สัตว์โลก

การจะรับแมวมาเลี้ยงสักตัวเราเองต้องใช้ความอดทนเป็นสำคัญ เพราะน้องแมวหลายๆตัวเขาก็ยังไม่สามารถปรับตัวเข้าหามนุษย์ได้ เหมือนกับเรื่องราวดังกล่าวนี้ที่ตัวเจ้าของใหม่เองพึ่งรับน้องมาได้ 3 วัน แต่น้องที่รับมาไม่ยอมกินไม่ยอมนอนเลย . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Piyanan PG ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า หนูมีเรื่องอยากจะสอบถามค่ะ เราได้ไปรับลูกแมวอายุประมาณ 10 สัปดาห์มาได้ 3 วันแล้ว ตอนนี้น้องกลัวคนมากๆ ณ ตอนนี้น้องแกไม่ยอมกินอะไรเลย บางครั้งก็จับได้ บางครั้งก็จับไม่ได้บางทีก็งับเราหนัก จนแฟนเขาถอดใจจะเอาไปคืนเจ้าของแล้ว ทางเจ้าของเก่าเขาเลี้ยงระบบปิด ไม่ให้แมวออกมาดูโลกภายนอกเลยเพราะเขาบอกข้างบ้านเลี้ยงหมาป่าไว้ เขาเลยไม่ยอมปล่อยแม่และลูกแมวออกมาข้างนอกบ้างเลย เลยไม่รู้จะทำยังไงดี...

ด้วยความเป็นเด็กที่ชอบจะเล่นเพราะความไร้เดียงสา แม้ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเล่นอยู่อาจจะเป็นพ ิษร ้ายหรือทำให้ตัวต้องสิ้นลมแม้คนเป็นเจ้าของหรือคนเป็นแม่ต้องใจสลาย เพราะความสนุกร ้ายอาจจะทำให้ลูกเป็นภัยถ้าเราไม่ดูแลพวกเขาอย่างชิดใกล้เหมือนเด็กน้อย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piriya Vaidyanuvatti ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่วันนี้เขาได้ตื่นขึ้นมาและพบว่าน้องเปี๊ยกเจ้ามิ้วของเขาก็ร้องเรียกมิ้วๆเหมือนกับว่ากำลังเล่นอยู่กับอะไรบางอย่างอย่างสนุกสนาน ในบ้านแต่พอเขาเดินไปดูก็เข่าแทบทรุด เพราะไปเห็นเจ้าน้องมูตัวนี้ที่อ้วงมากแม้น้องก็เชื่องมากๆด้วย เพราะไม่มีอาการดุร ้ายเลยแม้แต่น้อยซ้ำยังเอาหัวมุดใต้ตัวตลอดแต่ต้องพาไปปล่อยเพราะตัวเขาก็ไม่รู้ว่าน้องมีพ ิษไหม เลยมาสอบถามลงในกลุ่มทาสแมวว่าพอจะมีใครรู้บ้างไหมว่าน้องเป็นมูพันธุ์อะไร เพราะตัวก็กลัวเป็นห่วงลูกไปเข้าใกล้กลัวจะถูกเขางับแล้วไม่ปลอดภัยต้องส่งโรงพยาบาล แม้ภายหลังก็มีคนเข้ามาบอกว่าน้องเป็นมูพระอาทิตย์หรือมูแสงอาทิตย์ไม่มีพ ิษมีภัยไม่ดุร้าย แต่ถ้าเป็นพันธุ์อื่นแมวคงจะไม่รอดเพราะน้องเล่นอยู่ด้วยนานมาก เราเองเลี้ยงดูก็ต้องระวังให้มากแม้คาดสายตาพวกเขาก็อาจจะสิ้นลมได้ ก็ถือเป็นโชคดีมากๆที่น้องมูไม่มีพ ิษ ที่มา Piriya Vaidyanuvatti

เพราะการมีความพร้อมหรือการเตรียมพร้อมที่เราพยายามจะบอกกับทุกคนตลอด ว่าให้พร้อมก่อนแล้วค่อยรับเขามาเลี้ยงเพราะการที่หนึ่งชีวิตเคยถูกเลี้ยงพวกเขาจะไม่สามารถหากินเองตามธรรมชาติได้ เพราะมีคนเคยให้มาตลอดยามวันหนึ่งเกิดหลงหาย ทุกข์ไม่หายต้องระหกเร่เที่ยวร้องขอประทังจนขนบนหน้าไม่เหลือดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nannapas Sawannopjinda ได้โพสต์เรื่องราวในระหว่างที่เธอได้ไปกินข้าวในร้านดวงเดือนจุ่มจิ้มก็ได้เจอกับเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ทำให้เธอกินข้าวไม่ลง เพราะน้องหลงมาจากไหนไม่รู้แม้พยายามจะมาร้องขอและกระโดดขึ้นมานั่งบนเก้าอี้เพื่อที่จะพยายามขออาหารประทังชีวิต พิก ัดร้านอยู่ในซอย จรัญฯ 35 ส อบถามคนในร้านเขาก็บอกว่าน้องมาจากไหนก็ไม่รู้แต่น่าจะหลงมานานแล้ว เพราะขนบนใบหน้าน้องไม่เหลือเลยน่าจะเกิดจากการเป็นโรค เธอก็อยากจะหาคนรับน้องไปอยู่ด้วยหรือพอจะมีใครที่รู้จักเจ้าของน้อง ด้วยนิสัยเขาเรียบร้อยมากเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะพาน้องกลับไปด้วยจริงๆ เธอนั่งดูน้องแล้วก็กินข้าวไม่อร่อยเลยเพราะสงสารน้องมาก น้องคงจะคิดถึงบ้านมากๆและยังเฝ้าคอยตามหาผู้เป็นเจ้าของที่เคยเลี้ยงดูตัวมา แม้ต้องระหกหาประทังมาจนหน้าตาไม่เหลือดี ตาของน้องก็เป็นสีฟ้าถ้าพากลับไปเลี้ยงรักษาดีๆคงจะสวยสง่าและหน้ามอง ด้วยถ้าใครอยากจะรับหรือรู้จักผู้เป็นเจ้าของก็อยากจะให้ช่วยติดต่อเธอ ที่มา Nannapas Sawannopjinda

ยามชีวิตเกิดมาเป็นจรจำต้องทนทุกข์ไม่มีสุขด้วยไร้บ้านหรืออาหารจะให้ตกถึงท้อง ยามขึ้นไปติดบนตึกตัวสะอกเฝ้าส่งเสียงร้องน้ำตานอง ไร้แม้น้ำอาหารตกถึงท้องมาร่วม 8 วันยังเฝ้าร้องอยู่ร่ำไป แม้ก็ไม่รู้ว่าน้องขึ้นไปได้ยังไงและไม่สามาระจะลงมาเองได้ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanatip Sangkaow ได้โพสต์เรื่องราวบีบหัวใจคนเป็นทาสหลังเจอแมวติดบนตึกมาร้องขอความช่วยเหลือ เพราะน้องติดมาแล้วร่วม 8 วันแล้วไม่สามารถจะลงมาเองได้และไม่รู้ว่าน้องขึ้นไปทางไหนทำได้แค่สงสารเขา เพราะหนึ่งชีวิตต้องทนแม้ตากแดดตากฝนและทนไร้น้ำอาหาร ป้าที่อยู่แถวน ั้นก็บอกให้ช่วยโพสต์ให้หน่อยใครสามารถที่ช่วยน้องได้ก็อยากจะให้เข้าช่วยเหลือน้องที เพราะหนึ่งชีวิตเขาไม่มีใครให้มานั่งห่วงใยเหมือนกับแมวที่มีเจ้าของและถูกเลี้ยงดู ยามตัวหลงหรือหายมาก็เลยต้องพยายามหาเที่ยวร้องขอความช่วยเหลือ พิก ัดซอยประชาราษฏร์ 14 แม้เธอเองก็เข้ามาอัพเดทในภายหลังว่าในวันพรุ่งนี้จะมีพี่อาสาจะเข้ามาช่วยเหลือ แล้วเดี๋ยวยังไงก็จะอัพเดทรายละเอียดให้ดูแต่ก็ยังเงียบสนิท และก็ยังไม่รู้ว่าหนึ่งชีวิตจะเป็นยังไงบ้างเพราะเธอก็ยังไม่ได้เข้ามาอัพเดทเลย ซึ่งถ้าใครอยู่ในบริเวณหรือพิก ัดที่บอกไว้ก็อยากจะให้เข้าช่วยน้องหน่อย เพราะชีวิตเขาต้องทนอยู่แม้แทบจะหมดลมหายใจร้องไปเห็นแล้วก็สงสาร ที่มา...

จิตใจคนเรายากที่จะเข้าถึงได้ มีน้องแมวมากมายที่โดนคนโยนลงมาจากรถเพื่อพ้นตัว โดยที่เขาไม่คำนึงเลยว่าน้องจะรอดมั้ย เหมือนกับชีวิตน้องแมวตัวดังกล่าวนี้ที่โดนโยนลงมาจากรถต่อหน้าต่อตาทาสแมว ซึ่งใครหลายๆคนอาจจะคิดว่าน้องคงไม่รอดแล้ว . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : นับหนึ่ง ถึงร้อย ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มแมวจ๋า ทาสมาแล้ว อันมีใจความระบุว่า มีคนโยนน้องออกมาจากรถกลางถนนเพชรเกษมต่อหน้าต่อตาเราเลยค่ะและแถวๆนั้นรถก็เยอะ ไม่รู้คนๆนั้นจิตใจทำด้วยอะไร เรามากับรถเทเลอร์แบรคจนตัวโก่งเลยเพื่อจอดรถแล้วไปเก็บน้องมายกมือ เรารีบโบกรถพร้อมยกมือไห้วเขาอย่าเหยียบน้องนะเราตะโกนเสียงดังสนั่น ขอบคุณรถทุกคันที่ชลอรถให้น้องอยู่รอดปลอดภัยด้วยนะ น้องเป็นตัวเมืยไม่อยากเลี้ยงน้องทำไมต้องทำกันขนาดนี้ ตอนนี้น้องปลอดภัยแล้วลูกไม่ต้องกลัวแล้ว... จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นและกล่าวขอบคุณให้กับตัวเธอที่ได้ช่วยชีวิตน้องเอาไว้ ที่มา นับหนึ่ง ถึงร้อย

ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้มีแมวพันธุ์จำนวนไม่น้อยเลยที่โดนเจ้าของนำมาปล่อยไว้ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้น้องต้องระหกระเหินกลายเป็นจรไม่รู้ตัว น้องแมวส้มตนนี้ก็เช่นเดียวกันที่เดินเซไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ทางเจ้าของบอกถ้าเห็นอีกจะเอาไปปล่อยซ้ำสอง . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ลูกเป็ด ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมว อันมีใจความระบุว่า รบกวนด้วยค่ะ พอดีเรามาเที่ยวแล้วพักที่โรงแรมของที่นี่ แล้วพอดีเราได้พบเจอกับน้องแมวตัวนี้ถูกนำมาปล่อยวันนี้พอดีเลย(เจ้าหน้าที่แจ้งมาแบบนั้น) เราเองก็ไม่รู้จะช่วยยังไงดี ทางเจ้าหน้าที่แจ้งมาว่าเจ้าของโรงแรมให้นำไปปล่อยถ้าเขาเจอน้องอีก ท้ายที่สุดนี้เราอยากจะรบกวนใครอยู่แถวตัวเมืองระนองช่วยเหลือน้องด้วยนะคะ น้องน่าจะเป็นแมวพันธุ์ผสมเปอร์เซีย พิกัดโรงแรมระนองการ์เดนท์โฮลเทล จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมให้ความช่วยเหลือ แต่ล่าสุดนี้เองเราได้รับข่าวว่าทางเจ้าของได้มารับน้องกลับไปแล้ว ไม่รู้ไปทำอิท่าไหนตอนแรกโดนปล่อยแต่น้องโดนรับกลับไปที่บ้านแล้ว ที่มา ลูกเป็ด

มีคนที่เลี้ยงแมวแต่ไม่รักมากมายที่เลี้ยงแมวแบบปล่อยปละละเลย จนทำให้น้องแมวนั้นกลายเป็นจรโดยไม่รู้ตัว เหมือนกับชีวิตน้องแมวสามสีตัวน้อยตนนี้ จากที่เคยมีบ้านแต่เจ้าของกลับเลี้ยงให้สิ้นลมไปแล้ว 1 ตัว และน้องก็จะตามไปในไม่ช้า . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : พี่ ยา ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสรักเจ้านาย เลาคือทาสแมว อันมีใจความระบุว่า วันนี้มาขอความเมตตาจากพี่ๆทาสแมวนะคะ ใครก็ได้ไม่รับเลี้ยงน้องเอาไปเลี้ยงเอาไปดูแลหน่อย น้องอยู่ติดกับข้างบ้านเราเอง โดยเจ้าของเขาไม่เลี้ยงแล้วปล่อยน้องสิ้นใจไปแล้วตัวหนึ่งแล้วสีส้มตอนนี้เหลือลูกแมว2 ตัวแม่ 1 ตัวเรากลัวว่าน้องจะโดนรถเข้ามาชนเข้า ไหนจะหมาก็เยอะบ้านเรามีแมวแล้วใครมีจิตเมตตาพอที่จะช่วยน้องบ้างช่วยแนะนำด้วยนะคะ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่น้องจะมีบ้านเหมือนกับแมวตัวอื่นๆ เพราะมีคนเข้ามาคอมเม้นต์ในโพสต์ดังกล่าวน้อยมาก ด้วยน้องเป็นแค่จรที่คนเขาไม่ต้องการไหนจะไม่ใช่แมวพันธุ์อีก เราก็ได้แต่หวังว่าน้องจะมีบ้านในเร็ววันนี้ ที่มา พี่...

ด้วยชีวิตเขาเกิดมาเป็นจรจำต้องทนทุกข์ไม่มีสุขด้วยไร้บ้านแม้หาที่หลบแดดฝน ตัวยังน้อยแม่คงออกไปเที่ยวหาประทังตัวเลยต้องหลบเข้าไปนอนในรถ ด้วยควาเป็นเด็กที่ไร้เดียงสาเลยไม่รู้ว่ารถเขาออกตัวมาแล้วจะเป็นภัย เลยไปกลิ้งกลางถนนยังนั่งนิ่ง ถ้าเขาขับเร็วๆชีวิตน้อยๆนี่คงจะไม่รอด เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ped Jung ได้โพสต์เรื่องราวหาบ้านให้กับน้องแมวหลังเจอน้องที่ถนนนวลจันทร์เพราะในระหว่างทางที่รถติดเขาก็ได้เห็นก้อนบางสิ่งบางอย่างกลิ้งตกลงมาจากล้อรถคันข้างหน้า เพราะตัวคงจะร้อนมากและทนอยู่ใต้ท้องรถไม่ไหว คงจะเขาไปหลบแอบอาศัยในระหว่างที่แม่ออกไปหาอาหารให้เพราะยังเล็กมากๆเลย แม้ความไร้เดียงสาและกลัวไม่รู้ว่าตัวอยู่ที่ไหน เลยนั่งนิ่งไม่ไปไหนเขาก็จอดลงไปช่วยไว้ไม่ห่วงตัว เพราะในระหว่างรถติดและโชคดีมากๆที่รถไม่ได้วิ่งกันเร็วน ัก หนึ่งชีวิตเลยรอดมาได้เพราะเขาลงไปอุ้มแต่ก็ไม่สามารถจะเลี้ยงไว้เองได้ เลยอยากจะหาบ้านที่อบอุ่นพร้อมที่จะดูแลน้องไปจนสิ้นชีวีวายใจเขาคงสลายเพราะต้องถูกพรากแม่แล้วไม่รู้ว่าตัวอยู่ที่ไหน แม้เขาเองพาน้องกลับมาน้องก็ยังมีอาการร้องหาผู้เป็นแม่ แม้ยังมีน้ำตาซึมบ้างแต่ก็ไม่รู้จะพากลับไปหาแม่ยังไง เลยขอคนรักคนเมตตาที่มีบ้านสามารถดูแลน้องได้ตลอดจนสิ้นชีวิต พร้อมจะรับหนึ่งชีวิตน้อยๆนี้ไปเลี้ยงดูก็สามารถทักไปหาเขาได้เลย . . ที่มา Ped Jung

เพราะการเลี้ยงดูที่เราเลี้ยงพวกเขามาเหมือนกับลูกตัวน้อยๆ เวลาเห็นชอบหรืออยากจะได้อะไรเราก็ม ักจะหามาให้หรือตามใจพวกเขา แต่บางครั้งความไม่รู้ก็อาจจะทำให้เรากลับต้องเศร้าเพราะอาจจะต้องเสียพวกเขาไปตลอดชีวิต แม้ยังเฝ้าสำนึกผิดโทษตัวเอง เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Ariya Chanmanin ได้โพสต์เรื่องราวที่เธออยากจะแชร์ประสบการณ์อันตรายที่เธอคาดไม่ถึง เพราะน้องแมวได้กินเม็ดทุเรียนเข้าไป ซึ่งปกติแล้ววากิว(ชื่อแมวของเธอ) ก็เป็นแมวที่ชอบกินทุเรียนเอามากๆ แต่เธอก็ไม่ได้ให้น้องกินเยอะก็ให้แค่ชิ้นเล็กๆกับเลียที่เปื้อนมือเท่าน ั้น และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันก่อนตอนกลางคืนเธอกินทุเรียนเสร็จก็เทเม็ดทุเรียนใส่ถุงขยะไว้ แล้วน้องน่าจะเข้าไปคุ้ยในถุงขยะมากิน ตอนเช้ามาวากิวมีอาการอาเจียน แล้วก็มีเศษเม็ดทุเรียนออกมา ตอนแรกก็คิดว่าเม็ดทุเรียนอาจจะไปติดคอน้องเลยอาเจียนออกมา แต่ทว่าน้องอาเจียนไม่ยอมหยุดเป็น 10 ครั้งภายในเวลา 1-2 ชม. เธอเลยรีบพาน้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์...

เพราะอาจจะเป็นโชคชะตาหรือฟ้านำพาให้ได้มาพบหรือลิข ิตไว้ทำให้ได้พบใกล้แม้ขับรถอยู่ดีๆก็ได้ลูกเพิ่ม ด้วยในระหว่างทางขับรถก็เกิดเรื่องไม่คาดคิดจนต้องเบรครถหัวทิ้มพร้อมกับลงไปจอดดู และก็ถือเป็นความโชคดีมากๆที่ตอนน ั้นรถติดและรถก็พากันเบรคไว้ทัน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Piyawan Somie ได้โพสต์เรื่องราวอยู่ๆก็ได้ลูกแมวเพิ่มเพราะในระหว่างทางที่เธอได้ขับรถอยู่รถคันข้างหน้าก็ได้วิ่งผ่านไปและมีลูกแมวตัวน้อยสองตัวได้ตกลงมาจากใต้ท้องรถอย่างไม่ทันได้สังเกต ว่ารถได้วิ่งผ่านหรือน้องตกลงมากันแน่ แต่ที่แน่ๆเธอต้องเบรครถอย่างหัวทิ้มเพราะตัวเองก็เป็นทาสแมวอยู่แล้วจะให้ขับผ่านไปคงทำไม่ได้ แม้ถ้าไม่ได้สังเกตน้องคงจะต้องถูกเธอทับจนสิ้นใจ แม้ระหว่างที่เธอเบรคไว้ก็ได้มีพี่ไรเดอร์ขับมาข้างๆพอดีเขาก็ยังมาช่วยจอดกันรถให้พร้อมใจกันลงไปจับ ด้วยน้องได้ตกมาจากใต้ท้องรถสองตัวเป็นแมวน้อยสีขาวและสีดำอีกหนึ่งตัว แต่น้องตัวสีดำเธอก็กลับไปหาไม่เจอน้องแล้วเพราะน้องวิ่งเข้าไปข้างทางแล้วก็หนีหายไปเลย ส่วนเจ้าตัวนี้ก็วิ่งเข้าใต้ท้องรถน้องเค้าค่อนข้างนอนอยู่เลยทีเดียว เธอกับพี่ไรเดอร์อีกคนก็ต้องมาช่วยกันจับแม้ท่ามกลางถนนที่รถวิ่งผ่านไปมา แต่ก็ยังดีว่ารถคันข้างหลังเขาก็ไม่ได้ต่อว่าเพราะเห็นว่าเป็นน้องแมวได้ตกลงมาจากรถคันข้างหน้า แม้จะต้องพยายามจะหนีเอาชีวิตรอดรถก็เยอะแถมตัวน้องสีดำเองก็เกือบจะถูกทับ และก็ได้ลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งตัวอย่างด้วยความไม่ได้ตั้งใจ และเธอก็มาขอให้ช่วยตั้งใจให้น้องที่บ้านชื่อบู๋กับบี๋แล้ว เราก็อยากจะฝากไปถึงคนที่ใช้รถใช้ถนนให้ค่อยๆขับกันอย่างปลอดภัย เพราะอย่างน้อยๆการขับรถช้าก็อาจจะช่วยชีวิตแมวจรน้อยๆเอาไว้ได้เหมือนเรื่องราวนี้ . . . ที่มา Piyawan Somie