น้ำตาของลูกผู้ชายไหลรินออกมาแม้แม่เห็นยังจุกอก หลังสุดดวงใจระหกต้องลาลับจากไปดาวแมว

จะให้ทนอยู่ยังไหวจำดวงใจจากน้ำตาไหลเต็มหน้าพรากถูกเขาเข้ามาพรากดวงใจหนู แม้คนเป็นแม่เห็นยังเฝ้าทนยืนดูแทบจะไม่ไหวในใจจุกอกไปพูดไม่ออก เพราะลูกชายนั่งกอดร่างน้องแมวที่ไร้ลมหายใจอุ้มกอดเอาไว้ในอ้อมอกพร้อมกับสะอึกสะอื้นด้วยความโศรกเศร้า เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanpen Pridum ได้โพสต์เรื่องราวของน้ำตาของลูกผู้ชายแม้จะเป็นโพสต์แรกแต่ก็ทำให้คนบนโลกออนไลน์ต้องจุกอก พร้อมกับบอกนี่คือสิ่งที่เธอกลัวมากที่สุดและวันนี้มันก็เดินทางมาถึง RIPเจ้าถุงทอง น้องแมวสุดที่รัก แม้จะสงสารลูกมากๆเพราะด้วยความรักเธอก็เลี้ยงเขามาให้อยู่ร่วมกันเป็นให้เหมือนเพื่อนพี่น้องเฝ้าคอยอยู่ด้วยกันมาตลอดแม้ยามจะนอนก็ไม่เคยห่างเลย ลูกก็รักเจ้าถุงทองมากๆ เจ้าถุงทองก็มาจากไปแล้วเพราะน้องแมวถูกรถทับช่วงท้องและขา่หลังแม้จะไม่มีแผลใดๆ แต่เจ้าถุงทองก็มาจากไปลาลับไม่กลับคืน ลูกของเธอเลยเอาน้องถุงท้องมาอุ้มกอดไว้พร้อมกับร้องไห้เสียใจที่เจ้าถุงทองถูกเขาพรากจากไปและต้องลาจาก เพราะความที่เขาไม่เห็นว่ามีแมวอยู่ใต้ท้องรถและน้องก็ไปนอนอยู่ใต้รถเลยถูกทับจนสิ้นลมแต่แม่เห็นแล้วก็ระทมเพราะความเสียใจของลูกชาย เพราะเขาก็คงจะเจ็บปวดมากด้วยความรักที่อยู่ร่วมกันมาทำให้ตัวพูกพันธ์กับแมวมาก แม้จะเป็นภาพที่ทำให้หลายคนออกมาบอกว่าหดหู่ใจมากและไม่ควรจะเอามาลงไว้ ซึ่งเธอก็ขอโทษด้วยที่ทำให้หดหู่ใจแต่เธอก็ไม่ได้มีเจตนาอื่นใดๆเลย แค่อยากจะให้เห็นถึงความรักความอ่อนโยนของเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อสิ่งที่เค้ารักมากๆ และก็อยากจะไม่ให้มันเกิดกับใครอื่นใดเลยจริงๆ ที่มา Wanpen Pridum

แววตาของอิสระภาพของ 70 ชีวิตที่ถูกเขาให้อยู่แต่ในตระกร้ามานานนับแรมปี

แม้แต่การที่เราจะรักหรือจะเอาเขามาเลี้ยงดูเราก็ควรจะมีจุดที่ให้พวกเขาอยู่หรือเรียกว่าเป็นความรักที่มีความพอดี เพราะแม้แต่การรักพวกเขามากจนเกินไปอาจจะเป็นผลร้ายให้กับพวกเขาแทนได้ เหมือนกับน้องแมวกว่า 70 ชีวิตที่มีคุณป้าคนหนึ่งคอยดูแลแต่ให้เขาอยู่ในตระกร้าจนน้องแมวแทบจะเดินไม่ได้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ทับทิม เสาร์สุด ได้โพสต์เรื่องราวแววตาของอิสระภาพครั้งแรกที่ได้เห็นโลกภายนอกหลังจากถูกเขาเลี้ยงดูให้อยู่แต่ในตระกร้าแม้จะกินนอนถ่ายก็ต้องทนอยู่ในตระกร้ามานานนับแรมปี เพราะแม้บางคนอาจจะมีแค่สิ่งเดียวที่จะทำให้มีชีวิต จนอาจจะหลงลืมไปว่าอีกชีวิตหนึ่งพวกเขาก็มีชีวิตอยู่อย่างทุกข์ทรมานจากความรักที่ไม่พร้อมจะเลี้ยงดูจากคนที่อยากจะเลี้ยงและเป็นห่วงด้วยใจก็ตาม ซึ่งทางพี่ทับทิมเสาร์สุดเองได้ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือน้องแมว 70 ชีวิตที่มีคุณป้าสติไม่ดีเป็นคนเลี้ยงดูน้องๆ แต่ด้วยความรักของคุณป้าและความเป็นห่วงน้องแมวกลัวว่าจะถูกเพื่อนบ้านเบื่อเพราะอาจจะเคยถูกมาก่อนและทำให้น้องสิ้นและจากไป ป้าเลยเลี้ยงน้องแมวไว้กว่า 70 ชีวิตภายในตระกร้าซึ่งบางตระกร้าเองก็เป็นแค่ตระกร้าผ้าและมีเขียงทับเอาไว้กันไม่ให้น้องออกไปไหน เพราะภาระที่ต้องเลี้ยงดูมันหนักมากไปป้าเลยขอความช่วยเหลือเป็นค่าอาหารให้กับเด็กๆ แต่คนที่ได้รับเรื่องก็เลยได้เห็นสภาพความเป็นอยู่เพราะขอรูปจากป้ามาดูเลยได้เห็นว่าพวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่กันอย่างทุกข์ทรมาณจากความรักและความหวังดี ซึ่งพี่ทับทิมเองก็ได้ช่วยน้องๆออกมาหมดแล้ว ถึงแม้ว่าน้องๆจะถูกเลี้ยงดูไม่เคยได้รับกับอิสระภาพแต่จากการดูสภาพน้องแมวบางตัวที่คุณป้าเขาได้เลี้ยงมาก็ถือว่าพวกเขาได้กินอิ่มท้องมาดีแต่อาจจะไม่ใช่กับเรื่องการเป็นอยู่ที่จะต้องจองจำพวกเขาเอาไว้ให้อยู่ในโลกแคบๆ แต่อย่างไรก็ตามการรักหรือการเลี้ยงพวกเขาก็ควรจะให้อยู่ในความพอดี และอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขาก็มีชีวิตและจิตใจเหมือนกับพวกเราเอง ที่มา ทับทิม เสาร์สุด

สาวไม่เคยรู้มาก่อนว่าแมวของเธอจะไม่เหมือนใคร หลังอยู่เมืองกรุงแล้วย้ายมาอยู่ต่างจังหวัด

แมวส่วนมากย้ำเลยนะว่าส่วนมาก พวกมันรักอิสระชอบท่องเที่ยวไม่ชอบอยู่ติดบ้าน พอเปิดประตูบ้านได้เท่านั้นแหละ พวกนางก็จะหาโอกาสวิ่งหนีออกไปแบบไม่คิดเลย แต่สำหรับเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวนี้มันกลับแตกต่าง เรียกได้ว่าอาจจะเป็นแมว 1 ใน 10,000 ตัวเลยนะที่เป็นแบบนาง . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Ladda Thamthathong ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า สวัสดีค่ะเราเลี้ยงน้องแบบปิดมาช่วง 6-7 ปีแรกที่กรุงเทพ พอย้ายกลับบ้านมายังที่ต่างจังหวัดเราก็ไม่สามารถเลี้ยงแบบเดิมได้ เพราะบ้านต่างจังหวัดเป็นร้านค้าปิดบ้านไม่ได้เลย เราจึงตัดสินใจเลี้ยงแบบปล่อย...แต่ผลที่ได้ก็คือน้องไม่เคยออกนอกบ้านไปไหนมาไหนเลย มากสุดก็แค่เฝ้าทางออกและเดินเล่นบริเวณรั้วบ้าน ข้างในอิแม่ปลืมมากลูกของเธอไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะปกติแล้วถ้าเป็นแมวรักอิสระเหมือนแมวทั่วๆไปนางจะวิ่งและหายไปหลายวันเลย แต่สำหรับแมวของเธอแล้วมันไม่ไปไหนเลยจ้า มันอยู่แต่บ้านเต็มทีก็ตรงรั้วหน้าบ้านนี่แหละ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์...

พยายามปลุกให้ลุกกลับมาเล่นด้วยก่อน หลังตัวพาไปทำหมันตัดสินใจผิดทำให้ลูกสิ้นยังเฝ้าโทษตัวเอง

อาจจะเพราะเคยมีคนเคยพูดไว้ว่าไม่มีใครเขาจะมารักลูกเราได้เท่าตัวเราเองก็คงจะเป็นเรื่องจริงทีเถียงไม่ออก เพราะไม่ใช่แค่ลูกที่เป็นคนของเราและแม้แต่สัตว์เลี้ยงเองบางคนเขาก็เลี้ยงและดูแลมาเหมือนกับลูกจริงๆ ยามจะพาไปไหนหรือต้องฝากใครเอาไว้เราก็อยากจะให้คิดให้ดีๆ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pantidtra Saikham ได้โพสต์เรื่องราวรูปของน้องแมวตัวหนึ่งพยายามจะดมและปลุกน้องแมวอีกตัวให้ตื่นขึ้นมาเล่นกับตัวเหมือนเก่า เพราะการไปทำหมันแมวควรทำหรือไม่ทำด้วยจากก่อนทำคือแข็งแรงร่าเริงเล่นกับน้องได้ร่วมวัน พอหลังทำคือซึมข้าวไม่กินนอนอย่างเดียวฉี่มันตรงที่นอนเลยเพราะไม่มีแรงจะลุก พอพาไปหาหมอหมอก็ตรวจดูมีออกในกระเพาะและแอ้กออกมา สุดท้ายน้องก็จากไปก่อนที่เธอจะไปรับเป็นคตรงแรกที่พาแมวไปทำหมัน แม้เธอจะหาข้อมูลมาก่อนทำและหลังทำมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่น้องก็ไม่รอดและอีกตัวก็ยังไม่ได้ทำเพราะน้องเพิ่งจะเข้า 6 เดิอนเลยคิดว่าควรจะทำอีกมั้ย หรือไม่ทำดีกว่าแต่อาศัยอยู่บนคอนโดก็กลัวว่าข้างห้องเค้าจะรำคาญ ถ้าเวลาน้องเกิดฮีทขึ้นมาเพราะตัวแรกก็เป็นเลยตัดสอินใจพาไปทำหมันจะได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นตอนน้องฮีท แม้จะให้หมอตรวจร่างกายน้องอย่างละเอียดทุกอย่างก่อนทำแล้ว และงดน้ำอาหารเธอก็เฝ้าดูตลอดหมอเองก็ยังบอกว่าน้องปกติดีและสามารถทำได้ แต่พอหลังจากไปทำอาการน้องก็เหมือนอย่างที่บอกเธอเลยเปลี่ยนคลีนิคไปอีกที และให้คุณหมอตรวจดูและพบว่าน้องมีภาวะสีแดงจาง เลยน้องก็เลยจากไป ที่มา Pantidtra Saikham

สาวโพสต์ปสก.หลังแมวร่วงตกลงมาจากรถคันข้างหน้าทำหายใจไม่ทั่วท้อง

เพราะอุบัตเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาแม้เราจะพยายามระวังไม่ให้เกิดแล้วก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะนอกจากจะต้องระวังเราเองแล้วก็ต้องระวังคนอื่นด้วย ซึ่งบนทองถนนอุบัติเหตุก็สามารถจะเกิดขึ้นได้ในตลอดเวลา สิ่งที่เราจะต้องมีมาทุกในการขับขี่ก็คือสติเหมือนกับเธอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นัซซี ไคโด ได้โพสต์เรื่องราวขอแชร์ประสบการณ์แมวร่วงตกลงมาจากรถคันข้างหน้าค่ะ เพราะเจ้าของรถคงจะไม่รู้จริงๆว่ามีแมวแอบไปซุกอยู่ เพราะสภาพของน้องแมวก็เหมือนไม่ใช่แมวที่มีเจ้าของเลย แล้วก็มุดตามหลืบเก่งมากๆ วันนี้เธอเลยได้แมวกลับมาบ้านแบบระทึกๆแม้ในจังหวะตอนน้านคือใจหายวาบแทบจะหยุดหายใจ แล้วก็เป็นช่วงเวลาที่เธอกำลังรีบไปทำงานแต่ก็สงสาร และกังวลใจคิดไม่ตกเลยตัดสินใจจอดรถและวิ่งกลับไปดูให้เห็นกับตาว่าน้องยังรอดมั้ย เพราะเลนขวารถวิ่งกันเร็วมากๆ แล้วก็ขับตามเธอมากันหลายคัน พอวิ่งกลับไปถึงจุดที่น้องร่วงลงมามองไปที่ถนนก็ไม่เจอน้องแมวแล้ว แต่ป้าร้านข้างข้างถนนกำลังอุ้มแมวอยู่ จังหวะน้านเธอก็คือโล่งอกโล่งใจมากๆเลย ต้องขอบคุณคนขับมอเตอร์ไซต์ใจดีที่เอาน้องออกมาจากถนนเอามาฝากคุณป้าเอาไว้ พอป้าเห็นเราวิ่งหอบมาป้าก็เลยทักเราว่า แมวหนูรึเปล่า เธอเลยเล่าเหตุการณ์ข้างบนให้กับคุณป้าฟัง ป้าบอกว่าเค้าเลี้ยงไว้ไม่ได้เพราะบ้านเค้าก็มีเด็กเธอเลยขอรับน้องไปเลี้ยงเอง แล้วก็ลางานและยังได้สัตว์เลี้ยงเพิ่มมาอีกหนึ่งค่ะเช้านี้ และน้องก็เป็นแมวตัวผู้นะคะสถานะยังไม่มีชื่อเพราะคิดไม่ออก ส่วนของสภาพน้องคือแข็งแรงดีไม่มีแผลใดๆโชคดีจริงๆแต่ตอนนี้ฟู่พี่ๆแมวในบ้านเธอทุกตัวเลย คงต้องขอเวลาปรับตัวปรับสภาพกันหน่อย เสียดายในคลิปไม่ได้ตั้งค่าบันทึกเสียงเอาไว้...

จำต้องทนกระเสือกกระสนแบกสังขารลากขา หลังตกจากหลังคามาแล้วร่วม 3 วัน

ยามชีวิตหนึ่งที่ต้องเกิดมาเป็นจรแม้เดือดร้อนต้องอดทนอยู่กับความเจ็บปวดมา เพราะจะให้ไปร้องบอกใครเขาก็คงจะไม่มีคนช่วยมาด้วยค่ารักษาน้องหมาแมวเองก็ไม่ใช่น้อยเลย เลยต้องทนอยู่กับความเจ็บปวดมาแล้วร่วมสามวัน เดินใจสั่นคงเจ็บมากแบกสังขารลากขาไป เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แซมมี่ ตัวน้อย ได้โพสต์เรื่องราวขอความช่วยเหลือน้องหน่อยได้มั้ยพอดีน้องเป็นแมวจรแล้วตกจากหลังคาทำให้ขาน้องหักมา 3 วันแล้วซึ่งเธอก็ไม่มีเงินที่จะพาน้องไปรักษาหรือหาหมอ เพราะคุณหมอก็บอกว่าต้องเอ็กซ์เรย์ดูถึงจะรู้ว่าต้องรักษาเขาแบบไหน เพราะค่าเอ็กซเรย์หมอก็บอกว่าแปดร้อยเธอก็ถอดใจเพราะไม่มีและไร้ทุนจะช่วยเหลือน้อง แต่พอเห็นเขาแล้วก็สงสารเพราะคงเจ็บมากเดินลากขาแบกสังขารไปมาด้วยเจ็บปวด เลยเอามาโพสต์ขอความช่วยเหลือบนโลกออนไลน์กลุ่มคนช่วยเหลือสุนัขและแมวขอให้คนใจดีช่วยน้องที เพราะชีวิตเขาก็มีค่าเหมือนกับเราด้วยเกิดมาเศร้าเป็นจรแล้วไม่มีคนเรี่ยวแลมอง ซึ่งเพื่อนๆก็มาบอกให้เธอพาน้องไปหาหมอและขอใบการประเมินรักษามาขอสมทบทุน และถ้ามีใครใจดีอยากจะรับน้องไปเลี้ยงหรือช่วยพาหนึ่งชีวิตน้อยๆที่ต้องทนอยู่กับความยากลำบากไปหาหมอเราก็ขอขอบคุณมาก ที่มา แซมมี่ ตัวน้อย

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การเลี้ยงแมวด้วยปลาทูจะทำให้น้องอายุสั้นลงจนหามส่งโรงพยาบาล

เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าแมวเป็นสัตว์ที่ชอบกินปลามากกกก ไม่ว่าจะปลาชนิดไหนๆไม่ว่าปลาจะสดหรือปลาทอดก็ตามที และนั่นแหละหนาปลาทูตัวต้นเหตุทำให้น้องต้องเข้าโรงพยาบาล จนอาการเริ่มทรุดหนักลงเหมือนกับเจ้าเหมียวตัวดังกล่าวนี้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Aom Sujitra Wongkunha ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า สวัสดีค่ะเราไม่เคยรู้เลยว่าการเลี้ยงแมวด้วยปลาทูคลุกข้าว มันจะกลายทำให้น้องอายุสั้นโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ และนางมีชื่อว่ามารวยแมวที่เลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็กๆ เราซื้ออาหารเม็ดให้ก็ไม่กินเปลี่ยนยี่ห้อแล้วนางก็ไม่ยอมกิน มารวยชอบกินปลาทูคลุกข้าวมาก น้องจะกินแต่ปลาทูๆๆเพียงเท่านั้น จนวันนึงมารวยขับถ่ายไม่ปกติอยู่2วันวันที่3ก็อ๊อกออกมาจนหมด แล้วนางก็ซึมคิดว่าน้องน่าจะเป็นไข้หัดแมว แต่ก็ฉีดวัคซีนหัดแมวไปแล้วนะ เราเลยพาน้องแมวไปหาหมอ ตรวจนั่นนู่นนี่วัดไข้ ให้น้ำเกลือเพราะน้องมีไข้ขึ้นสูงมากแต่พอตรวจหาเชื้อก็ไม่มีอะไร จนผลออกค่าตับค่าไตสูงมากผลสรุปเลยก็คือมารวยเป็นโรคไตระยะที่1 ผลมาจากปลาทูเจ้าข้าเอ๋ยดูแลกันต่อไปนะคะ ถ้าเลี่ยงปลาทูได้ก็ควรเลี่ยงไปเลยแม้น้องแมวจะชอบกินก็ตาม แต่ปลาทูไม่เหมาะกับแมวเลยเพราะมันเค็มมาก ขนาดมนุษย์อย่างเราๆกินปลาทูมันยังเค็มเลย ที่มา...

เจ้าส้มแมวห่วงบ้านแผ่แม่เบี้ยไม่มียั้ง หลังมีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน

แมวเป็นสัตว์หวงถิ่นหวงที่ พวกมันไม่ชอบให้แมวตัวอื่นๆเข้ามาในบ้านไม่ว่าแมวตัวนั้นจะมีเหตุจำเป็นใดๆก็ตาม พวกมันจะรักษาเขตแดนด้วยหัวใจที่มี เหมือนกับเจ้าเหมียวส้มตัวดังกล่าวนี้ที่กำลังฟึดฟัดสุดๆเพราะมีแมวต่างถิ่นเข้ามาในบ้าน . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuchie Kanokchaipaiboon ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า เมื่อวานครอบครัวพี่ชายหอบกันมานอนที่บ้านแม่ เพราะหลานสาวเขามีนัดพบกับคุณหมอที่โรงพยาบาลแถวบ้านคุณย่า เขาเลยมีความจำเป็นที่จะต้องหอบจี้มาด้วย(จี้เป็นแมว) ก่อนมาก็ปรึกษากันดิบดีว่าจะเอายังไงดี จี้กับอาโปเจอกันจะเป็นยังไงกันละเนี่ย พวกมันต้องแยกมั้ยหรือปล่อยไว้ด้วยกันได้ พอมาถึงบ้านแม่เท่านั้นแหละเจ้าอาโปตื่นเดินมาดู ก็ตามภาพเลยค่ะนางพยายามขู่น้องแฟ่ๆยกใหญ่เลย นางไม่มีความรักน้องเลย อิน้องก็ขู่กลับนะคะอ้าปากแง่บๆแต่ไม่มีเสียงฟู่ๆ ไม่รู้ขู่เค้าประสาอะไร สุดท้ายกลัวจ้า นางหนีเข้าบ้านแอบไปมองบ้านนั้นไม่ใช่บ้านแมวนะคะ หลานชายทำงานส่งอาจารย์ที่มหาลัยแต่จี้ยึดไปแล้วจี้บอกขออะไรมาบังตัวหน่อยได้มั้ย เดี๋ยวพี่อาโปแง่มๆหนู สุดท้ายพาอาโปเข้าห้องนอนหลานไปสงบสติอารมณ์แล้วก็พาจี้แยกไปอยู่ห้องนอนอีกห้องข้างบนไม่ให้เขาเห็นหน้ากันค่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้กำลังใจเจ้าจี้เพราะตัวไม่ใช่สายบู้ต้องหนีไปแอบในบ้านลังกระดาษ 555 ที่มา...

กลายเป็นเด็กน้อยไร้บ้านกับสายตาสุดเศร้าที่เลือกไม่ได้ เพราะเจ้าของเขาไม่เห็นค่าไม่ใช่แมวพันธุ์มีราคา

ถ้าไม่พร้อมก็จงอย่าคิดเลี้ยงตั้งแต่แรก เพราะยังมีคนที่เลี้ยงแมวเพื่อตามกระแสและไม่ได้รักน้องจริง จนน้องแมวมากมายต้องถูกนำไปปล่อยไว้ตามวัดหรือตามสถานที่ต่างๆ เหมือนกับหลวงพี่ท่านนี้ที่ได้พบเจอน้องเข้าเพราะถูกมนุษย์นำไปปล่อยไว้ที่วัด . โดยคุณ : ยุคล พัฒนถาวรกุล ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กอันมีใจความระบุว่า ฝากไว้นิดนึงเห็นว่าแมวป่วยหรือไม่คิดจะเลี้ยงมองว่าเด็กๆเหล่านี้เป็นภาระไปแล้ว ก็จงคำนึงอย่าเอาเขามาปล่อยวัดเลยนะโยม นี่มีคนเอามาปล่อยเทไว้ที่วัด ในสภาพตามรูปสุดท้ายที่ทุกๆท่านเห็นนั่นแหละหนา ตอนนี้อาการของน้องก็ดีขึ้นมากแล้ว น้องขี้เล่นดีอยู่น้องนั่งกระบะทรายเป็นแล้วด้วย แต่หน้าตาน้องดูอมทุกข์อยู่ตลอดเวลา อาตมาเลยตั้งชื่อว่าให้ว่าน้องอมทุกข์ละกัน(แต่ชาวเน็ตขอให้เปลี่ยนชื่อเป็นน้องแฮปปี้) จากหลายๆคอมเม้นบอกให้เปลี่ยนอาหารเขียวแดง คงไม่เปลี่ยนอาหารครับมีอะไรก็ต้องกินอันนั้น ต้องเข้าใจสภาพแมววัดด้วยนะ อาตมาก็เป็นพระครับไม่ได้มีเงินหรือปัจจัย และปกติก็ไม่ได้รับปัจจัยใดๆทั้งสิ้นด้วย ขอบคุณครับที่เข้าใจ ที่มา ยุคล พัฒนถาวรกุล

ชีวิตที่โดดเดี่ยวกับความดำที่แม่ให้มา ได้แต่ยืนเกาะรถเขาออกเดินทางเพื่อหวังทางข้างหน้าเขาจะเปิดโอกาสให้

ชีวิตของแมวดำน่าสงสารมากๆเลยนะ เพราะแมวดำเป็นสีๆนึงที่เราต้องยอมรับเลยว่า พวกเขาเป็นสีที่คนมักจะรับเลี้ยงน้อยที่สุด เพราะทาสแมวถ้าเลือกได้คงเอาสีอื่น ทำให้น้องแมวดำเหล่านี้ต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังกับโอกาสที่ยากยิ่งที่มนุษย์จะเปิดใจให้ . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Thanida Waenrawe ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ของขวัญวันฮาโลวีนในวันนั้นเองเป็นวันที่ 31 ตุลาคม เราจอดรถรอลูกสระผมแต่เรากลับได้ลูกแมวกลับมาบ้านด้วยเฉยเลย น้องแกติดรถตู้มาคันที่จอดข้างๆ ท่าทางคุ้นกับคนมากด้วยเพราะน้องแกนิสัยดีน่ารักมาก นางพยายามอ้อนไม่ยอมทิ้งห่างเลย เราจะตัดใจไม่เก็บกลับบ้านมาด้วยก็สงสารน้องแก ตัวดำโดดเดี่ยวอยู่คนเดียวเพียงลำพัง กลัวติดรถคนอื่นไปอีกนี่สิ เราเลยชวนกลับบ้านพามาอยู่ด้วยกันซะเลย ในตอนนั้นเราเก็บน้องมาจากมุกดาหารเชียว แต่บ้านเราอยู่อุบลฯ ตอนนี้น้องได้ชื่อแล้วนะคะ คิดระหว่างทางกลับบ้าน ให้ชื่อ "ชาดำ"...