หนีออกจากบ้านไปยังเฝ้าหา กลับมาพร้อมจม.เขียนบอกว่าเธอมีโลกอีก 3 ใบ
เพราะในความสุดแสบก็คงจะไม่พ้นกับแมวฉ้มหรือแงวสลิด เพราะตัวคิดว่าจะไปไหนมาไหนก็ได้หรือคิดว่าตัวเองนั้นเป็นนายไปทุกวัน เลยอาจจะทำให้ทาสอย่างเราไม่รู้เลยว่าในแต่ละวันนั้นพวกเขานั้นไปไหนมาบ้างหรือไปพบเจอกับใคร วันนี้ก็เลยได้หายข้อข้องใจเมื่อได้มีจดหมายเขียนกลับมาไว้หลังหายออกจากบ้านไปต้องปาดน้ำตา
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mng Pawida ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดหัวจะปวดด้วยเรื่องก็มีอยู่ว่าเจ้าส้มหรือแมวของเธอนั้นได้หนีหายออกไปจากบ้านในเมื่อวานและกลับมาพร้อมสารหรือจดหมายจากอีก 2 บ้านที่เขียนติดกลับปลอกคอของเจ้าส้มมาไว้
ซึ่งในจดหมายนั้นเขียนเอาไว้ว่าแมวบ้านไหนเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆด้วยคิดว่าน่าจะเป็นบ้านหลังที่หนึ่ง และด้านหลังของจดหมายก็เป็นบ้านที่สองเขียนกลับไปว่า บ้านน้องอยู่ไหนค่ะน้องหลงมาขออาหารแมวกินทุกวันเลยคะหวังว่าเจ้าของจะเห็นข้อความนี้รบกวนขังน้องหน่อยนะคะ
สงสารน้องเวลาโดนแมวเจ้าถิ่นงับเจ็บมาหาตลอดเลยหรือใส่เลขที่บ้านมายินดีนำไปส่งคืนให้ค่ะ ซึ่งทางบ้านแรกก็เขียนกลับไปอีกว่า ไม่รู้แมวที่ไหนเหมือนกันค่ะ มาหาสาวที่บ้านทุกวันเลยค่ะ สาวบ้านเลขที่ 1 ซึ่งเมื่อทางผู้โพสต์เห็นถึงข้อความก็ยังตะลึงไม่คิดว่าเจ้าส้มนั้นจะมีบ้านถึง 3 หลัง
เลยได้เขียนจดหมายกลับไปว่า เธอเองเป็นบ้านหลังที่ 3 นะคะ เธอเองเป็นคนเอาปลอกคอใส่ให้น้องเองแล้วก็เป็นคนพาน้องไปหาหมอเพราะรอบที่แล้วน้องโดนกัดมาขาบวมมากๆ ที่ใส่ปลอกคอให้เพราะเวลาใครเจอน้องจะได้ช่วยดูแล...
ระหว่างทางกลับเห็นนอนแน่นิ่งกลางถนน ถูกรถชนลงไปอุ้มมาแม้ไม่ห่วงตัวจะเป็นภัย
แม้ในการเลี้ยงดูแลที่เราพยายามจะย้ำบอกตลอดว่าให้อยู่ในบ้าน เพราะถ้าเกิดหลุดหรือเผลอปล่อยออกมาหนึ่งชีวิตนี้จะต้องดิ้นรนและแม้แทบจะเอาตัวเองไม่รอด เพราะการปล่อยให้ออกมาสู่โลกภายนอกนั้น ก็อาจจะต้องทำให้พวกเขาได้เรียนรู้แม้เราอาจจะต้องเสียไปตลอดเหมือนกับเรื่องราวนี้
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Neung Pritsana ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาหลังในระหว่างทางเธอได้พบเจอกับน้องแมวตัวนี้นอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน ซึ่งเธอก็ได้ลงไปอุ้มน้องมาจากกลางถนนแม้ไม่ห่วงว่าตัวจะเป็นภัยเพราะน้องถูกรถชนตรงข้ามโรงพยาบาลหัวหิน 4 แนบเคหาสน์
และเธอได้นำเรื่องราวน้องมาโพสต์ลงบนโลกออนไลน์เพื่อที่จะตามหาเจ้าของให้กับน้อง ซึ่งในตอนนี้น้องอยู่ที่โรงพยาบาลแถวบ ่อนไก่ ซึ่งถ้าใครเป็นเจ้าของก็อยากจะให้มารับน้องกลับไป เพราะตอนนี้น้องได้อยู่ในความดูแลของหมอแล้ว
แม้ในภายหลังเธอก็ได้เข้ามาอัพเดทว่าตอนนี้เจอเจ้าของน้องแล้วมาแสดงตัวแล้วน้องมาจากซอย 45 มาซอย 51 มาเที่ยวไกลมากๆ เจ้าของก็กำลังพาลูกมาหาน้อง ขอขอบคุณที่ทุกคนช่วยกันแชร์นะคะเจ้าของน้องเจอจากการแชร์เลย แต่เธอก็ยังไม่ได้ทำการอัพเดทอาการของน้องว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ได้แต่ฝากไปถึงคนเลี้ยงทุกคนว่าควรจะเลี้ยงดูแลพวกเขาในระบบปิด
ที่มา Mint Nuttakarn
เฝ้าหาบ้านมาเนินนานยังไร้คนถูกชะตา นอนรอน่าเวทนาเห็นแล้วยังอนาถใจ
แม้แต่การหาบ้านให้กับแมวแต่ละตัวนั้นก็คงไม่ใช่เรื่องยากแต่ถ้าจะหาบ้านให้กับแมวที่มีเยอะมากๆคนก็คงจะไม่ค่อยอยากจะรับหรือเลี้ยงดูเขา เพราะถ้าเราโพสต์แต่การหาบ้านหรือมีน้องแมวจำนวนมากที่ต้องการหาบ้านตลอด คนเห็นแล้วก็คงจะเบื่อและถ้ายิ่งเป็นแมวไทยที่หน้าตาไม่ได้สะสวยเหมือนแมวพันธุ์
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปณิตา ยอดเยี่ยม ได้โพสต์เรื่องราวน่าเวทนาของเจ้ามิ้วตัวนี้ที่นอนรออย่างหมดความหวังหลังเธอได้พูดให้น้องฟังว่ากำลังหาบ้านให้มาแสนเนินนานแล้วแต่ก็ยังไร้คนจะถูกชะตา น้องก็คงจะรู้และคิดตามว่าเขาคงจะหมดหวังแล้ว
เพราะสิ่งมีชีวิตที่เป็นแมวจรนั้นพวกเขาจะสามารถฟังเราเข้าใจได้มากกว่าแมวบ้าน แม้ยังต้องเอาตัวรอดจากการแอบฟังของมนุษย์ที่พยายามจะไล่เขาหรืออาจจะเป็นคนใจดีพวกเขาเลยต้องเรียนรู้ที่จะฟังแล้วแยกให้ออก ต่างจากแมวบ้านที่เราเลี้ยงดูแลมาตลอดและพวกเขาไม่สนใจเราเลย
ซึ่งภาพนี้ก็กลายเป็นภาพที่บีบหัวใจให้กับคนเป็นทาสหลายคนมากแต่ทว่าก็ยังไม่มีใครสนใจจะรับน้องไปเลี้ยงดูแลต่ออยู่ดี แม้เธอก็ได้ลงข้อความบอกเอาไว้ว่าหาบ้านมานานมากๆแล้วแต่ก็ไม่มีใครถูกชะตาน้องเลย น้องเป็นแมวนิสัยดีมากขี้อ้อนมากและก็อยากจะให้น้องมีบ้านอยากให้มีใครสักคนดูแลเขา
ไปจนกว่าจะหมดอายุขัยหรือสิ้นลมหายใจ น้องเป็นแมวเพศผู้อายุ 5 เดือนแล้ว พิกัดหัวลำโพงกรุงเทพ หรือสามารถจะติดต่อไปหาเธอได้จากต้นโพสต์ได้เลย แม้ในการโพสต์ของเธอก็ไม่ได้มีเพียงน้องตัวเดียวที่หาบ้านแต่ยังมีน้องแมวอีกหลายตัวมากๆที่เธอพยายามจะหาบ้านให้กับน้อง
ซึ่งถ้ามีใครอยากจะได้แมวจรตัวน้อยๆที่มีนิสัยน่ารักและฉลาดไปเลี้ยงดูก็สามารถจะไปดูได้จากทางต้นโพสต์ได้เลย หรือจะช่วยเพิ่มโอกาสให้น้องได้บ้านด้วยการแชร์โพสต์เราก็ขอให้บุญนั้นส่งกลับคืนไปหาท่านเป็นร้อยเท่าพันเท่าเลย
ที่มา ปณิตา ยอดเยี่ยม
สาวสุดภูมิใจหลังแมวกินข้าวเกลี้ยงชาม ซ้ำมาฉี่ในกระบะทรายที่หามาวางไว้ให้แต่ไม่ใช่แมวตัวเอง
เพราะในความเป็นแมวซึ่งเป็นสัตว์หรือเป็นแมวที่ไม่ค่อยจะสนใจโลกใบนี้นัก ยามจะทำอะไรก็คิดเสมอว่าตัวเองเป็นเจ้านายหรือเจ้าของเขาไปหมด ด้วยสัญชาติยานของความเป็นสัตว์ป่าหรือคิดว่าตัวเป็นจ่าฝูงเลยทำให้เวลาทำอะไรก็มักจะไม่ค่อยเกรงใจแม้แต่คนที่หาข้าวหาน้ำให้หรือคนที่ไม่รู้จักเลย
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Naruephorn Tanachiva ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดภูมิใจหนักหนาเพราะแมวนั้นกินข้าวเกลี้ยงชามและฉี่ในกระบะทราย แต่ทว่าหลายคนอาจจะฟังแล้วมันน่าภูมิใจตรงไหนเพราะแมวใครๆเขาก็ทำได้ แต่ๆน้องเป็นแมวใครกันนะเพราะไม่ใช่แมวของเธอ
แม้เธอก็ยังมาโพสต์ด้วยความงงว่าทำไมไม่ไปกินไปฉี่บ้านตัวเองว่ะเฮ่ย ซึ่งเธอก็ได้มาอัพเดทประวัติและเรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวนี้ทีสุดจะม ึนแล้วเข้ามากินข้าวในบ้านแม้มาฉี่ในกระบะทรายของเธอด้วยว่า น้องมีชื่อมีนามว่าเจ้า สมชาย เป็นแมวของคนบ้านหนึ่งในซอยเดียวกัน ชอบอาศัยทีเผลอตอนเธอแง้มประตูรั้วเอาไว้
และแว๊บเข้ามากินข้าวแมวของเธอจนเกลี้ยงทุกครั้ง แถมล่าสุดหนักข้ออีกเพราะกินเสร็จแล้วฏ็ลงกระบะทรายของแมวเธอฉี่ด้วยเลย กันเองเกินไปแน้ววเจ้าส้มชาย ซึ่งเธอก็ยังทำเป็นรูปและประวัติความเป็นมาว่าแมวของเธอนั้นชื่อนุ้งภาระเป็นเพื่อนบ้านและอายุน่าจะไล่เลี่ยกัน
แม้ตัวสมชายกับภาระจริงๆแล้วก็ไม่สนิทกันหรอกเพราะภาระจะวิ่งหนีสมชายตลอดเลยแปลกมากไม่ชอบคนหล่อ และวันหนึ่งวันที่ผู้โพสต์ได้เผลอแง้มประตูทิ้งเอาไว้สมชายก็เลยได้แวะเข้ามาเที่ยวชมบ้านหลังนี้สะหน่อยว่าน่าอยู่ และหลังจากนั้นก็เลยมาขอชิมข้าวดูสักสองสามคำ
พอกินไปกินมาสักพักก็เริ่มที่จะติดใจ เมื่อไหร่ก็ตามที่นุดเผลอเมื่อไหร่สมชายก็จะเข้ามาใกล้และแอบชิมข้าวของภาระที่วางไว้จนหมดชามตลอด เป็นสมชายที่มีชื่อเสียงเรียงนามว่าคนกันเองก็ถือเป็นเรื่องราวสุดน่ารักที่ทำให้หลายคนได้เห็นก็อดยิ้มไม่ได้แม้โพสต์นี้จะนานแล้วก็ตาม
ที่มา Naruephorn Tanachiva
หนุ่มสุดจะทันหลังถูกป้าข้างบ้านต่อว่า ปล่อยให้แมวท้องมาแล้วไม่ยอมทำหมัน
เพราะในความเป็นมนุษย์ป้าทีมีเรื่องให้เป็นห่วงเป็นใบเกินญาติมิตรแม้มีสิทธิ์ที่จะทักคนอื่นเขาแบบไม่เกรงใจฉัน แม้แต่เรื่องแมวๆยังไม่เว้นจะพ้นสักวัน เดินมาทักหาว่าฉันเลี้ยงลูกไม่ดีพอปล่อยให้ท้องแล้วออกลูกออกหลาน แต่ก็กลับเป็นเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้มให้กับคนเป็นทาสอีกหลายคน
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Palakorn Inampai ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดจะทนกับคนข้างๆบ้านหลังชอบมาทักหาว่าเขานั้นเลี้ยงแมวไม่ดีพอละเลยจนปล่อยให้ท้องออกมาและจะต้องออกลูกออกหลาน แต่ว่าเจ้ามิ้วตัวที่เขาได้ทักมานั้นกลับกลายเป็นผู้ชาย
ซึ่งน้องไม่สามารถที่จะท้องได้และที่เห็นว่าท้องป่องๆนั้นไม่ได้ท้องจริงๆแต่แค่อ้วงเพราะไม่ได้อึ หรือฉันแค่ให้ลูกอยู่ดีกินดีจนเกินไปเลยทำให้ท้องใหญ่ท้องโตมาจนคนเขาเข้าใจว่าหนูกำลังตั้งครรภ์ เขาเลยได้นำมาโพสต์ลงในกลุ่มไว้ว่านู๋ไม่ได้ท้องนู่เป็นผู้ชายแค่อ้วงเฉยๆ
ไม่เห็นจะต้องมาว่าคูมพ่อของหนูเลยหนูแค่กินเยอะเกินวันหน้าวันหลังจะกินให้น้อยหน่อยถ้าไม่ลืม ซึ่งภาพที่เขาโพสต์ลงนั้นก็เป็นเจ้ามิ้วตัวส้มสุดแสบที่มีประชากรเป็นแมวตัวเมียหรือแมวส้มตัวเมียที่น้อยมากๆ หายากน้อยกว่าแมวสามสีที่เป็นตัวผู้เพียงนิดหน่อย
ซึ่งวันหน้าวันหลังจะไปทักลูกว่าใครท้องก็ควรจะต้องดูให้ดีว่าน้องมีหรรมหรือเปล่าและอาจจะเป็นการเสียมารยาทแม้แต่ในแมวที่อ้วงหากไปทัก คนเขาจะหาว่าเราไปมูลี่ลูกเขาได้ ก็กลายเป็นเรื่องที่สร้างรอยยิ้มให้กับหลายคนที่ผ่านเข้ามาเห็น
ที่มา Palakorn Inampai
สาวโพสต์ปสก.เตือนอุทาหรณ์ป้อนยาติดคอ จนตาค้างเกือบจะขิตด้วยน้ำมือตัว
แม้แต่การเลี้ยงดูแลมาในความรักอย่างเดียวก็อาจจะยังก็อาจจะยังคงไม่เพียงพอ เพราะน้องจากความรักที่มอบให้หรือการเอาใจใส่พวกเขาเราเองก็จะต้องทำการศึกษาแม้บางคนเลี้ยงถูกวิธีก็ดีมา แต่ถ้าบางคนไม่ชำนาญก็อาจจะส่งผลให้พวกเขาเป็นภัยเพราะตัวเราเอง
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kratae Kratae Tonbun ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาโพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์สอนใจว่าอย่าหาทำเหมือนกับเธอ แม้ตัวเธอเองก็จะจำเรื่องราวนี้เอาไว้เป็นบทเรียน เพราะเด็กๆไม่สบายในเมื่อคืนเธอก็ลุกมาป้อนยาให้กับน้อง
และน้องก็ทำท่้าจะอ้วกยาออกแล้วด้วยความที่เป็นยาแคปซูลตัวยาก็คงจะดันออกมาจนทำให้ยานั้นติดคอน้อง น้องมีอาการตาค้างน้ำมูกไหลซึ่งพอผ่านไปสักพักน้องก็ตัวอ่อนลงและนิ่งไปเลย เธอคนเป็นแม่ตกใจเป็นอย่างมากทำอะไรไม่ถูกเลย คิดว่าน้องต้องสิ้นใจแล้วแน่ๆ
เธอเลยพยายามจับน้องห้อยหัวและตบหลังน้องพร้อมกับเขย่าตัวน้องแรงๆ สักพักน้องก็กลับมา พอน้องอาการดีขึ้นก็มานั่งมองหน้าคงอยากจะบอกกับแม่ว่า ที่หลังอย่าหาทำอีกนะแม่หนูเกือบได้ไปอยู่กับเพื่อนๆที่ดาวแมวแล้ว เธอก็เฝ้าขอโทษนะลูกนะมันเป็นที่ความสะเพราของแม่เอง
ที่ไม่ทันได้ติดให้รอบคอบเกือบทำให้ลูกต้องมาสิ้นใจด้วยน้ำมือของแม่เอง และขอบคุณมากๆที่หนูกลับมาอยู่กับแม่เหมือนเดิมแม้ในตอนนี้น้องปลอดภัยดีแล้วนะคะ เมื่อคืนแม่เอาน้องมานอนกอดทั้งคืนเลยเพราะกลัวว่าจะมีอาการอะไรอีก และตอนนี้น้องก็กินและเล่นได้ปกติแล้ว
ซึ่งหลังจากการโพสต์ลงไปก็ได้มีหลายคนเข้ามาแนะนำว่าถ้าเป็นยาเม็ดแล้วเกิดเราไม่ชำนาญหรือไม่เคยป้อนมาก่อนก็ให้หาละลายในน้ำหรือถามกับทางคุณหมอจะทำให้น้องนั้นปลอดภัยกว่า ไม่ต้องมาเสี่ยงติดคอแบบนี้สงสารน้องแต่ก็ขอบคุณที่มาโพสต์เตือนคนอื่นๆเห็นแล้วจะได้ระวัง
ที่มา Kratae Kratae Tonbun
เดินมาร้องขอให้ช่วยประทังน้ำลายฟูมปาก น้ำตาไหลพรากคงพลัดหลงมาแสนเนินนาน
เพราะในคำว่าโลกทั้งใบที่หลายคนพยายามจะย้ำบอกว่าพวกเขานั้นมีเราเป็นอ้อมกอดหรือเป็นโลกทั้งใบเพียงเท่านั้น เลยพยายามจะบอกเล่าให้เลี้ยงในระบบปิดหรือให้ดูความพร้อม เพราะน้องชีวิตนั้นจะต้องเร่ร่อนแม้ไร้ที่ให้นอนหรืออาจจะเจ็บป่วยไข้เลยพยายามจะเดินมาร้องขอความช่วยเหลืออยู่ร่ำไป
แม้ตัวคงจะหวังในใจว่าจะได้กลับหวนคืน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Chanakan Niamhom ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเพื่อที่จะตามหาเจ้าของให้กับน้อง เพราะน้องมีอาการน้ำลายไหลตลอดเวลาแม้ร้องตกใจเวลาเห็นคนเดินผ่าน และขาหน้าซ้ายก็เจ็บหนัก
ซึ่งน่าจะเกิดมาจากอุบัติเหตุด้วยเขาเองก็เจอน้องที่บริษัทมหาจักร รามคำแหง 151/1 สะพานสูงคอนโดศรีราม แม้เขาเองก็เลยพยายามที่จะเอาอาหารเปียกให้กับน้องกินแต่น้องก็ไม่ค่อยจะกิน แม้จะพยายามฝืนกินอยู๋หลายครั้งเพราะน้องน่าจะเจ็บในปากมาก
จนสุดท้ายน้องก็กินได้และอาการน้ำลายไหลก็ดีขึ้น เขาก็ยังไม่ได้พาน้องไปหาหมอเพราะต้องทำงานต่อเลยทำได้แค่เอาอาหารและน้ำวางไว้ให้น้องประทังชีวิต แม้ในภายหลังเขาก็ได้มาอัพเดทว่าตอนนี้นำส่งน้องหาหมอแล้วและจะมาอัพเดทอีกครั้ง ซึ่งถ้าใครคิดว่าเป็นแมวของตัวเองก็สามารถจะแสดงตัวหรือติดต่อหาเขาได้เลย
ที่มา Chanakan Niamhom
ก่อนเคยรักมีบ้านเคยมีเจ้าของ วันนี้น้ำตานองมองไม่เห็นทิ้งทั้งเป็นอย่างไรเยื้อใย
เพราะในความรักที่คิดจะเลี้ยงหรืออาจจะเป็นเพราะในความสงสาร แต่เมื่อความไม่พร้อมหรือความไม่ตั้งใจจะเลี้ยงหรือรับมาตั้งแต่แรกเลยทำให้ต้องกลับกลายมาเป็นจรและต้องทนทุกข์เพราะแม้ก่อนจะเคยมีบ้านมีรักที่อบอุ่นแม้เฝ้าถนอมดูแลมาตลอดแต่พอวันนี้กลับไม่ต้องการเลยต้องพลันเป็นจรน้ำตาตกใน
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Saranya Kaewanan ได้โพสต์เล่าเรื่องราวเพื่อที่จะขอผู้ใจบุญให้กับน้องแมว 3 ชีวิตนี้เพราะน้องเคยมีบ้านแต่มาวันนี้กลับถูกเจ้าของเดิมนำมาปล่อยทิ้งอย่างไร้เยื้อใย เพราะน้องตาบอด 1 ข้างและจากที่ถูกเจ้าของเดิมทิ้ง
น้องก็พยายามพาลูกทั้งสองตัวกลับมาบ้านแต่ก็กลับถูกเขาไล่ตีเพราะเหตุผลที่เจ้าของเดิมบอกว่าแพ้เห็บจากตัวน้อง จนตอนนี้น้องต้องมาอาศัยกลางกองไม้ริมถนนที่มีรถวิ่งเข้าออและผ่านตลอด และคนตรงนั้นก็ทำได้เพียงแค่เอาข้าวเอาอาหารให้กับน้อง แม้บางวันก็จะต้องอดมื้อกินมื้อ
เธอเลยอยากจะวอนขอผู้ใจดีหาบ้านให้กับน้องเขาจะได้มีที่อยู่อาศัยที่พักพิงให้กับชีวิตลูกตัว และขอวอนถ้ารับลูกเขาก็อยากจะให้รับแม่เขาไปอยู่ด้วยเพราะเขาคงจะรักลูกมากๆถึงได้ยอมเดินกลับมาหาเจ้าของที่ทิ้งตัวไปก็ตาม แต่ไม่พ้นก็ยังถูกเขาไล่ตีซ้ำไม่ให้เข้าบ้านคนเป็นทาสเห็นแล้วก็แทบจะขาดใจ ซึ่งถ้าใครอยากจะรับก็สามารถจะติดต่อไปได้กับทางต้นโพสต์หรือถ้าใครเห็นเรื่องราวนี้ก็ขอวอนให้ช่วยกันแชร์เรื่องราวนี้เพื่อที่น้องจะได้มีโอกาสได้บ้าน
ที่มา Saranya Kaewanan
จากแรกรับเข้ามาเป็นเห็ดออรินจิ เฝ้าถนอมดูแลเป็นอย่างดีตากแดดมากกลายเป็นเห็ดหูหนู
ถ้าพูดถึงแมวไทยหรือแมวสายพันธุ์ที่มีตาสีฟ้าหน้าดำแซมหลายจุดก็ทำให้เราคิดถึงน้องแมววิเชียรมาศที่หลายคนได้รู้จัก หรือในฝรั่งจะเรียกว่าสีบูลพ้อยซึ่งน้องจะมีสีเข้มตามจุดต่างๆ แม้บางครั้งสีของขนนั้นก็อาจจะเปลี่ยนได้ตามสภาพอากาศหรือความเครียดของพวกเขาอีกด้วย
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เบญญาพวย ฮาจิบวย ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดฮาเมื่อเธอนั้นได้รับเลี้ยงแมวพันธุ์วิเชียรมาศเข้ามาเลี้ยงหรือที่หลายคนเรียกว่าเจ้าเห็ดออรินจิ ซึ่งพอเวลาผ่านพ้นปีเธอก็ได้ดูแลถนอมน้องมาเป็นอย่างดีแต่น่าจะพาไปตากแดดเยอะเกิน
แม้คงจะลืมทากันแดดเลยทำให้หน้าลูกไหม้หรือดำปี๊ดปี๋ เธอก็เลยนำมาโพสต์โถ่คนดี 1 ปีผ่านไปจากเห็ดออรินจิหน้าใสกลายมาเป็นเห็ดหูหนูดำซะแล้ว แม้ก่อนหน้าที่เธอจะได้รับน้องเข้ามาเลี้ยงก็ยังเคยได้ยินคำเตือนจากเพื่อนมาด้วยว่าพอ 5 ปีผ่านลูกจะมีสีเข้มขึ้นจากขาวๆจะกลายเป็นสีดำ
ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลยเพราะมันยังไม่ถึง 5 ปีพอมาวันนี้ แค่ 1 ปีเท่านั้นหรือลูกฉันตากแดดมากไป ซึ่งถ้าพูดกันถึงในส่วนวิชาการหรือตามหลักการของสายพันธุ์นี้น้องจะเป็นแมวที่เปลี่ยนสีได้ เพราะความเข้มของคนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ
เพราะเคยมีงานวิจัยเป็นสาวที่เลี้ยงแมวพันธุ์นี้ซึ่งได้นำน้องแมวจากเมืองไทยไปเลี้ยงยังเมืองนอกผลออกมาว่าน้องนั้นมีสามารถจะมีสีที่เข้มขึ้นตามสภาพอากาศที่หนาวเย็นและจะมีสีที่อ่อนตามสภาพอากาศที่ร้อนแต่ก็อย่าได้เอาลูกไปตากแดดกันละเพราะบางทีก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่นสภาพแวดล้อมหรือแม้แต่ความเครียดของน้องก็มีผล
ที่มา เบญญาพวย ฮาจิบวย
หอบระหกตัวระหกเที่ยวออกหาถูกเขาชนมา กระเสือกกระสนคลานกลับมาให้นมลูกน้ำตาตกใน
แม้ในความเป็นแม่ที่หลายคนที่เลี้ยงแมวจะชอบบอกว่าพวกเขาไม่มีความรู้สึกหรือไม่รู้นึกรักเจ้าของเหมือนกับสุนัขหรือสัตว์อื่นๆอย่างใครเขา แต่ในความเป็นจริงแล้วพวกเขาก็มีความรักลูกและเป็นห่วงลูกตัวไม่ต่างจากเรา แม้วันหนึ่งตัวจะต้องเจ็บหรือเศร้ายังต้องหอบสังขารคลานกลับมาให้นมลูกตัว
เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Suchana Toonny ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาในความเป็นแม่ของน้องแมวตัวนี้หลังจากที่เธอได้มาโพสต์เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือหรือขอคนเข้ามารับเคสช่วยเหลือแม่แมวแม่ลูกอ่อนตัวนี้ที่ถูกรถทับครึ่งตัวล่าง
ซึ่งน้องเป็นแมวจรที่ไม่มีเจ้าของแล้วดันท้องเลยออกลูกมาแต่ทว่าวันหนึ่งเกิดถูกรถทับมาทำให้ต้องใช้ตัวถัดๆหรือแบกสังขารไปมาเห็นแล้วก็น่าเวทนาจิต เพราะแม้ตัวจะเจ็บหรือเดินไม่ได้น้องก็ยังพยายามจะดิ้นรนเพื่อที่จะแบกสังขารตัวกลับไปหากลับไปให้นมลูกตัวเอง
เขาเห็นแล้วก็เกิดความสงสารน้องเป็นอย่างมากเลยอยากที่จะหาบ้านให้กับน้องอยู่เพราะถ้าปล่อยเอาไว้น้องคงจะต้องอยู่กับความทุกข์ทรมาน แม้ในวันนี้ก็ยังโชคดีที่มีคนทำที่พักพิงเอาไว้ให้เพราะน้องถูกรถทับมาจะครบอาทิตย์แล้วแต่ก็ยังฮึดสู้เพราะความเป็นห่วงลูกของตัวเองจะต้องอด
ซึ่งเธอก็แจ้งพิก ัดเอาไว้ที่เพชรเกษม 110 แยก 21 หน้าวัดไผ่เลี้ยง แม้ในความโชคร้ายในโชคชะตาที่ตัวต้องประสบหรือพบเจอนั้นก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เพราะในภายหลังเธอได้มาอัพเดทว่าในตอนนี้มีผู้ใจบุญรับน้องเข้ารักษาแล้วนะคะ ยังไงก็จะมาอัพเดทข้อมูลให้ทราบกันต่อไป
ที่มา Suchana Toonny