนั้นน้องจะถ่ายออกมาเอง...

ระหว่างขับติดไฟแดงตาเหลือบเห็นหล่นจากรถ ตัวไม่ทนตัดสินใจจอดปาดหน้าช่วยกันอลเวง

เพราะการเห็นถึงคุณค่ากับหนึ่งชีวิตเป็นเรื่องที่เราจะไม่อาจจะบังคับกันได้ ด้วยขึ้นอยู่กับการปลูกฝังของในครอบครัวที่ถูกเลี้ยงดูมา เพราะบางคนเห็นแล้วอาจจะมองว่าไร้ค่าหรือไร้ราคาที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่กับบางคนแม้ยามเสี่ยงภัยปาดหน้ารถเพื่อบอกให้เขาหยุดเพื่อที่จะช่วยน้อง เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ ได้โพสต์เรื่องราวของเย็นวันที่ 28 ตุลาคม 2565 ซึ่งในขณะที่พวกเขาได้กำลังจะไปจัดสถานที่ ก็ได้มาติดไฟแดงที่แยกคำน้ำแซบเมืองวารินชำราบ และสายตาของพวกเขาก็เหลือมองไปเห็นลูกแมวตัวน้อยตัวหนึ่ง ที่ได้หล่นลงมาจากใต้ท้องรถกระบะคันหนึ่ง ซึ่งพวกเขาก็เลยเข้าไปขวางรถเพื่อที่จะบอกให้กับคนขับดับเครื่องยนต์ และจากนั้นจึงเข้าไปช่วยเหลือเพื่อเอาตัวน้องออกมาด้วยความปลอดภัย แม้ในการช่วยเหลือนี้จะใช้เวลานานและทำให้รถติดอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่อยู่ในระแวกนั้นต่างก็พากันลุ้นเอาใจช่วยเพื่อให้ช่วยน้อยๆนี้รอออกมาได้ และในที่สุดเขาก็ช่วยเหลือชีวิตน้อยๆนี้ออกมาได้และรอดปลอดภัยจนสำเร็จ เขายื่นน้องแมวขึ้นให้กับทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นดูว่าน้องออกมาแล้วปลอดภัยดี แต่ก็ไม่ได้มีการอัพเดทแต่อย่างใดว่าน้องถูกรับเลี้ยงไปจากใครหรือมีใครเขาเอาไปดูแลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเราก็ขอขอบคุณและชื่นชมในความมีน้ำใจนี้เพราะเขาเห็นถึงคุณค่าของชีวิตน้อยๆที่กำลังตกทุกข์ได้อยากและต้องดิ้นรนเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดอยู่ลำพังบนกลางถนนที่รถวิ่งผ่านไปมา . . ที่มา NAKON45 อัญวุฒิ โพธิ์อำไพ

นอนซบไม่ยอมห่างกายหลังช่วยให้รอดพ้น กับชีวิตแมวส้มจรที่รอคอยให้คนมาเติมเต็ม

กว่าแมวจรสักตัวจะมีบ้านมันไม่ง่ายเลยนะ เพราะคนเราก็มักจะเลี้ยงแมวพันธุ์มาก่อน หากแมวจรต้องมาหาบ้านมันก็คงจะยากที่น้องจะมีคนรับไป เหมือนกับชีวิตน้องแมวส้มตนนี้ ที่เกือบต้องหมดลมหายใจไปแล้วแต่น้องกลับรอดมาได้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : AYaa Ratimetakul ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า สวัสดีค่ะเราอยากจะฝากหาบ้านให้น้องแมวส้มด้วยนะคะ น้องเป็นแมวจรแถวๆออฟฟิศ น้องน่าสงสารมาก เมื่อ3เดือนที่แล้ว น้องบาดเจ็บจากการโดนแมวตัวอื่นไล่ฟัดมา เราก็เลยพาไปรักษาและฝากไว้ที่คลินิกจนน้องหายดีแล้ว น้องเป็นผู้ชายนะคะ อายุประมาณ 8-10เดือน ทำหมันและฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว น้องน่ารัก ขี้เล่นอ้อนมาก เข้ากะบะทรายเป็น กินอาหารเม็ดได้ ขอคนที่พร้อมดูแลน้องไปจนกว่าจะหมดลมหายใจและที่สำคัญต้องเลี้ยงระบบปิด100% และพร้อมอัพเดทน้องให้ดูได้อยู่เสมอๆนะคะ เรายินดีไปส่งน้องถึงที่ค่ะ...

แมวตัวแรกในชีวิตที่เลี้ยงดูมา กับการเลี้ยงแบบผิดวิธีแต่เลี้ยงมาจนได้ดี

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Wundee Wundee Dee ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ตกหลุมรักแมวของตัวเองวันละหลายรอบ ก่อนหน้านี้ 3 วันแรกที่เจอกัน ด้วยความไม่รู้เรื่องอาหารแมวเลย แม่เอาข้าวคลุกกับปลากระป๋องให้น้องกินประทังชีวิต . แล้วก็ให้กินนมวัวด้วยนางก็กินอย่างอร่อย (ตอนนั้นไม่รู้ว่ามันไม่ดีสำหรับตัวน้องแมวเอง) พอทุกวันนี้เวลาแม่เปลี่ยนอาหารให้ ไม่ว่าเม็ดหรือเปียก ยอมกินทุกอย่างไม่เคยเกี่ยงเลย ไม่รู้ว่ามีทรายแมวโดยเฉพาะเพราะไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อน แม่แกก็ไปโกยทรายข้างบ้านผสมกับขี้เถ้าใส่กะละมังให้ นางก็ยอมเข้าแต่โดยง่ายดายโดยไม่ต้องสอน ทุกวันนี้จะเปลี่ยนทรายกี่ยี่ห้อ นางก็เข้ากะบะได้เป็นปกติทุกรอบ พาเข้าอยู่ในบ้านนางก็ไม่เคยรื้อข้าวของในบ้าน อาบน้ำ เป่าขน ตัดเล็บ...