ถ้าไม่อยากใจสลายต้องหมั่นสังเกต ยิ่งเป็นแมวขี้เกียจยิ่งมีความเสี่ยงถ้าไม่อยากเสียใจภายหลัง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mook Kaewsri ได้เผยเรื่องราวและอุทาหรณ์ของแมวที่เขานั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเขานั้นแทบไม่เคบป่วยเลย แต่จู่ๆน้องกลับป่วยขึ้นมาแบบกะทันหันอย่างไม่ทราบสาเหตุ จนต้องรีบส่งโรงหมอและคุณหมอได้บอกว่าผลที่เกิดขึ้นเพราะความขี้เกียจ . โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุว่า อยากจะฝากเพื่อนๆพี่ๆไว้เป็นอุทาหรณ์นะคะ เรื่องมันมีอยู่ว่าน้องแมวของเราเป็นตัวผู้ (ชื่อโทระ) น้องแข็งแรงและกินเก่งอ้วนสมบูรณ์มาก ไม่เคยเจ็บป่วยสุขภาพดีสุดๆ วิ่งเล่นปกติ ซนมากๆแต่โทระเป็นแมวใจดีนะ น้องชอบเข้าหาคนเสมอแถมขี้อ้อน จนวันนึงที่บ้านมีไหว้เจ้า เลยเก็บน้องใว้ในห้องนอน ส่วนใหญ่เวลามีไหว้เจ้าหรือขนของจะเก็บไว้ตลอด (น้องกินและนอนในห้องตอนกลางคืนอยู่เป็นประจำ) และไม่ได้ใส่ใจมากเพราะทำเป็นประจำอยู่แล้ว พอทำอะไรเสร็จเราจะให้น้องลงมา แต่น้องดูซึมๆเราก็คิดว่าน้องงอลเราเฉยๆ เลยเอาขนมแมวมาให้ปลอบใจ (ปกติชอบมาก)...

จุกในอกเห็นแล้วน้ำตาแทบไหล ต้องคอยหลบภัยที่เขาคิดเข้าใกล้ด้วยตัวไม่ไว้ใจใครเพราะตนเป็นแค่จร

เมื่อรับสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงก็ควรจะดูแลเขาจะกว่าจะหมดลมหายใจ ไม่ใช่ว่าอยากจะเลี้ยงตามกระแสนเห็นเขามีเห็นแมวเขาน่ารักจึงรับมาบ้าง แต่พอโตมาไม่น่ารักเหมือนดังเดิมจึงคิดหาวิธีนำน้องไปเทไว้ แต่อย่าลืมว่าน้องก็มีชีวิตจิตใจเชกเช่นเดียวกับมนุษย์อย่างเราๆ . โดยคุณ : ความรักไม่ผิด ผิดที่ไม่ได้รัก ได้โพสต์ลงในกลุ่มเอาไว้ว่า เมื่อหนูยังเล็กคงน่ารัก คนเลี้ยงหนูก็คงเอ็นรักเอาใจใส่ แต่พอหนูเริ่มโตขึ้นมาความน่ารักของหนูหมดลงไปแล้วหรือ? ทำไมคนเลี้ยงหนูเขาถึงได้ทำกับหนูแบบนี้เรานี่น้ำตาไหลเลย เราคงดูแลได้เพียงแค่ให้อาหารนะ หิวก็แวะมาทานนะคะเรายินดีช่วยน้องอย่าเลี้ยงหากไม่ได้รักแมวจริง อย่าเลี้ยงหากไม่คิดเลี้ยงดูเขาไปจนวาระสุดท้ายของชีวิตเราอยากจะฝากไว้ให้คิดสำหรับใครที่คิดจะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตาม นี่แหละหนาเราถึงได้บอกเสมอว่าถ้าไม่พร้อมอย่าได้คิดเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือใครก็ตามเลย เพราะอย่าลืมไปว่าน้องก็มีชีวิตนะทำไมตอนนั้นถึงเลี้ยงได้ แล้วใยตอนนี้จึงกลับกันคุณไม่รักน้องแล้วเหรอ และดูสภาพของน้องตอนนี้บ้างสิว่าน้องต้องได้พบเจอกับอะไรมาบ้างแล้ว ที่มา ความรักไม่ผิด ผิดที่ไม่ได้รัก

จำต้องหอบลูกเร่ด้วยหัวอกแม่ลูกอ่อน ถูกเขาจับไร้บ้านนอนพรุ่งนี้แล้วเขาจะเทวัดยังไม่รู้ตัว

ด้วยหัวอกคนเป็นแม่แล้วคงจะไม่มีอะไรทำให้เราสุขใจเท่ากับลูกได้กินอิ่มหรือนอนหลับ แม้เป็นเพียงสัตว์เล็กแต่ก็มีความเป็นแม่ในตัวสูงเพราะชีวิตเกิดมาเป็นจรจึงต้องหอบลูกเร่หาบ้านหวังอยู่สุขสบาย แต่ไม่วายถูกเขาจับไว้เพราะไปรบกวนบ้านอื่น เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แมววังอารียา : Cat Areeya Palace ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวสามสีแม่ลูก่อน หลัวนิติหมูบ้านเขาจับแมวแม่ลูกอ่อนได้ครอบครัวนึง ซึ่งเขาจึงมาฝากเรื่องเอาไว้กับแฟนเพจว่าเราพอจะช่วยอะไรได้บ้างมั้ยครับผมขอเขาไว้คืนนึง ว่าพรุ่งนี้จะลองหาบ้านให้น้องๆดูก่อน ตอนนี้แม่ลูกสี่ชีวิตอยู่ในกล่องปิดผนึกเจาะรูอยู่นะครับลูกสามตัวน่าจะยังอายุไม่เกิน 2 สัปดาห์ได้คงยังไม่หย่านมแต่ก็ดูว่าน้องแข็งแรงลืมตาได้ปกติเริ่มจะยืนหรือเดินไๆด้แล้วส่วนตัวแม่ก็ดูแข็งแรงไม่ขู่หรือดุร้าย ถ้าหาบ้านไม่ได้นิติก็คงจะนำไปเทให้ไกลๆจากหมู่บ้านแน่ หรือไม่ก็จะเป็นวัดถ้าเจอสุนัขเขาคงจะไม่รอดจะทำยังไงดี เพราะความสงสารเด็กๆและแม่เขาจึงขอกับทางนิติเอาไว้ว่าขอให้ช่วยหาบ้านให้น้องก่อนหนึ่งวันถ้าได้จะได้ไม่ต้องนำน้องไปเท เพราะโอกาสรอดชีวิตของลูกแม่เด็กถ้าอยู่นอกหมู่บ้านหรือวัดก็มีแต่หมากับแมวเจ้าถิ่นเพราะชีวิตน้อยๆเองคงไม่รอดอีกผู้เป็นแม่ก็คงจะปกป้องลูก 4 ตัวในวัยกำลังโตไม่ไหวด้วยเป็นแมวจรจึงต้องเร่ไปหาบ้านอยู่อาศัยให้ลูกปลอดภัยดี ซึ่งถ้าเพื่อนๆอยากจะรับเลี้ยงน้องก็สามารถติดต่อได้ต้นโพสต์ ที่มา แมววังอารียา : Cat Areeya Palace

เห็นเดินเร่เซไร้เรี่ยวแรงด้วยเจ็บหนัก จอดรถลงไปทักรู้ตัวอีกอยู่ในกรงในบ้านแล้ว

ด้วยใจถ้าได้เป็นทาสแมวแล้วเวลาเราขับรถไปเที่ยวหรือไปต่างจังหวัดแล้วได้พบเจอหรือเห็นแมวจรเจ็บก็อดใจสงสารไม่ได้ แม้ต้องจอดรถลงไปดูหรือไปช่วยเหลือแค่ให้อิ่มท้องก็ยังดีบางคนมีเหมือนถูกดลใจอุ้มขึ้นรถกลับบ้านมาด้วยรู้ตัวอีกก็อยู่ในบ้านแล้ว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นุค ดวงพร ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวส้มหลังจากเขาได้เจอกับน้องโดยบังเอิญและก็ไม่รู้ว่าอะไรกลใจให้อุ้มขึ้นรถกลับบ้านมา เพราะสภาพตอนได้พบเจอน้องไร้เรี่ยวแรงและเจ็บหนักเธอจึงจอดรถลงไปดูรู้อย่างเดียวว่าต้องพาไปหาหมอ และก็ไม่รู้ว่าหลังจากหาหมอแล้วจะทำยังไงต่อพอมารู้สึกตัวอีกก็คือน้องอยู่ในกรงในบ้านเรียบร้อยแล้ว ด้วยเธอเองก็เป็นทาสแมวอยู่แล้วด้วยแต่ก็ไม่เคยเลี้ยงแมวเป็นโรคเรื้อนมาก่อนเลย แม้แมวในบ้านของเธอจะโกรธแล้วไม่ให้อุ้มไม่ยอมกินข้าว ซ้ำยังสี่ทั่วบ้านต้องตามเช็ดก็ไม่คิดจะปล่อยเลย เพราะสภาพของน้องตอนได้เจอเห็นแล้วก็ปวดใจนักเป็นแมวจรแล้วยังต้องเดินเร่ขออาหารเพื่อให้อยู่รอดในแต่ละวัน ซึ่งตัวน้องก็เจ็บหนักด้วยโรคผิวหนังเป็นเรื้อนแม้จะไร้เรี่ยวแรงแต่ชีวิตไม่มีใครจะช่วยเหลือ ก็ต้องจำทนไปซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ได้บอกว่าให้แยกน้องเอาไว้ก่อนอย่างให้ปล่อยออกและกันแมวในบ้านตัวเองไม่ให้เข้ามายุ่งเพราะโรคผิวหนังของน้องเองสามารถติดต่อกับแมวอื่นได้ง่าย และถ้าจะนำมาเลี้ยงดูก็ต้องพาไปหาหมอว่ามีโรคภายนอกซึ่งเรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเพราะน้องอาจจะนำภาหะมาติดกับแมวของเธอได้อีกแต่เราก็ขอชื่นชมกับผู้เป็นเจ้าของโพสต์ซึ่งไม่รีรอและไม่คิดมากยื่นมือเข้าช่วยเหลือน้องไว้ขอให้บุญหนุนนำ ที่มา นุค ดวงพร

ระหว่างทางกลับบ้านเห็นยืนรอรถไม่ยอมกลับ เดินหายไปสักพักได้เห็นแล้วยิ้มไม่หุบ

ด้วยการเลี้ยงดูในครอบครัวทำให้พวกเขามีจิตใจซึ่งอ่อนโยนกับสัตว์ ด้วยได้เติบโตมาร่วมกันหรือเคยได้เล่นและสัมผัสมาก่อนหน้าเวลาได้ไปเห็นหรือพบเจอกับหมาหรือแมวจรก็จะเห็นแล้วสงสารและอดไม่ได้ต้องหาอะไรมาให้พวกเขาได้อิ่มก่อนอยู่ตลอด เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชวลิต กมลสวัสดิ์ ได้โพสต์เรื่องราวหลังเขากำลังจะขับรถกลับบ้านด้วยจากการทำงานอันเหน็บเหนื่อยและเห็นเด็กนักเรียนสองคนกำลังรอรถเมล์อยู่ในใจก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่สักพักก็มีแมวจรส้มแม่ลูกอ่อนเดินมาจากไหนไม่รู้ เด็กสองคนก็มองอยู่พักใหญ่แล้วเดินหายไปท่ามกลางผู้คนและสองคนก็เดินกลับมาพร้อมกับอาหารในมือพร้อมนำกระดาษสมุดนำมาวางไว้ใส่อาหารให้กับน้องแมวส้มแม่ลูกอ่อน แม้รถเมล์มาแล้วพวกเขาก็ยังไม่ยอมไปเพราะรอให้น้องกินอิ่มก่อนและนำกระดาษไปเท ซึ่งเป็นภาพในระหว่างทางการกลับบ้านเมื่อได้เห็นแล้วก็สุขใจเขาจึงนำมาโพสต์ลงในกลุ่มพร้อมกับอวยพรให้กับน้องสองคนประสบความสำเร็จด้วยการงานและการเรียน เพราะการเลี้ยงดูจากครอบครัวของน้องสองคนทำให้น้องเกิดมามีจิตใจดีและมีความเมตตากับสัตว์ร่วมโลก ที่มา ชวลิต กมลสวัสดิ์

ตกดึกได้ยินเสียงร้องยังคิดว่าคงเล่นกันอยู่ ออกมาเห็นเข่าทรุดใจแม่แทบสลาย

เพราะด้วยการได้เลี้ยงแล้วจึงเกิดความรักด้วยพวกเขาก็เหมือนกับเด็กต้องคอยดูแลคอยเอาใจใส่ เพราะไม่รู้ว่าอันไหนเป็นภัยกับตัวเอง ด้วยบางบ้านก็เลี้ยงไม่เหมือนกันเพราะเห็นว่าภายในรั้วบ้านมีความปลอดภัยมากพอแล้วแต่ในความจริงแล้วอาจจะยังปลอดภัยไม่พอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า อรพรรณ ชวดอุดม ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวสามตัวของเขาลงในกลุ่ม หลังตกดึกกำลังจะเข้านอนได้ยินเสียงร้องวิ่งเล่นกันสนุกยังคิดว่าน้องคงจะเล่นกันไม่ยอมหลับยอมนอน เธอจึงเดินออกมาดูน้องและได้เห็นว่าน้องกำลังวิ่งไล่ตัวอะไรอยู่ เธอจึงไปตามแฟนมาให้ช่วยดูจึงได้เห็นว่าน้องแมวกำลังไล่น้องมูอยู่ ซึ่งเสียงเธอได้ยินเป็นเสียงของมูซึ่งกำลังขู่น้องแมว เพราะถูกแมวสามตัวต้อนจนจนมุมแฟนของเธอจึงต้องช่วยกันน้องแมวออกไปและจัดการมูจนเรียบร้อยจึงคอยปล่อยให้แมวออกมา เพราะด้วยความพวกเขาเป็นสัตว์เล็กซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นภัยกับตัว หรือพวกเขาคิดว่าเจ้ามูจะเป็นอันตรายกับพ่อและแม่จึงพยายามช่วยกันต้อนให้ออกจากเขตบ้านของตัวไปเพื่อความปลอดภัยของผู้เป็นเจ้าของ ซึ่งถ้าไม่มีแมวเธอก็คงจะไม่รู้เลยว่ามูกำลังจะเข้าบ้านของเธอมา และอาจจะตกอยู่ในอันตรายและแม้น้องแมวเองก็ปลอดภัยดีทุกตัว แต่เราก็ไม่ควรจะวางใจด้วยปล่อยให้พวกเขาอยู่กันเองภายนอกบ้าน ซึ่งถ้าเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆเราอาจจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตเพราะความไว้วางใจมากเกินไปและไม่มีอะไรจะทำให้พวกเขากลับคือมาได้เลย ที่มา อรพรรณ ชวดอุดม

ชีวิตของแม่มันไร้ทางเลือก คาบลูกวิ่งหนีเอาไปแอบไว้พร้อมส่งสายตาวิงวอนเมตตาพวกหนูที

เพราะชีวิตที่เกิดมาไร้คนจะเหลียวแลด้วยตนเกิดเป็นจรไม่มีบ้านเหมือนใครๆ ต้องอดมื้อกินมื้ออยู่อย่างอดอยากเพื่อให้ตนรอดชีวิตไปวันๆ เหมือนกับแม่เหมียวตนนี้กับชีวิตที่ไม่มีทางเลือกนัก ต้องคาบลูกวิ่งมาแอบอยู่ที่หลังบ้านด้วยสายตาสุดเศร้า . โดยคุณ : Pawita Paa ได้โพสต์ลงในกลุ่มและเล่าว่า วันนั้นเลิกงานกลับมา เราได้พบเจอแม่แมวคาบลูกมาที่หลังบ้าน แววตาแรกที่เห็นก็คือเราสงสารจับใจเลยค่ะ เธอตัวผอมเธอดูหวาดกลัวและเธอต้องการความช่วยเหลืออย่างยิ่ง และภารกิจเลี้ยง"มารวย"และลูกๆทั้ง 5 จึงเริ่มต้นขึ้น เค้าเข้ามาอยู่แบบเจียมเนื้อเจียมตัว กินง่าย พอเด็กๆอายุได้1เดือน เราก็ประกาศหาบ้านให้โชคดีได้บ้านทุกๆตัว และเราก็พา"มารวย"ไปทำหมัน ตอนนี้มารวยมีบ้านรักเค้าและเค้าก็ดูมีความสุขมากๆ แต่น้องยังติดนิสัยหวาดกลัวอยู่บ้าง เพราะโลกภายนอกมันดูน่ากลัวเหลือเกิน แต่ตอนนี้แม่รัก"มารวย"มากๆเลยนะ ไม่ต้องกลายเป็นจรแล้วนะลูก จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์...

เฝ้าโทษตัวเองหนักหลังพาน้องใหม่เข้าบ้านด้วยความสงสาร ทำให้ลูกสิ้นลม

ด้วยเพราะความสงสารในคนเราทำให้ยามเห็นพวกเขาเป็นจรเดินเร่หรือหลงมาแล้วก็อดใจไม่ไหว เข้าไปช่วยเหลือแต่ความสงสารของเราก็ย้อนมาทำร้ายแมวของเราเอง เพราะเมื่อเห็นว่าถูกเขาเทไว้แม่แมวก็ใกล้สิ้นใจไร้ใครจะช่วยเหลือจึงรับเขามาหวังจุนเจือไม่คิดเผื่อเป็นภัยกับลูกตัว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aom Saypin ได้โพสต์เรื่องราวบทเรียนราคาแพงเพราะด้วยความสงสารของตัวเธอเอง เมื่อคุณลุงคนนึงได้เอาลูกแมวเด็กมาเทไว้ให้บอกว่าแม่ของน้องใกล้จะสิ้นใจ เธอเองก็อดสงสารไม่ได้เพราะความเป็นทาสแใวก็เลยเอาเข้ามาบ้านแล้วก็จะหาบ้านให้กับน้องใหม่ เพราะเธอเองก็มีแมวอยู่แล้วรวม 5 ตัวได้เธอจะต้องหาบ้านใหม่ให้กับน้องและก็ได้ด้วยความซึ่งน้องยังเป็นเด็กและกินนมเองไม่ได้จึงอาสาเลี้ยงน้องต่อเมื่อโตพอจะกินนมเองได้ก็จะนำไปให้กับบ้านใหม่ เพราะก็ตกงานเลยมีเวลาว่างจะเลี้ยงน้องก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จนวันนึงแมวเด็กก็เริ่มถ่าย เป็นเหมือกสีใส่ๆก่อน ต่อมาก็ถ่ายเหลวและถ่ายเป็นโลหิตจึงพาน้องแมวไปหาหมอหมอก็บอกว่าน่าจะเป็นเพราะอาหาร เลยเปลี่ยนอาหารให้น้องแต่น้องก็ยังไม่หายเลยเปลี่ยนคลีนิค คลีนิคบอกว่าน้องไม่ได้เป็นอะไรมากทานยาเดี๋ยวก็หายน้องกินได้สองวันก็เริ่มมีอาการอาเจียนเป็นฟองสีขาวๆ เธอเลยเริ่มเปิดหาข้อมูลดูสรุปว่าน้องน่าจะเป็นหัดเลยพาไปโรงบาลเกษตรซึ่งอุณหภูมิน้องต่ำมากๆ โรงบาลเขาก็ไม่รับสัตว์มีเชื้อต้องพาไปโรงบาลอื่นโทรไปถามค่าใช้จ่ายคืนนึงตก 1550 แล้วแต่เคสอีกถ้าหนักต้องใช้ยาเพิ่มก็เสียเยอะหน่อยไม่เกิน 2 ชั่วโมงน้องได้จากไปเร็วมาก เริ่มกังวลเป็นห่วงแมวในบ้านคอยเฝ้าระวังอาการสรุปอาการก็ออกมา 1 ตัวจับแยกเลยซึ่งก็คอยเฝ้าระวังต่อถัดมาไม่กี่วันน้องตัวเล็กก็ได้จากไปอีก 2 ตัวโดยไม่มีอาการใดๆ...

ได้ยินเสียงร้องมาแล้วร่วม 3 เฝ้าตามหายังไม่พบเจอเปิดท่อดูเห็นนอนขดเป็นก้อนขน

เพราะชีวิตเกิดมามีไม่เท่าเป็นจรจำต้องเดินเร่ตามแม่อยู่ ด้วยชีวิตเกิดมาไม่มีใครเขารู้ขอแค่พออยู่มีอาหารประทังไป แม่คงต้องพาเร่ตัวละเห่เฝ้าตามแม่ไปคงจะคาบแล้วตกลงไป ยังมีลมหายใจเฝ้าร้องให้ช่วยตัว ได้ยินเสียงร้องมาแล้วร่วม 3 วันได้ยังไม่วายเฝ้าตามหาทั่วบ้านไม่พบ เลยเปิดท่อดูแล้วประจบเห็นนอนขนเป็นก้อนขนเกือบสิ้นใจ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wiriya Kyo Patt ได้โพสต์เรื่องราวของน้องแมวหลังจากเขาได้ยินเสียงน้องร้องมาแล้วร่วม 3 วันซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าน้องมาจากไหนด้วยน่าจะเป็นแม่แมวเขาคาบมาไว้แล้วทำตกหล่นบนหลังคา เขาก็ยังหาตามเสียงของน้องสองสามวันแล้วก็ยังไม่เจอตัว และก็ได้เปิดท่อดูเจอสภาพนอนขดเป็นก้อนขนอยู่ในท่อน้ำเท โชคยังดีมีพอเข้าข้างยังมีลมหายใจอยู่บ้างเลยพาไปหาสัตวแพทย์หมอบอกว่าสุขภาพดีและแข็งแรง แต่แผลกใจอย่างหนึ่งตรงแมวอะไรไม่รู้ติดท่ออยู่ 3 วัน ออกมาได้ก็ซนเฉยเลย ด้วยเขาเองก็จะรับน้องเอาไว้เลี้ยงเองและก็เป็นโชคดีของน้องซึ่งยังไม่ได้รับอันตรายใดๆ และเขาก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้เรียก "ไอ้เน่า" ไปก่อนแล้วกัน ด้วยปกติแมวถ้าเกิดติดอยู่ในซอกแคบหรือไม่ได้รับอาหารและน้ำพวกเขาก็จะต้องไม่มีเรี่ยวแรง แต่น้องแมวเองเมื่อออกมาก็กินข้าวกินน้ำอิ่มและก็มีแรงซนได้ต่อเลย...

ที่บ่นเพราะรักหมดใจ แต่ด้วยตัวยังเป็นเด็กจึงไปกินของต้องห้ามจนถูกแม่บ่นหนักทำหน้างอทำหน้าจ๋อย

ด้วยความเป็นเด็กและยังไม่รู้ความ การสั่งสอนอะไรในวัยนี้ก็เลยค่อนข้างยากเลยสำหรับทาสแมวอย่างเราๆ เหมือนกับต้าวก้อนสามสีน้อยตนนี้ที่พยายามจะกินทราย อิแม่ก็ไปเห็นเข้าก็เลยสั่งเลยสอน แต่ด้วยนางยังเป็นเด็กยังสอนอะไรไม่รู้ความมาก นางก็แอบไปกินทรายเหมือนเช่นเคยอีก . โดยคุณ : Anny Fang ได้โพสต์ลงในกลุ่มเอาไว้ว่า ต้าวสามสีเด็กโดนดุเน้อ! เพราะนางพยายามจะกินทรายแมวอยู่นั่นแหล่ะเราก็สั่งห้ามไม่ให้กินแล้วนะว่ามันกินไม่ได้ มันไม่ใช่ของกินแต่ด้วยยังเป็นแมวเด็กและยังไม่รู้ความเราก็เลยต้องดุและห้ามกิน พอรู้ความอ่ะมีหงอยเลยมีน้อยใจหนักมันกินไม่ได้นะลูกเอ้ย! ทาสแมวอย่างเราๆก็ปวดเลยเห้ยนะ พยายามบอกพยายามสอนแล้วแต่มันก็ไม่เข้าหัวนางเลยแม้แต่น้อย จนถูกดุไปตามระเบียบผลสุดท้ายทำหน้าจ๋อยไปเลยจ้า จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกล่าวว่า เห็นหน้าน้องแล้วดุไม่ลงเลยจริงๆนางคงสำนึกผิดแล้วนิดหน่อยแล้วจริงๆ บ้างก็บอกว่าแมวเด็กก็แบบนี้แหละหนาชอบงับชอบกินของที่มันกินไม่ได้อยู่เรื่อยไป ทาสแมวอย่างเราๆต้องหมั่นสังเกตนะ ที่มา Anny Fang