พาแมวมาเที่ยวเข้าพักแพที่เมืองกาญหวังให้น้องมีความสุขสุดท้ายของชีวิต
โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Teeramit Meelarp ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มชมรมแมวสายดาร์กอันมีใจความระบุว่า ผมไปทำงานที่กาญจนบุรีมา แล้วผมเองก็ได้เข้าพักที่เเพเดือนฉาย และพบเจอกับแมวตัวนี้เดินไปมาแบบกล้าๆกลัวๆ ผมเลยถามน้องพนักงานที่นั่น
.
น้องบอกมีคนมาเข้าพักแล้วเอาแมวมาด้วยพามาเที่ยวด้วยกัน แต่ตอนกลับไม่เอากลับไปด้วย ผมเห็นว่าแถวนั้นติดกับแม่น้ำ และมีตัวเงินตัวทองอาศัยอยู่เยอะ ผมเลยตัดสินใจเอาน้องกลับมาด้วยกัน แล้วค่อยมาหาบ้านให้กับเค้า ผมไปตามถามน้องพนักงานที่รีสอร์ทแล้วให้ช่วยตามเช็คไทม์ไลน์คนที่เข้ามาพักช่วงนั้น
แล้วก็เช็คจนมั่นใจแล้วว่าเจ้าของคงไม่กลับมาเอาอีกแล้ว ผมคิดว่าเจ้าของคงจะไม่เอาละ หรือแย่ๆอาจจะตั้งใจจะทิ้งน้องไว้ เพราะตั้งแต่แมวหลุดไปไม่เคยมีใครเห็นคนมาตามหาเลยสักคน ไม่มาทิ้งเบอร์ให้ที่รีสอร์ท ไม่มาบอกให้ทางรีสอร์ทคอยช่วยดูช่วยหา ไม่ติดต่อกลับมาใดๆเลย
ทั้งๆที่โรงเเรมก็ประกาศตามหาเจ้าของหน้าเพจอยู่ตลอด น้องเป็นแมวสีส้ม หล่อมาก เพศผู้...
แค่นั่งอยู่เฉยๆแต่คนนับร้อยแห่ขอรับไปเลี้ยง แมววิเชียรมาศสุดน่ารักที่มีแต่คนต้องการตัวไป
คนเลี้ยงแมวอย่างเราๆนอกจากจะเก็บแมวจรมาเลี้ยงแล้ว ยังมีแมวดีๆสีสวยๆที่หาได้ตามกลุ่มต่างๆอีกด้วยนะ เพราะคนรักแมวอย่างเราๆพอมีแมวที่บ้านเยอะเข้าก็อยากส่งต่อให้ทาสแมวเอาไปเลี้ยงต่อตอนตัวน้อยๆ ยังดีกว่าเอาไปปล่อยไว้ตามสถานที่ต่างๆ
.
เหมือนกับน้องแมวตัวดังกล่าวนี้ที่ทางผู้โพสต์อยากจะหาบ้านให้กับน้อง เพราะที่บ้านของทางเจ้าของน้องมีแมวที่บ้านเยอะมากแล้ว โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kirati Puangmalee ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มแมววิเชียรมาศสี Blue point อันมีใจความระบุว่า
หาบ้านให้น้องแมววิเชียรมาศอายุ 1 เดือน น้องแมวตัวดังกล่าวนี้ไม่ใช่แมวจรแต่อย่างใดนะ น้องเป็นลูกของแมวที่บ้าน พอดีว่าตอนนี้มีเยอะมากแล้วและผมเลี้ยงไม่ไหว ขอคนแมวรักจริงๆครับตัวจริงน้องน่ารักมากๆเลย และถ้าดูดีๆสีขนของน้องเด่นมาก
พอออกแดดยิ่งสวยเข้าไปใหญ่เลย และอายุของน้องยังน้อยยังพร้อมที่จะเติบใหญ่ได้อีกยาวนานมาก หากท่านใดสนใจอยากจะเลี้ยง้นองแมววิเชียรมาศสวยๆ ก็ลองทักไปสอบถามได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์
ที่มา...
เดินผ่านเห็นคาบก้างปลาไปใต้ท้องรถไม่คิดสนใจ ขากลับมาเห็นแล้วท้อใจลูก 4 รุมกิน
เพราะสภาวะทางจิตใจของมนุษย์เราแตกต่างกันบางคนเองเห็นแล้วก็สงสารเขาแต่ก็ต้องคิดคำนึงถึงตัวเองด้วยว่าจะสามารถรับภาระหรือจะเข้าช่วยเหลือเขาไหวไหม ด้วยในยุคโควิทและหลายคนก็ต้องงานหดเงินหายด้วยคำนึงไปเลยเลือกจะมองผ่านไปเพราะเห็นเขาคาบก้างปลาไปใต้ท้องรถ
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tabtim Tapsang ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เดินผ่านเห็นแมวกำลังคาบก้างปลาเข้าไปใต้ท้องรถเธอก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอขากลับมาก็เห็นมีลูกแมวลงมาจากใต้ท้องรถ 4 ตัวและรุมกินก้างปลาที่แม่แมวได้หามาไว้ให้ด้วยน้ำตาซึม
เป็นแมวส้ม 2 ดำไฝ 1 สลิดอ่อนปนขาว 1 เลยนั่งดูน้ำตาแทบจะไหลแม้ติดคอก็ยังฝืนกลืนเข้าไปเจ็บจนคอแทบโก่งเห็นแล้วก็สงสารมากๆหน้าตาก็เจ็บด้วยไม่รู้ว่าไปโดนอะไรมา เข้าใกล้ก็ไม่ได้เพราะแม่แมวเขาก็ห่วงลูกมากเลยเดินกลับบ้านไปเอาหารมาให้
กินกันใหญ่เลยหมดแล้วก็เลียกันไม่เลิกลา เลยไปเอามาให้อีกซองคงพออิ่มอย่างน้อยมื้อนี้พวกแกก็อิ่มอร่อยไปหนึ่งมื้อโดยที่ไม่มีก้างละเนอะ อยากจะหาบ้านก็ยากเต็มที่เห็นเข้าโพสต์หาบ้านกันทุกวันก็ยังหากันไม่ค่อยได้เลยเพราะ เศรษฐกินไม่ดี
ไม่รู้จะมีคนใจดีพอจะรับพวกแกไปเลี้ยงบ้างไหม เพราะแม่แมวเขาเป็นจรและเข้าใก้ลยากมากไม่สามารถจะเข้าไปได้เลยได้แค่เอาอาหารไปวางจานไม่ดีก็จับจานถูกเขาข่วนให้ โชคดีว่าหลบทันและวิ่งหนีก็ตามมาอีกพออาหารหมดเข้าไปเก็บจานไม่ได้เธอก็มีเวลาออกไปดูแค่ตอนค่ำและยังไม่รู้ซ้ำชีวิตจะอยู่กันยังไงต่อ น้องอยู่ตากสิน 4
ที่มา Tabtim Tapsang
สภาพชีวิตของเจ้ามิ้วตัวส้มที่หลงมา และมีปลอกคอสีม่วงใส่ไว้แม้แทบไร้แรงจะยืน
เพราะชีวิตยามถูกเลี้ยงเฝ้าเคียงอยู่พอไร้คนดูจำต้องเร่แสวงหา จำต้องทนเฝ้าทนเจ็บและทนมาแม้เสียน้ำตาต้องกล้ำกลื่นฝืนทนไป เพราะด้วยไร้คนเคยรักจักสวาดไม่คิดคาดต้องมาเร่ทนเป็นจรค่ำนอนไหน แม้วันคืนจะผ่านเดือนแรมวันยังเฝ้าฝันอยู่ในใจขอกลับไปซุกอ้อมกอดคนเคยเลี้ยงมา
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ann Kanokporn ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวสีส้มและใส่ปลอกคอสีม่วงในสภาพไร้เรี่ยวแรงจะยืน และเธอก็ไม่รู้ว่าน้องหลงมาจากไหนเดินอยู่ที่ข้างถนนสาย 13 เธอก็เลยอดใจไม่ได้และเก็บน้องมาไว้ที่ร้าน แม้ไม่รู้ว่าแมวใครเขา
หนีออกมาจากบ้านหรือป่าวมีปลอกคอสีม่วงแดงใส่เอาไว้อยู่และก็อยากจะให้ช่วยกันตามหาเจ้าของน้องให้ด้วย เพราะสภาพน้องผอมโซและแย่มากๆเลย เพราะดูแล้วน้องน่าจะหลงจากบ้านมานานแล้วแต่ที่แน่ๆคือมีคนเคยเลี้ยงดูแลมาเป็นอย่างดีแน่
เพราะการอยู่กับโลกข้างนอกมาเป็นเวลานานทำให้สภาพผอมและแย่ลงไปมากๆ เหมือนเจ็บหนักมาเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไงดี แต่ก็เอากลับมาไว้ในบ้านแล้วและเธอก็มาอัพเดทว่าเธอได้พาน้องแมวจรไปหาหมอมาแล้ว เบื้องต้นหมอให้ยามาทานและเฝ้าสังเกตอาการ
หลังจากยาหมดว่าจะดีขึ้นไหม ถ้าไม่ดีขึ้นก็จะทำการเอ็กซเรย์แล้วทำการรักษาต่อไป และขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันสมทบทุนให้กับเธอช่วยในการรักษาและค่าอาหารให้กับน้องและขอให้น้ำใจของทุกคนกลับไปเป็นความสุขและสุขภาพที่แข็งแรง แล้วถ้าใครคิดว่าเป็นแมวของตัวเองก็สามารถจะติดต่อหาเธอได้เลย
ที่มา Ann Kanokporn
หนุ่มกุ้มหลังรับเลี้ยงแมวมา 9 เดือนโตขึ้นไม่ยอมหยุด กลัวโตมาน้องจะกินมะนุดมั้ย
เพราะด้วยความเป็นสายพันธุ์เลยทำให้ทำให้ตัวใหญ่ขึ้นและโตไว้มากแม้เป็นแมวไทยเองก็จะไม่สามารถโตมากเพราะโครงสร้างของพวกเขาเล็ก และถ้าเป็นสายพันธุ์ของต่างประเทศแล้วพวกเขาจะมีโครงสร้างที่ใหญ่มากและอาจจะใหญ่กว่าสุนัขของไทยเราเอง
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kettong Siritong ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้ามิ้วเอรีสในวัย 9 เดือนที่มีน้ำหนักมากถึง 8 กิโลและยังสามารถที่จะโตได้อีกเป็นหนุ่มน้อยหน้าหวาน ด้วยน้องเอริสเป็นแมวสายพันธุ์เมนคูนด้วยถือเป็นแมวสายพันธุ์ที่ขนยาวและมีต้นกำเนิดมากจากข้ามสายพันธุ์ของแมวพื้นเมือง
กับน้องแมวป่าตอนเหนือของสหรัฐอเมริกาและคำว่าเมนก็เลยมาจากถิ่นกำเนิดคืออยู่ที่รัฐ maine ของสหรัฐอเมริกาส่วนคำว่าคูนเชื่อกันว่ามาจากพวกน้องที่มีลักษณะคล้ายกับตัวแรคคูนคือมีหางเป็นพวง และมีสีและลวดลายสีน้ำตาลที่มีลักษณะเหมือนแรคคูน
ด้วยความสูงความแมวพันธุ์เมนคูนจะมีความสูงมาตรฐานอยู่ที่ 10-16 นิ้วหรือ 25.4-41 เซนติเมตรเลย และยังมีความยาวลำตัวจนสุดปลายหางมาตรฐานอยู่ที่ 32-48 นิ้วหรือ 80-120 เซนติเมตรและมีน้ำหนักมาตรฐานอยู่ที่ 15-25 ปอนด์หรือราว...
แมวโรงงานกับชีวิตเพียงลำพังกับขาที่บวมปูด แม้พยายามช่วยแต่ก็ไร้ทุนที่จะทำให้น้องมีชีวิตอยู่ต่อ
ชีวิตของแมวจรก็ไม่ได้สวยหรูไปตลอดหรอกหนา พวกเขาต้องใช้ชีวิตเพียงลำพังพอโดนอะไรมาน้องก็ไม่มีปากมีเสียง ที่จะบอกร้องขอให้คนช่วยได้เลย เหมือนกับชีวิตแมวจรโรงงานตัวดังกล่าวนี้ ที่อาจต้องเสียขาไปเพราะทางผู้โพสต์ไม่มีทุนพอที่จะพาน้องไปรักษาได้
.
โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Khruea Yonklang ได้บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า น้องเป็นแมวจรในโรงงานที่เราทำอยู่ ตอนนี้น้องป่วยและมีแผลเต็มตัว น้องเป็นแมวจรไม่มีเจ้าของสภาพขาบวมมากเเละเท้าของน้องเริ่มไม่ไหวแล้ว
แตเราก็จะพาน้องไปหาหมอถึงน้องจะเป็นแค่แมวจรก็ตามที ช่วงเวลานี้เราทำได้แค่เวลามาทำงานดูแลน้องเวลาช่วงพักให้น้ำให้อาหารน้องกิน เราโพสต์เผื่อจะมีคนใจดี ร่วมต่อชีวิตน้องกับน้องกลับมามีร่างกายที่ดีขึ้นอีกครั้ง
ทางสาวทาสแมวเองก็ไม่ได้มีทุนพอที่จะพาน้องไปหาหมอได้ เราได้แต่หวังว่าจะมีใครสักคนหยิบยื่นโอกาสดีๆให้กับน้องก่อนที่ขาของน้องจะสายเกินแก้ หากท่านใดอยากช่วยเหลือน้องก็ลองติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะ น้องยังรอคุณเสมอแม้มันจะเลือนลางก็ตามที
ที่มา Khruea Yonklang
จำต้องกินเส้นมาม่าต้มประทังหิว ด้วยตัวแม่ไร้ทางเลือกเงินทุกบาทก็พร้อมยกให้แมว
โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : รมณา สังข์น้อย ได้บอกเล่าเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ย้อนไปเมื่อ3ปีที่ผ่านมานี้ เราเคยเป็นแม่ค้าที่ตลาดนัด ณ ตอนนั้นเจ้ารถถังอายุประมาณ2เดือน เราก็เอารถถังไปขายของด้วยกัน
.
เราใช้กล่องโฟม2ใบ เป็นโต๊ะนั่งขายเปลือกหอยทะเล เวลาจะจัดร้านทีก็ให้รถถังมานอนที่เก้าอี้ แล้วก็เปิดคลิปปลาแบบนี้ให้ดูรถถังดู รถถังก็แสนรู้นั่งดูอยู่อย่างนิ่งเลย น้องแกนอนดูนิ่งมากตั้งใจดูมาก อยู่นิ่งจนจัดร้านเสร็จเลยจ้า ไม่ดื้อไม่ซนใดๆเลย
ตอนขายของก็มาหลับบนตักตลอดเวลา ตอนเดินทางก็ใส่กระเป๋าชูก้าแล้วก็สะพายข้างและขี่มอไซค์ไป ไม่ไกลมากไปกลับโดยประมาณ 20 กม. น้องต้องตากแดดตากลม ตอนรถถังยังเด็กๆก็ไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ เลี้ยงด้วยความไม่มีความรู้มาก่อนเลย
และบางช่วงก็ไม่มีตังก็ให้กินเส้นมาม่าต้มเปล่าๆกิน...
เหมียวรวบรวมความกล้าเดินเข้ามาออดอ้อนสำนึกผิด หลังตัวถูกนำมาปล่อยไว้หน้าบ้านของคนเลี้ยงหมา
โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Kob Panya CarAudio ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มพร้อมกับระบุว่า บอกไว้ก่อนเลยนะครับแมวตัวนี้ ไม่ใช่แมวที่บ้านของผมนะครับ ที่บ้านเลี้ยงแต่หมาไม่มีแมวเลยสักตัว เรื่องมีอยู่ว่าราวๆ2อาทิตย์ก่อนหน้านี้ แมวตัวนี้มาอยู่และอาศัยที่บ้าน
.
คาดว่าน่าจะมีคนเอามาปล่อยที่หน้าบ้าน เพราะแฟนบอกว่าเห็นมีรถกระบะมาจอดแล้วเอากล่องอะไรซักอย่างมาวางไว้ เขาคนนั้นทำลับๆล่อๆ หลังจากนั้นก็เห็นแมวตัวนี้มาร้องอยู่ตรงข้างบ้านเลย น้องแกไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เลยครับ น้องแผ่แม่เบี้ยใส่แล้วก็วิ่งหนีตลอด
ผมได้แต่เอาข้าวไปวางใว้ให้ อยู่ราวๆ2-3วันแรก ไม่เห็นมีเชือกที่คอของน้องเลยนะ และหลังจากนั้นก็เห็นมีเชือก น่าจะโดนกับดักของคนแถวนี้มั้งครับอันนี้ผมไม่แน่ใจ ผมก็พยายามจะจับตัวแล้วตัดเชือกออกให้กับน้อง แต่ก็ไม่ได้ผลนะครับ ผ่านมาราวอาทิตย์กว่า (เมื่อวาน)
เค้าเริ่มเดินมาใกล้ผม...
ค่าตัว 5 หลักหลุดหายไปจากบ้าน ยังเฝ้าตามหาถ้ากู้ภัยเจออย่าเพิ่งปล่อยป่า
เพราะความนิยมในยุคสมัยทำให้เรามีการนำเข้าหรือการเลี้ยงสัตว์ที่แผลกไปแม้แต่การจะเอาเข้ามาเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้หรือผลประโยชน์หรือเลี้ยงไว้เพราะเสริมเรื่องดวงหรือความเชื่อ หรือแม้แต่การจะเปิดคาเฟ่สัตว์ทำให้เรามีการนำเข้าสัตว์แผลกเข้ามาเยอะแยะมากมาย
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Cross Nutchanon ได้โพสต์เรื่องราวของน้องจิ้งจอกทะเลทรายว่าใครพบเห็นน้องอย่าทำน้องนะ เพราะน้องไปเล่นในป่าหลังบ้านประมาณ 3 วันที่แล้วยังไม่ยอมกลับมาเลยพิกัดหน้ามอแม่โจ้ แพร่ น้องไม่ได้ใส่ปลอกคอ
แต่ฝังไมโครชิพน้องไม่ดุไม่ทำสัตว์เล็กและขรี้กลัวมากๆ ใครเจอน้องหรือพบเห็นน้องมีเบาะแสอะไรก็ได้รบกวนทักมาหน่อยหรือไม่ก็โทรเบอร์ก็ได้ ขอขายความคำว่าฝังชิพ เผื่อคนไม่รู้ ชิพที่ฝังไม่ใช่ GPS แต่เป็นชิพ Cites เป็นชิพที่แสดงว่าได้น้องมาอย่างถูกกฏหมาย
เพราะน้องเป็น Exotis pets ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศไม่ได้มีถิ่นกำเนิดในไทยครับ ถึงจะมีฟาร์มเพราะเลี้ยงในไทยก็ยังมีชิพหรือไม่ก็ใบรับรอง Cites เลยอยากฝากให้คนที่ได้เห็นหรือเจอน้องช่วยติดต่อไปยังต้นโพสต์เพราะเห็นแบบนี้น้องเป็นสัตว์ที่ขี้กลัวมาก
แล้วก็กลัวว่าถ้าคนที่เจอเขาไม่รู้จักหรือไปเจอเข้ากลัวว่าเขาจะให้กู้ภัยมาจับและนำไปปล่อยป่าเพราะน้องไม่สามารถจะใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้...
จำอาศัยหลับนอนบนหลังคาบ้านเขาตัวผอมแห้ง ยังนึกแผลงอยากช่วยเหลือหาบ้านให้
เพราะด้วยสภาพจิตใจของมนุษย์เราเองเป็นสิ่งที่อ่อนโยนมากด้วยจากการถูกเลี้ยงดูมาเลยทำให้ มีสภาวะจิตใจไม่เหมือนกันบางคนเห็นหนึ่งชีวิตพวกเขาต้องทนอยู่ก็รู้สึกอึดอัดแม้ร่างกายผอมแห้งหนักก็ทนไม่ไหวเลย เพราะคิดอยากจะช่วยเห็นจำอาศัยอยู่แต่บนหลังคาบ้าน
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kimmy possible ได้โพสต์เรื่องราวหลังน้องหลุดมาเป็นเดือนแล้ว แม้พยายามจะตามหาบ้านให้ในละแวดซ.เย็นจิต เซนหลุยส์สาทรน้องมีปลอกคอสีเขียวใส่อยู่กับตัว และหลุดมาอยู่แถวบ้านของเธอตั้งแต่ เดือนพย 64
และเธอก็คิดว่าน้องเป็นแมวบ้านจริงๆ ขอกินเป็นกินอาหารเม็ดเป็นแถมเธอเรียกน้องก็มา และเธอก็ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไงได้บ้าง เพราะน้องเดินมากินทางหลังคาให้อาหารก็ต้องให้ทางหลังคามาตลอด ทำยังไงดีสงสารน้องสุดๆคิดถึงว่าถ้าลูกเธอหายไปคงจะมีสภาพแบบนี้
และเธอก็มาอัพเดทเธอออกไปเดินตามหาน้องอีกทีบริเวณซอยรอบๆบ้านทีละบ้านจนมีคนบอกเธอว่า ให้ไปถามผู้ชายคนหนึ่งที่เลี้ยงน้องแมวเอาไว้เยอะๆ อาจจะเป็นแมวของเค้า ซอยนี้เป็นซอยเดียวที่เธอเองไม่เคยเข้าไป เพราะมีแต่ตึกไร้คนอยู่พอเดินเข้าไปก็เห็นว่ามีบ้านหลังนึงเป็นอู่รถตุ๊กๆ
ซึ่งสรุปว่าน้องน่าจะมีเจ้าของค่ะแต่เค้าไม่ทำหมันซึ่งเธอเสนอว่าเธอทำให้ได้นะเพราะน้องแมวดูสภาพร่างกายอ่อนแอมาๆ แต่เจ้าของเองก็ยืนยันว่าเขาจะไม่ทำ และบอกเธอว่าให้หยุดให้อาหารแมวน้องจะได้ไม่ต้องมาบ้านเธอ ซึ่งในเมื่อเจอกับเจ้าของแล้ว เธอคงจะช่วยแอะไรน้องไม่ได้แล้วอย่างน้อยก็ยังดีที่รู้ว่าน้องม่ได้หลุดมาแค่มาขอกิน ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้และเป็นห่วงน้องอย่างจริงใจทุกคนค่ะ
ที่มา...