เจ้าของเก่าย้ายไปปล่อยไว้ให้แม่ผัวเลี้ยง แต่ข้าวสักเม็ดก็ไม่เคยได้ตกถึงท้อง ฝนตกแดดออกก็เดินเตร็ดเตร่ตัวลำพัง
ในบางครั้งมนุษย์เรามักจะเรียกสิ่งต่างๆที่ได้พบเจอว่าโชคชะตาหรือชะตากรรม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่วนใหญ่มนุษย์นั้นก็เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้มาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเราจะต้องเกิดมาชดใช้หรือเผชิญกับชะตากรรมเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่เองก็ตามล้วนแต่มีคนกำหนดมาให้ได้พบเจอกับสิ่งต่างๆมากมาย
แม้แต่สุนัขที่มีสายพันธุ์ดีๆอย่างสุนัขพันธุ์ไซบีเรียนฮัสกี้รายนี้ก็ตาม หลังจากที่ผู้โพสต์ที่ใช้ชื่อว่า Jidapha Khiaosaart ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้ขับผ่านเห็นเจ้าตูบไซบีเรียนฮัสกี้รายนี้เดินอยู่ข้างถนนโดยที่ไม่ส่วมใส่ปลอกคอ เธอจึงได้จอดรถดูแต่น้องกลับกลัวคนเพราะไม่ไว้ใจผู้ใด
ซึ่งไม่กล้าที่จะให้ใครเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย เธอจึงลองถามคนที่อยู่ในระแวกนั้นดูเขาจึงได้บอกกับเธอว่าเจ้าของเก่าย้ายออกไปปล่อยเอาไว้ให้แม่ผัวเลี้ยง แต่เขากลับไม่ได้เลี้ยงเพราะแม้ฝนจะตกหรือแดดจะออกน้องก็ไม่ยอมเข้าบ้านแม้อาหารหรือน้ำก็ไม่เคยมีให้กินหรือตกถึงท้อง เดินทั่วบนถนนแถวบ้านไม่ไปไหน
แถมยังถูกปล่อยปละละเลยจนเป็นขี้เรื้อนอีกด้วย โดยสภาพก็ผอมแห้งมากๆเธอจีงอยากจะหาคนที่จะเมตตาน้องไปเลี้ยงดูเพราะการปล่อยไว้แบบนี้ก็ต้องหากินเองไปวันๆซึ่งถ้าเมื่อวันไหนไม่มีให้กินหนักๆเข้าก็คงจะสิ้นใจ และในตอนแรกนั้นเธอเองก็ไม่สามารถที่จะถ่ายรูปน้องมาลงได้เพราะน้องหนีตลอด
ด้วยการถูกปล่อยปละละเลยมาเป็นเวลานานทำให้กลัวผู้คนไม่กล้าให้ใครๆเขาเข้าใกล้ และพิกัดที่เธอได้แจ้งเอาไว้ก็คือพิกัดแถวห้วยยายพรม โดยหลังจากเรื่องราวของน้องได้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ได้มีผู้คนใจดีอาสาเข้ารับเลี้ยงน้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งเธอก็ทำหน้าที่นำพาไปรักษาและส่งมอบบ้านต่อไปโดยที่น้องจะได้ไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างเร่ร่อนเป็นหมาจรไร้บ้านไร้แม้ที่หลบแดดหลบฝน ซึ่งก็ขอขอบคุณทางผู้โพสต์ที่เลือกจะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้องให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่เป็นอยู่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Jidapha Khiaosaart
ถูกไล่ให้อยู่นอกห้องตั้งแต่เย็น ไม่มีแม้ข้าวหรือน้ำจะตกถึงท้องส่งเสียงร้องอ้อนวอนขอเพียงน้ำสักอึก
ด้วยการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสิ่งหนึ่งที่เรามักจะย้ำบอกทุกครั้งว่าการที่จะนำแมวหรือสุนัขมาเลี้ยงสิ่งที่เราควรจะมีคือการเตรียมความพร้อมเพราะการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นก็เหมือนกับการที่เรานำเด็กตัวเล็กๆมาเลี้ยงซึ่งพวกเขาจะค่อยๆที่จะเรียนรู้และเติบโตในเวลาต่อมาจนเข้าสู้ช่วงโตเต็มทีพวกเขาถึงจะพูดรู้เรื่อง
ซึ่งหากเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมหรือไม่ใส่ใจในรายละเอียดในการเลี้ยงดูสั่งสอนพวกเขาก็จะเติบโตมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดื้อแล้วไม่ฟังแล้วซึ่งก็อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้ หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mix Amonthep Sangkul ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม ชมรมคนรักแมวเหมียว
หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องร้องเรียกส่งเสียงดังตั้งแต่ตอนเย็นๆ ซึ่งเจ้าของของน้องนั้นไม่ยอมให้เข้าห้องหรือว่าอย่างไรเขาก็ไม่แน่ใจแต่น้องส่งเสียงร้องดังมากๆจนเขานั้นต้องเปิดประตูออกมาดู และด้วยเขาเองก็เคยเห็นว่าเจ้าของแมวรายนี้ก็เคยทำร้ายเจ้าเหมียวให้เขาได้เห็นแบบต่อหน้าต่อตา ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไงดี
เพราะตัวน้องเองก็ได้แต่ส่งเสียงร้องอ้อนวอนผู้เป็นเจ้าของให้เปิดประตูให้ไม่รู้ว่าน้องได้ไปทำอะไรมาผิด แต่ที่แน่ๆเลยคือน้องไม่มีแม้น้ำหรืออาหารที่จะตกถึงท้องเพราะน้องถูกปล่อยไว้แบบนี้ตั้งแต่เย็นจนในตอนนี้ก็เป็นเวลาตี 3 เข้าไปแล้วแต่น้องก็ยังไม่ได้เข้าห้องแต่อย่างใดเลย เขาจึงได้ตัดขวดน้ำเทใส่ให้น้องประทังความหิวไปก่อน
ซึ่งเขาก็ได้นำไปวางไว้ให้กับน้องแต่ทว่าเมื่อเขาได้เดินกลับมายังห้องตัวเองแล้ว น้องกลับเดินตามเขากลับมาด้วยและพยายามที่จะเอาอุ้งมือมาขวางประตูเอาไว้ราวกับว่าจะขอเข้าห้องตามไปด้วย ซึ่งตัวเขาเองก็เลยเปิดประตูให้น้องเข้ามาเล่นในห้องสักพักแต่ก็ไม่สามารถที่จะให้น้องนอนด้วยได้เพราะกลัวว่าเดี๋ยวทางผู้เป็นเจ้าของเขาจะหาว่าไปขโมยแมวของเขา โดยเมื่อเล่นพักใหญ่ๆเขาก็ได้นำน้องออกไปไว้ที่เดิมซึ่งก็สงสารแต่ก็ทำอะไรไม่ได้จึงได้อยากนำเรื่องราวมาโพสต์บอกเล่าในฐานะคนรักแมว โดยหากคิดจะเลี้ยงแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ควรที่จะทำแบบนี้กับสัตว์เลี้ยงเพราะอย่าได้ลืมไปว่าพวกเขานั้นมีสมองเทียงเท่ากับเด็กเพียงอายุ 2 ขวบเพียงเท่านั้นเขาจะรู้เรื่องได้อย่างไรว่าตัวของเขาเองได้ทำอะไรผิด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Mix Amonthep Sangkul
หอบลูกแอบอาศัยนอนหลังคา เจ้าของบ้านเขาเอาหนังสติ๊กไล่ ด้วยไร้ที่อยู่อาศัยจะทำยังไงให้ลูกได้อยู่สุขสบาย
ด้วยรักของคำว่าแม่นั้นยิ่งใหญ่นักซึ่งเราคงจะหาอะไรมาเปรียบกับความรักที่แม่มีให้ต่อลูกน้อยไม่ได้ และเชื่อว่าทุกๆคนเองก็คงจะเข้าใจกับคำว่าหัวอกของคนเป็นแม่ดีอยู่แล้วซึ่งทุกคนที่ได้เกิดมาจากผู้เป็นแม่ที่ให้กำเนิดคงจะรู้ว่าบนโลกใบนี้ไม่มีสิ่งใดที่ผู้เป็นแม่ยอมทำให้ลูกอย่างเราๆไม่ได้อย่างแน่นอน
และก็ไม่ใช่เพียงแค่มนุษย์อย่างเราๆเพียงเท่านั้นแม้แต่สัตว์หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กก็ยังมีความเป็นแม่ไม่ต่างกันเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nart Isara ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขาได้พบพวกน้องถูกแม่แมวพาแอบขึ้นไปอาศัยอยู่บนหลังคาบ้านคนอื่นเขา
ด้วยน้องๆเป็นแมวจรแต่ทว่าเจ้าของบ้านเขากลับไม่ชอบแมวเพราะพวกน้องๆไปนอนบนบ้านของเขา เขาจึงเอาไม้ไล่พวกน้องๆแถมยังถูกเขาจ้องเล่นงานถึงขนาดลงไม้ลงมือเลยก็มีและเมื่อไม่นานมานี้แม่ของพวกน้องๆก็ถูกหนังสติ๊กที่เอาไว้ไล่นกเอามาดีดใส่แม่แมวเมื่อ 3-4 วันก่อนอีกด้วย
โดยหลังจากนั้นแม่แมวก็หายไปเลย ทำให้พวกเด็กๆที่เหลือจำต้องอดด้วยยังเล็กจึงไม่สามารถที่จะลงไปหาอาหารกินกันเองได้และต้องติดอยู่บนนั้น ซึ่งตัวผู้โพสต์เองก็ไม่สามารถที่จะออกตัวไปช่วยเหลือเด็กๆได้เพราะอาจจะมีปัญหาตามมาได้เพราะด้วยบ้านใกล้เรือนเคียง
อีกทั้งยังเคยมีประเด็นเมื่อปีก่อนก็มีพี่คนนึงมาให้อาหารน้องแมวซึ่งบ้านดังกล่าวก็เขาว่าห้ามไม่ให้ให้ข้าวน้อง จึงอยากให้เพื่อนๆหรือหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือน้องทีเพราะในระแวกบ้านก็ยังมีแมวจรอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเธอได้ระบุพิกัดเอาไว้ที่ แถมเทอดไท ธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนสนใจอยากจะรับพวกเด็กๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nart Isara
แอบอาศัยในโรงงาน แต่ถูกเขาเอาเท้าเขี่ยเอาเท้าเตะเพราะไม่ชอบ แต่ด้วยเกิดมาเป็นจรเลยต้องจำใจทน
เพราะมนุษย์อย่างเราๆนั้นเกิดมามีหัวใจที่แตกต่างกันด้วยการเลี้ยงดูการศึกษาหรือสภาวะทางสังคมที่เติบโตมา ทำให้มนุษย์บางคนนั้นมีจิตใจที่เมตตาต่อสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ แต่กลับกันในบางคนนั้นกลับไม่มีจิตใจที่เมตตากับสัตว์เหล่านี้เลยแม้แต่น้อย เพราะด้วยสภาพวะทางจิตใจที่ถูกหล่อหลอมมาตั้งแต่เด็ก
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Winai Yudee ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้ลงในกลุ่ม คนเลี้ยงแมว หลังจากที่เธอนั้นพบน้องถูกคนจิตใจร้ายรังแกด้วยเพราะเกิดมาเป็นแมวจร ซึ่งน้องนั้นอาศัยแอบนอนอยู่ในโรงงานที่เธอได้อยู่
แต่ทว่าก็มากผู้หลายคนและในหลายๆคนก็ไม่มีใครเขาชอบแมว จึงเอาเท้าเขี่ยเอาเท้าเตะเพื่อที่จะไล่น้อง โดยเธอยังได้บอกอีกด้วยว่าในบางวันนั้นถึงขนาดเห็นคนงานเข็นรถเพื่อทับหางจนน้องกระโดดตัวลอย ซึ่งด้วยตัวเธอเองก็อยากที่จะช่วยเหลือน้องแต่ทว่า
เธอก็กลัวว่าจะเข้ากับแมวที่บ้านของเธอไม่ได้จึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์ยังกลุ่มดังกล่าวเพื่อหวังว่าจะมีใครที่พอจะมีพื้นที่และความเมตตาในหัวใจให้กับน้องเหมียวรายนี้ เพราะหากปล่อยน้องเอาไว้แบบนี้น้องก็คงจะได้รับบาดเจ็บเข้าสักวัน อีกทั้งชีวิตนั้นเลือกไม่ได้เพราะถ้าออกไปอยู่ที่อื่น
ก็จะต้องพบเจอกับอันตรายจากโลกภายนอกจึงจำต้องอยู่ในนี้แม้ตัวจะโดนรังแกหรือรังเกียจมากเพียงไหน เพราะชีวิตที่เลือกไม่ได้ ซึ่งเมื่อหลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 ทางผู้โพสต์ก็ได้มาอัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่าน้องได้บ้านหลังใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้วไม่ต้องมาทนอยู่ในโรงงานดังกล่าวอีกต่อไป ซึ่งทั้งนี้ก็อยากจะฝากถึงเพื่อนๆเอาไว้สำหรับคนที่ไม่ชอบหรือไม่รักสัตว์อยากจะให้มองว่าพวกเขาคือสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราพวกเขาสามารถเจ็บร้องได้เหมือนกับเด็กถ้าไม่รักไม่ชอบพวกเขาก็อย่าไปทำพวกเขาเลย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Winai Yudee
หอบลูกหอบเต้ามาหลบฝนข้างในซอย คลอกก่อนนั้นก็ถูกรถทับจนไม่เหลือ เพราะด้วยเกิดมาเป็นแมวจรในโลกใบใหญ่
ด้วยชีวิตที่เกิดมาไร้ที่พึงพาพึ่งอาศัยทำได้แค่ขอให้รอดพ้นไปในแต่ละวัน ยิ่งซ้ำเกิดมาเป็นแมวจรที่ต้องมีลูกตัวน้อยๆจะไปไหนมาไหนก็ต้องหอบกระเตงลูกตัวน้อยด้วยปกป้องให้ปลอดภัย ด้วยชีวิตที่ไร้คนต้องการเพราะเกิดมาไม่ได้เป็นที่ต้องการเหมือนอย่างใครๆ
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Worakarn Yuii ได้นำเรื่องราวของแม่แมวตัวนี้มาโพสต์ลงยังในกลุ่มทาสแมว หลังจากที่เขาได้พบน้องมาขอแอบอาศัยหอบกระเตงลูกเข้ามาอยู่ในซอยเพื่อที่จะหลบฝน ซึ่งน้องเคยมีลูกมาก่อนหน้านี้แล้วแต่น่าจะถูกรถทับจนสิ้นใจ
โดยคอกนี้ก็เพิ่งจะได้เริ่มโตไม่เท่าไหร่จึงพาลูกๆมาหลบฝนไว้ในซอยบ้านซึงซอยดังกล่าวก็เป้นหน้าบ้านของเจ้าของโพสต์และเจ้าของโพสต์เองก็กลัวว่าถ้าลูกของน้องโตกว่านี้กลัวว่าแม่ของน้องๆจะพาลูกออกไปอยู่นอกซอยด้วยนอกซอยนั้นก็มีรถเยอะกลัวว่ารถจะทับจนสิ้นใจเหมือนกับคอกที่แล้ว
จึงอยากหาบ้านให้พวกน้องๆในระบบที่ปิดแค่พอจะมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นบ้างภายในบ้าน อีกทั้งก็อยากจะให้พวกน้องๆหย่านมกันก่อนจึงพร้อมที่จะนำส่งและสามารถอัพเดทความเป็นอยู่ของน้องให้ดูได้เรื่อยๆ โดยพิกัดที่พวกน้องๆได้อยู่นั้นทางผู้โพสต์ได้แจ้งว่าอยู่แถว เดอะมอท่าพระ ตลาดพลู
โดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับพวกหนูๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังเจ้าของโพสต์ ขอเพียงแค่ความเมตตาที่แม่มีให้ลูกๆให้ได้อยู่อยากมีความสุขไม่ต้องมาหอบกระเตงกันไปมาเพราะไหนจะหมาไหนจะคน และผู้โพสต์ยังแจ้งอีกด้วยว่าสามารถนำส่งให้ได้ภายในเขตพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Worakarn Yuii
พากันหนีหมาขึ้นต้นไม้หลังสวน เพราะเกิดมาเป็นแมวจรแม่พามาขออาศัย ด้วยชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้
ด้วยชีวิตที่เลือกจะเกิดไม่ได้จึงต้องเกิดมาพบเจอกับชะตากรรมที่ฟ้าลิขิตเอาไว้ ยิ่งถ้าเกิดเป็นสัตว์ที่ตัวเล็กไม่สามา่รถที่จะไปพูดหรือร้องบอกใครเขาได้ก็ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะตัวก็ยังน้อยไม่รู้ประสีประสาเหมือนใครๆ ด้วยชีวิตที่เกิดมาเป็นแค่สัตว์จรไร้แม้ที่จะให้หลบฝนหรือพักพิง
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mookmix Thaweepong ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวเหล่านี้ลงในกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก หลังจากที่พบน้องมาแอบขออาศัยอยู่ที่บนเล้าข้าวของเขา ซึ่งเธอยังได้เล่าอีกว่าในทุกๆปีจะมีแม่แมวจรพาลูกมาขออาศัยอยู่แบบนี้ตลอด
แต่ทว่าด้วยบ้านของเธอเองก็ได้เลี้ยงสุนัขซึ่งเป็นในระบบที่เปิดทำให้ลูกเหมียวตัวน้อยๆต้องคอยหลบคอยซ่อนจากเจ้าสุนัขตัวใหญ่ที่มักจะมาคอยแกล้ง เธอจึงอยากที่จะให้พวกน้องๆมีบ้านอยู่อย่างปลอดภัยไร้ที่ต้องกังวลใจเช่นนี้อีก เพราะในแต่ละทีที่พวกน้องๆต้องคอยวิ่งหลบขึ้นต้นไม้
เมื่อได้เห็นแล้วก็รู้สึกสงสารจับใจอีกทั้งเธอก็ยังคงสงสารเด็กๆ เพราะด้วยเหตุผลที่เธอก็มีหมาจึงทำได้เพียงแค่คอยเทข้าวเทอาหารวางไว้ให้พวกนางได้กิน ซึ่งน้องๆก็ยังคงที่จะกลัวผู้คนและหวาดระแวงจึงไม่ให้จับด้วยแม้แต่แค่จะถ่ายรูปพวกนางก็หนีกระเจิงไปหมดแล้ว
ซึ่งทั้งนี้เธอจึงได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มเพื่อหวังว่าจะมีเพื่อนๆใจดีที่พอจะมีพื้นที่และความเมตตรับพวกหนูน้อยน่ารักเหล่านี้ไปเลี้ยงด้วยความเอ็นดูโดยเธอได้ระบุพิกัดที่น้องได้อยู่เอาไว้ที่ บ้านดุง จังหวัดอุดรธานี และหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก Mookmix Thaweepong
เป็นลูกแมวจรต้องปีนต้นไม้เพื่อรักษาชีวิต ตัวยังเล็กจะวิ่งหนีเขาก็ทำไม่ได้ ต้องดูแลกันและกันไร้แม่ค่อยดูแล
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Mookmix Thaweepong ได้เผยเรื่องราวของเหล่าลูกแมวจรตัวน้อย ที่ต้องปีนต้นไม้ขึ้นไปนอนอยู่ข้างบนเพราะรักษาชีวิตของตัวเอง เพราะน้องๆเหล่านี้ต้องหนีหมาขึ้นไป ถ้าหากนอนข้างล่างก็จะโดนหมาไล่ ตัวก็ยังเล็กจะวิ่งหนีใครๆเขาก็ทำไม่ได้
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวจรพากันหนีหมาที่มาจากสวนขึ้นต้นไม้ สงสารพวกนางมากๆ คือเราช่วยอะไรไม่ได้เลย มีหมา 3 ตัว อีก 2 ตัวจะเอาไปนา แต่อยู่บ้านอีกตัวนึง น้องต้องปีนต้นไม้เพื่อหนีหมาเพราะตัวยังเล็ก และดูเหมือนน้องๆจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา
และล่าสุด : ทางสาวผู้โพสต์ได้กลับไปเดินดูยังที่ต้นมะม่วงและพื้นที่รอบๆอีกครั้ง และพบว่าน้องๆพากันหนีไปหมดแล้ว...
ยังคงคอย หลงทิศหลงทางแต่ยังเฝ้าตามหาพร้อมปลอกคอที่ให้ไว้เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่นายเคยให้
ในทุกครั้งที่เรามักจำย้ำบอกกับเพื่อนๆว่าการนำซึ่งสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงนั้น เท่ากับการที่เราจะต้องรับผิดชอบกับหนึ่งชีวิตจนกว่าพวกเขานั้นจะสิ้นลมหายใจ เพราะสุนัขนั้นมีความจำอันดีเลิศที่พวกเขาจะจดจำผู้เป็นเจ้าของและรักเราไปจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิต
ซึ่งหากเพื่อนๆไม่เตรียมความพร้อมกันให้ดีแล้วสิ่งที่จะตามมาก็คือการถูกนำไปปล่อยเอาไว้ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Suttinun Arayapattanakul ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าตูบเตี้ยตัวนี้ลงในกลุ่ม WATCHDOG THAILAND หลังจากที่เขานั้นได้พบน้องยืนอยู่ตรงที่ กม.ที่ 48
ขาเข้าของถนน กทม.ในเวลาประมาณ 06.45 ซึ่งโดยเขาได้คาดว่าน้องน่าจะหลงหรืออาจจะตกรถหรือบ้านอยู่ในระแวกดังกล่าว แต่ทว่าถนนเส้นนี้เป็นถนนที่มีรถวิ่งเร็วมากๆ จึงคิดว่าน้องน่าจะหลงมามากกว่า โดยเขาเองก็ทำเพียงแค่ถ่ายรูปน้องและนำมาลงยังในกลุ่มเผื่อว่าจะเป็นสุนัขของใครที่หายหรือหลงมา
เพราะด้วยในเวลานั้นเขาเองก็รีบที่จะต้องไปทำงาน จึงได้นำรูปถ่ายมาสอบถามเพื่อนๆในกลุ่ม โดยที่หลังจากนั้นเมื่อเขาได้เลิกงานแล้วก็ได้วนเพื่อที่จะไปดูน้องอีกครั้งแต่ทว่าก็ไม่พบน้องแต่อย่างใด และด้วยความเป็นห่วงก็ยังคงที่จะออกตามหาน้องเพราะกลัวว่าน้องจะถูกรถชนเข้า
อีกทั้งฝนก็ตกลงมาในทุกวันซึ่งถ้าเกิดน้องเป็นสุนัขที่พลัดหลงมาจริงๆป่านนี้น้องก็คงจะต้องเดินเตร็ดเตร่หาที่หลบฝนด้วยเคยเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงดู แต่ก็คงจะยังเฝ้ารอผู้เป็นเจ้าของอยู่ในระแวกเดิมถ้าเกิดไม่ถูกสุนัขเจ้าถิ่นไล่ เพราะอีกปัญหาคือน้องเตี้ยและคงจะวิ่งหนีใครๆเขาไม่ทันอย่างแน่นอน และจนในตอนนี้เองทางผู้โพสต์ก็ยังคงเฝ้าตามหาด้วยความสำนึกผิดที่วันนั้นไม่ได้เข้าช่วยเหลือน้อง...
เดินไปไหนก็มีแต่คนเขาเรียกว่าไอ้หน้าผี เพราะเกิดมาหน้าบิดเบี้ยวผิดรูปซ้ำยังเป็นแมวดำใครเขาก็ไล่
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้จึงต้องเกิดมาพบเจอกับชะตากรรมยากลำบาก หรือที่เรียกว่าเกิดมารับกรรมทำหลายๆชีวิตต้องมีชีวิตที่แสนสาหัสในแต่ละวันกว่าจะผ่านพ้น ซ้ำถ้าได้เกิดมาเป็นสัตว์ตัวน้อยๆอย่างเช่นสัตว์จรแล้วยิ่งใหญ่ต้องใช้ชีวิตตามมีตามเกิดถ้าเกิดมาเป็นแมวดำยิ่งซ้ำร้ายไปอีก
เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Punnapha Kai Rukchue ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้มาโพสต์ลงในโลกออนไลน์หลังจากที่เขาได้พบเจ้าเหมียวตัวนี้ที่เกิดมามีหน้าที่บิดเบี้ยวผิดรูปเดินไปไหนก็มีแต่คนเขารังเกียจเพราะด้วยเกิดมาผิดปกติซ้ำร้ายยังเป็นแมวดำ
จึงทำได้แค่เอาตัวรอดใช้ชีวิตไปวันๆในตลาดขอเศษอาหารจากแม่ค้าพ่อค้าในตลาด โดยบางคนใจดีเห็นแล้วสงสารก็พอจะได้กินบ้างแต่บางคนเห็นว่าหน้าตาเป็นแบบนี้ก็ถูกขับไล่ไสส่ง ด้วยหน้าตาที่เกิดมาผิดปกติจึงถูกเขาตึหน้าว่าเป็นแมวผีแมวปิศาลไร้แม้ผู้คนจะเข้าใกล้
อีกทั้งเป็นแมวจรค่ำไหนก็ต้องนอนนั่นทำให้เนื้อตัวมีแต่เห็บหมัดซึ่งผู้โพสต์เองก็ได้รับน้องมาไว้ในการดูแลจนในตอนนี้ก็ได้รักษาเรื่องเห็บหมัดจนหมดไปแล้ว จะเหลือก็แค่เหาและไข่ที่ยังเป็นอยู่ในตัวแทบทุกเส้นขนแต่ก็ต้องช่วยกันรักษากันต่อๆไป
ผู้โพสต์เองก็ยังมีแมวอีกหลายตัวที่จะต้องดูแลแต่ก็เลือกไม่ได้ที่จะปล่อยน้องเอาไว้แบบนั้นเพราะถ้าวันไหนเจอคนจิตใจไม่ดีเข้าน้องคงจะถูกเขารังแกได้อีกจึงจำใจต้องช่วยมาไว้ก่อน ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะเข้าช่วยเหลือน้องหรือรับน้องไปเลี้ยงดูก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Punnapha Kai Rukchue
ส่งเสียงร้องทั้งคืน หลงทิศหลงทางซ้ำถูกรถชนเข้า แต่ก็ต้องทนนอนเอาปากกัดไม้เพราะกลัวใครจะได้ยิน
ด้วยการนำมาซึ่งการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงก็เหมือนกับการที่เรามีลูกตัวน้อยๆเพิ่มเข้ามาเป็นสมาชิกในครอบครัว ด้วยพวกเขานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสมองเทียบเท่ากับเด็กสองขวบเพียงเท่านั้นทำให้ในหลายๆครั้งที่พวกเขาหลุดหรือหลงออกไปนอกบ้านไม่สามารถที่จะกลับมาด้วยตัวเองได้
เราจึงมักจะเน้นย้ำบอกกับเพื่อนๆว่าให้เลี้ยงพวกเขาในระบบทปิดเพื่อความปลอดภัยในตัวของพวกเขาเอง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้หลังผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อ Chanida Anndoi ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบตัวนี้ที่น้องยังไม่โตเท่าไหร่นักซึ่งน้องแอบมานอนอยู่ที่ข้างบ้านของเธอเมื่อคืนนี้
โดยน้องส่งเสียงร้องทั้งคืนเหมือนกับว่าเจ็บมากๆ จนในตอนเช้าเธอก็ได้ลุกออกมาดู เจอน้องนอนเอาปากกัดไม้แล้วส่งเสียงร้องอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าใครจะได้ยินเข้าหรือกลัวว่าจะถูกทำร้ายซ้ำอีก เธอจึงเรียกน้องออกมาน้องก็ค่อยๆที่จะเดินลุกออกมา โดยในตอนที่น้องกำลังลุกออกมานั้น
น้องก็ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ราวกลับว่าขาข้างซ้ายด้านหน้าของน้องจะหัก น่าจะเกิดจากเหตุการณ์ถูกรถชนเข้าบวกกับหลงบ้านมาด้วย เธอจึงอยากที่จะพาน้องไปหาหมอมากๆแต่ทว่าเธอเองก็ไม่มีทุนทรัพย์พอที่จะพาน้องไปอีกทั้งที่บ้านของเธอเองก็เลี้ยงแมวเยอะมากด้วย
จึงอยากจะวอนขอเพื่อๆที่ใจดีที่พอจะสามารถดูแลน้องได้หรือเข้าช่วยเหลือน้องได้ชช่วยที โดยทั้งนี้เธอได้ระบุพิกัดที่น้องอยู่เอาไว้ที่ อ.วังเจ้า จังหวัดตาก ซึ่งทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนอยู่ในเขตพื้นที่หรือบริเวณใกล้ก็สามารถที่จะเข้าช่วยเหลือน้องได้ และในเวลาต่อมาทางผู้โพสต์ก็ได้นำตัวน้องไปหาหมอเพื่อที่จะรักษาแต่และผลการรักษาน้องก็คือขาด้านซ้ายหักอย่างที่ว่าจึงต้องทำการใส่เฝือกเพื่อที่จะรอให้กระดูกเชื่อมต่อกันโดยหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์เพื่อที่จะติตตามเรื่องราวเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Chanida Anndoi