เกิดมาก็ไร้แม่ ไร้อาหารไร้เรี่ยวแรงจะคลานต่อหวังลึกๆว่าชีวิตนี้จะไม่ต้องจบลงที่ข้างถนน
การเลี้ยงสิ่งมีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมวไม่ใช่นึกว่าอยากจะเลี้ยงก็เลี้ยง พอคิดว่าเบื่อแล้วก็ทำเป็นไม่สนใจเพราะอย่าลืมว่าสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความรู้สึกนึกคิด ถึงแม้จะพูดภาษามนุษย์ออกมาไม่ได้ แต่จิดใจของน้องก็คล้ายๆมนุษย์นั่นแหละ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jay Wachira ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอกับลูกแมวตัวน้อย แต่ด้วยที่เขานั้นติดปัญหาในเรื่องงานไม่สามารถเลี้ยงน้องได้ในทันที แต่ด้วยตัวลูกชายของเขาอยากที่จะเลี้ยงน้องมากๆเพราะน้องเป็นคนรักสัตว์จนกระทั่ง...
ขอเล่าหน่อยนะครับตัดใจไม่ลงเลยครับ ผมสงสารลูกชายมาก แกอยากเลี้ยงน้องแมวแต่ติดปัญหาที่ว่าผมหาแม่นมให้น้องแมวไม่ได้และน้องคงไม่ได้รับความอบอุ่นจากแม่เลย น้องยังเป็นทารกอยู่เลยครับยังกินอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าน้องน่าจะพรากจากแม่แต่แรกเกิด
เพราะก่อนหน้านั้นผมไม่ทราบเหตุการณ์เหมือนกันเราไปเจอน้องที่กลางถนน โดยลูกชายเห็นเข้าเลยขอผมให้อุ้มน้องขึ้นรถกลับบ้านมาด้วย ตอนนี้ผมต้องการแม่นมมาก ขอหาแม่นมแทนให้น้องหน่อยสัก1-2เดือน แล้วผมจะรับกลับมาดูแลเอง
ใจอยากจะเอาไปเลี้ยงด้วยแต่ติดขัดมีปัญหากับการทำงานเพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อย โรงแรมที่พักส่วนใหญ่ไม่ให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าพักด้วย ลูกชายเลิกเรียนถึงจะได้มีเวลามาดูแลน้องต่อได้ ดังนั้นจึงขอความช่วยเหลือจากเพื่อนๆชาวเน็ต ช่วยแมวทารกผู้น่าสงสารด้วย ให้น้องได้มีชีวิตอยู่ต่อไป
ที่มา ...
เกิดเป็นจรเดินเร่ร่อนริมหาด ไปตามร้านหาเศษอาหารประทังความหิว อาศัยขอนอนบนตักด้วยอยากได้อบอุ่น
ด้วยชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้จึงทำได้เพียงแค่ต้องอดทนใช้ชีวิตเพื่อที่จะให้มีชีวิตรอดพ้นในแต่ละวัน ด้วยหากในวันนี้เราเกิดความท้ออยากให้ลองมองอีกหลายๆชีวิตที่ได้เกิดมาแล้วต้องอดทนต่อสู้เพื่อให้ได้มีลมหายใจต่อในวันพรุ่งนี้ เพราะด้วยเพียงแค่ชีวิตที่เกิดมาแล้วไม่มีใครต้องการ
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Anunt Thitapura ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวจรตัวนี้หลังจากที่เธอได้พบน้อง ซึ่งน้องนั้นเป็นแมวจรที่เดินเร่ร่อนอยู่ที่ริมหาดวอน โดยในแต่ละวันน้องจะเดินหาเศษอาหารที่ผู้คนไม่ต้องการเพื่อที่จะประทังความหิว
และน้องก็จะมานอนนิ่งที่ร้าน ซังหมูกะทะ ตรงนี้ซึ่งเธอได้เล่าว่าเธอนั้นเห็นน้องตั้งแต่ยังสาวอ่อนๆ โดยน้องก็จะทำแบบนี้และมาขออาศัยนอนอยู่แบบนี้อยู่เป็นประจำ ซึ่งหากมีลูกค้าคนไหนที่เป็นทาสแมวหรือเอ็นดูน้องน้องก็มักจะขึ้นไปนอนซบตัก เหมือนกับว่าอยากที่จะขอไปอยู่ด้วย
เพราะด้วยการใช้ชีวิตจากโลกภายนอกนั้นมันแสนจะยากเย็น อีกทั้งกว่าจะหาอาหารจากเศษอาหารจากคนที่เขาไม่ได้ต้องการแล้วนั้นก็แสนจะยากลำบากซึ่งกว่าจะได้อิ่ม โดยทางผู้โพสต์ก็ได้สอบถามกับคนในร้านซึ่งเขาก็ได้บอกว่าน้องเป็นเพียงแค่แมวจรที่มาขออาศัยไม่ได้มีผู้เป็นเจ้าของของใคร
โดยถ้าอยากจะได้ก็ให้เอาไปได้เลยเพราะไม่ใช่แมวของที่นี้ ซึ่งทั้งนี้ผู้โพสต์จึงอยากจะช่วยหาบ้านให้กับน้อง น้องจะได้ไม่ต้องมาทนใช้ชีวิตอยู่อย่างทุกข์ยากแบบนี้อีกต่อไป โดยทั้งนี้หากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากจะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ขอเพียงแค่บ้านหลังไม่ต้องใหญ่มีที่ให้หนูได้ซุกหัวนอนมีเพียงตักให้นอนให้ความอบอุ่นบ้างเป็นบางคราว
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Anunt Thitapura
ส่งเสียงร้องจนสุดแรง หลังถูกคนใจร้ายเอามาปล่อยไว้ในโอ่งกลางป่ากะให้สิ้นใจไปเอง
หากด้วยชีวิตที่เกิดมานั้นมีคุณค่าในตัวของทุกชีวิต แต่ก็ยังมีมนุษย์บางคนที่มีจิตใจผิดปกติมองไม่เห็นชีวิตน้อยๆนี้มีคุณค่า เพราะด้วยความชอบหรือความเมตตาที่แตกต่างกันจึงทำให้มองคุณค่าในชีวิตน้อยๆนี่แตกต่างไป จนทำให้สิ่งที่ชีวิตน้อยๆนั้นต้องเจอพบกับความยากลำบากถึงขนาดว่าจะเอาชีวิตไม่รอด
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ส้ม เช้ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยรายนี้หลังจากที่เธอนั้นได้เข้าไปถ่ายหนังในป่า แต่กลับพบน้องถูกคนใจร้ายนำเอามาปล่อยใส่โอ่งเอาไว้กะให้สิ้นใจไปเอง โดยในบริเวณพื้นที่นั้นไร้แม้ผู้คนและห่างไกล
ซึ่งในตอนแรกเธอก็ได้ยินเสียงของลูกแมวส่งเสียงร้องเธอจึงได้ค่อยๆตามที่มาของเสียงดังกล่าวไปอย่างช้าๆ จนในที่สุดก็ได้พบเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ร้องอย่างมีหวังว่าจะมีใครมาช่วยเหลือ โดยน้องนั้นอยู่กันทั้งหมด 3 ตัวซึ่งอีก 2 ตัวนั้นได้สิ้นใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนที่เธอจะมาถึง
เหลือเพียงเจ้าเหมียวตัวนี้ที่ยังสู้อย่างสุดแรงส่งเสียงร้องเพื่อที่จะให้ช่วยชีวิต ซึ่งเธอเองก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำน้องมาไว้แบบนี้แต่ที่แน่ๆคือคนคนนั้นต้องเป็นคนที่ใจร้ายเอามากๆ เพราะด้วยความสูงของโอ่งดังกล่าวลูกแมวที่ได้เกิดมาไม่นานไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองและขึ้นมาได้เป็นอย่างแน่นอน
ซึ่งทั้งนี้เองเธอก็ได้นำน้องขึ้นมาและได้นำน้ำและอาหารให้ในเบื่องต้นและพากลับไปยังบ้านอีกต่อไป แต่ทว่าเธอก็อยากที่จะหาบ้านให้กับน้องเพราะตัวเธอเองนั้นไม่สามารถที่จะรับเลี้ยงน้องได้ เนื่องจากที่บ้านของเธอก็มีแมวอยู่แล้วเยอะจำนวนนึง โดยหากเพื่อนๆคนไหนอยากที่จะรับน้องไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ยังต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ส้ม เช้ง และชมคลิป
https://www.facebook.com/SomchangeDesign/videos/3728351830525386/
https://www.facebook.com/SomchangeDesign/videos/3728352037192032/
ติดอยู่บนหลังคาไร้แม้น้ำหรืออาหารจะตกถึงท้อง ด้วยตัวเป็นเพียงจรเขาจึงปิดทางเข้าออกไม่ยอมให้ลง
ด้วยมนุษย์เรานั้นมีความอ่อนโยนในหัวใจที่แตกต่างกัน อาจจะด้วยสภาวะทางสังคมหรือครอบครัวที่ได้เติบโตมา ทำให้มีความมีเมตตาในหัวใจที่แตกต่างกันออกไป เพราะด้วยการได้เติบโตมากับสัตว์เลี้ยงตั้งแต่เล็กๆทำให้ในบางคนนั้นมีหัวใจที่มีเมตตาต่อสัตว์แต่กลับในบางคนกลับมองว่าพวกเขานั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ค่า
ไร้แม้ราคาจึงไม่ต้องไปห่วงใย เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คำหล้า บ้านทุ่ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสามตัวแม่ลูกลงในกลุ่ม หาบ้านน้องแมว จังหวัดภูเก็ต หลังจากที่ได้พบน้องติดอยู่บนดาดฟ้าาของอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว
ซึ่งพวกน้องนั้นมีอยู่กัน 3 ตัวแม่ลูกแม่แมวนั้นไปคลอดลูกเอาไว้บนนั้นเพราะคิดว่าจะปลอดภัยจากอันตรายด้านล่าง ด้วยปกติแล้วแม่แมวจะขึ้นๆลงๆเพื่อที่จะลงมาหาอาหารให้กับลูกน้อย ส่วนตัวลูกๆของน้องก็จะเฝ้ารออาหารจากผู้เป็นแม่อยู่ด้านบนเพียงเท่านั้น แต่ทว่าครั้งนี้กลับไม่เป็นอย่างเหมือนก่อน
เพราะด้วยทางผู้ดูแลอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าวเขาไม่ชอบแมวเขาจึงได้ปิดทางเข้าออกเพื่อที่จะไม่ให้น้องได้ลงมา โดยพวกน้องๆก็ต้องทนอยู่เพียงด้านบนแบบนั้นมาร่วม 3 วันแล้วซึ่งน้องๆไม่มีแม้แต่น้ำหรืออาหารจะตกถึงท้องเลยแม้แต่น้อย โดยเธอเองก็มักจะนำอาหารให้กับน้องอยู่เป็นประจำในทุกวัน
แต่มาวันนี้แม่แมวกลับไม่มาขอข้าวแบบนี้มาหลายวันแล้วเธอจึงได้ตามหาน้องและพบว่าน้องติดอยู่บนดาดฟ้าของ อพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว ซึ่งพิกัดที่เธอได้บอกว่าน้องอยู่น้องอยู่ในซอยธนิต อำเภอเมืองจังหวัดภูเก็ต โดยทั้งนี้เองเธอจึงอยากให้ใครเข้าช่วยเหลือน้องเพราะหากปล่อยเอาไว้น้องคงจะต้องอดกันจนสิ้นลม...
ถึงหิวก็ต้องทนต้องแอบอยู่ในซอกแคบๆ ไร้คนดูแลไร้คนสนใจเพราะเป็นแค่แมวจร
พวกเรามักจะเคยเห็นและรับรู้ว่าสัตว์เลี้ยงจำนวนมากถูกนำมาเทไว้ โดยที่เขาไม่รู้ประสีประสาอะไร และในตอนนี้ไม่ว่าจะหมาหรือแมวกลายเป็นสัตว์จรเต็มไปหมด และมีอยู่ทุกสถานที่แต่ละที่เป็นอะไรที่น่าสงสารเป็นอย่างมาก ยิ่งด้วยคนเหล่านั้นที่เป็นทาสของน้องๆแล้ว
ก็ตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายไม่น้อยไปกว่าสัตว์จรทั้งหลาย ทั้งที่เห็นและรู้อยู่เต็มอกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากประกาศหาบ้านให้พวกเขาหรือด้วยวิธีอื่นๆตามความสามารถที่จะทำได้ เพราะเราไม่สามารถช่วยทุกชีวิตที่เร่ร่อนได้หมดเลยจริงๆ มันคือวัฎจักรที่ถูกกำหนดมาแล้ว
เหมือนกับในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่ไม่รู้ว่ามีคนเอาน้องแมวมาเทไว้หรือเป็นแมวหลงทางมา โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า (ชั่วคราวหรือถาวรก็ได้ เอาออกมาก่อนจะโดนหมาลากออกมารุมฟัดซะก่อน) น้องหลบอยู่ในซอกกำแพงโดยไม่รู้เลยว่าน้องได้ติดอยู่ในซอกนานแค่ไหนแล้ว คงจะขาดน้ำขาดอาหารไม่รู้นานวันเท่าไหร่
บริเวณตึกมีหมาอยู่4-5ตัว คิดว่าที่น้องไม่ยอมออกมาจากซอกคงกลัวเจ้าตูบฟัดแน่ๆ น้องเลยตัดสินใจยอมอดเพื่อเอาตัวรอดไปวันๆ อยู่ในซอกต่อไปเพราะหวังว่าจะมีคนใจบุญผ่านมาเจอและใช้เสียงร้องตะโกนออกมาอย่างสุดแรงยามได้ยินเสียงรถและผู้คนผ่านมา เพราะเสียงน้องแมวนั้นเป็นเอกลักษณ์มาก
โชคดีที่ทาสแมวอย่างเราได้ผ่านมาทางนี้และได้ยินเสียงน้อง จึงจอดรถและรีบไปตามเสียง ได้เห็นน้องติดอยู่ในซอกและได้เอาอาหารมาล่อน้องออกมาใกล้ๆกับรูทางออก เพื่อจะได้จับตัวน้องออกมาได้ง่าย น้องแสนรู้มากค่ะ ไม่วิ่งหนี ไม่แสดงอาการกลัวหรือขู่...
จะรอจนกว่าจะกลับมา เหมียวนั่งรอพ่อที่หน้าประตูกว่า2อาทิตย์ไม่ยอมกินข้าวกินน้ำแต่ไม่รู้เลยว่าเขาจะไม่มีวันกลับมาหาอีก
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Noo'Ning Sasitorn Wongchai ของเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวตัวนี้นั่งรอแฟนเก่าของเธออยู่อย่างนี้มา 2 สัปดาห์แล้ว น้องไม่ยอมกินข้าวไม่ยอมกินน้ำและจะนั่งรอจนกว่าแฟนเก่าของเธอจะกลับมา (แต่น้องไม่รู้เลยว่าแฟนเก่าของเธอจะไม่มีวันกลับมาอีก)
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องนั่งอยู่แบบนี้มาตลอด 2 อาทิตย์แล้วค่ะ น้องรอแฟนเก่าเราค่ะ เนื่องจากเราเลิกเขาแล้ว แต่น้องติดแฟนเก่าเรามากๆ น้องจะนั่งรออยู่แบบนี้ทุกวัน ไม่ยอมกินข้าวและไม่ยอมกินน้ำใดๆเลยค่ะ เราควรจะทำยังไงดีคะ
เราเข้าใจความรู้สึกของน้องนะคะ เพราะอารมณ์เดียวกัน เวลามีเสียงรถผ่านไปผ่านมาน้องจะชะเง้อคอรอดูค่ะ(เหมือนกับในคลิป) บางวันเราไปทำธุระ น้องก็จะนั่งคอยอยู่ตรงหน้าต่างรอแฟนเก่าเราเสมอมาค่ะ...
เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ หลังแม่เอาตุ๊กตาเน่าตัวโปรดไปซัก ได้แต่นั่งเฝ้าไม่ยอมห่าง
หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างเช่นแมวแล้ว เพื่อนๆเองก็คงจะเข้าใจดีว่าแมวนั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยจะแสดงออกหรือมีโมเม้นที่น่ารักๆเหมือนกับการได้เลี้ยงสุนัข เพราะด้วยแมวนั้นคิดว่าเรานั้นเป็นทาสส่วนตัวของเขาเป็นเจ้านายของเราอยู่เสมอ
ซึ่งจะว่าด้วยบางคนที่บอกว่าแมวนั้นไม่รู้เรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องที่ผิด เพราะในความจริงแล้วพวกเขานั้นฉลาดมากกว่าสุนัขอีกด้วยซ้ำแต่ขึ้นอยู่กับอารมณ์และสถานการในตอนนั้นว่าอยากจะทำด้วยมากแค่ไหนหรือสนใจกับสิ่งที่เรากำลังพูดมากเพียงใด เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanwalee Meeshue ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวสุดน่ารักของเขาลงยังโลกออนไลน์หลังจากที่เขานั้นได้แอบเอาตุ๊กตาเน่าตัวโปรดของเจ้าเหมียวมาซัก เขาก็ได้เห็นภาพสุดน่ารักที่เจ้าเหมียวได้ทำ เพราะเมื่อเจ้าเหมียวได้รู้ว่าตุ๊กตาเน่าของตนได้อยู่ในเครื่องซักผ้า
เจ้าเหมียวก็มาคอยนั่งเฝ้าและเป็นกำลังใจให้เครื่องซักผ้าแบบไม่ยอมห่าง โดยผู้เป็นเจ้าของเองก็ได้เล่าว่า "เอาตุ๊กตามาซัก หนึ่งในนั้นมีตุ๊กตาของเด็กๆด้วย เจ้าตัวเล็กก็มานั่งจุมปุ๊กไม่ยอมไปไหนเลย" และหลังจากที่เธอได้โพสต์รูปนี้ลงไปยังโลกออนไลน์ก็ได้มีเพื่อนๆเข้ามาถามเรื่องราวเกี่ยวกับน้องมากมาย
จนเธอต้องมาอธิบายและเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวน้องเป็นข้อๆ โดยอันแรกน้องนั้นเป็นผู้หญิง น้องมีชื่อว่า ทูน่า น้องเป็นแมวสายพันธุ์ Persian น้องเป็นแมวตาสองสี ฟารม์ที่รับน้องมาเป็นฟารม์บ้านเล็กๆ และอีกทั้งมีคนทักมาเพื่อที่จะขอซื้อน้องอีกด้วย ซึ่งเธอเองก็บอกไว้ตรงนี้เลยว่ารักและห่วงมากๆ
และนี่ก็คือสีหน้าแล้วแววตาของน้องทูน่าหลังจากที่ได้ตุ๊กตาเน่าคือเมื่อแม่เอาตุ๊กตาไปซักจนสะอาดแล้ว...
ต้องทนอยู่แต่ในบ้านมาแรมปี หลังเจ้าของบ้านหาย ได้แต่เฝ้ารอขอข้าวคนผ่านไปมาประทังชีวิต
ด้วยการนำสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงแล้วสิ่งนึงที่เราจะได้นอกจากความรักและความผูกพันนั้นก็คือภาระที่เราจะต้องเลี้ยงดูพวกเขาตลอดไป เพราะการนำซึ่งสุนัขมาเลี้ยงพวกเขานั้นจะรักและซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นเจ้าของคนเดียวเ่ท่านั้นและตลอดไป ซึ่งหากเราไม่เตรียมความพร้อมในด้านนี้ชีวิตหนึ่งชีวิตก็จะต้องตกอยู่ในสถานะการเช่นนี้
โดยเมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Nicharee Srisuwan ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้หลังจากที่เขาได้พบน้องเข้า ซึ่งน้องต้องทนอยู่อาศัยภายในบ้านแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว ด้วยทางผู้เป็นเจ้าของนั้นก็หายไปไหนไม่รู้มานานมากแล้วด้วยและน้องก็ต้องทนอยู่แต่ในบ้านแห่งนี้
โดยไม่เคยได้เห็นแม้เดือนหรือตะวันได้แต่เฝ้ารอวันที่คนใจดีคอยเอาข้าวเอาน้ำมาให้ประทังความหิวประทังชีวิตไปวันๆเพียงเท่านั้น ซึ่งแม้คนที่คอยเอาข้าวไปให้น้องก็ต้องปีนรั้วเข้าไปในบ้านหลังนี้เพราะประตูด้านนอกก็ถูกล็อกเช่นเดียวกัน และทางผู้โพสต์เองก็ได้บอกอีกว่าที่แน่ๆนั้นน้องไม่เคยได้ออกไปข้างนอกเลย
ตลอดระยะเวลาหลายปีผ่านมาก็ต้องทนทุกข์อยู่แต่ในบ้านโดยที่ข้างในเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ จึงอยากให้ใครหรือหน่วยงานใดเข้าช่วยเหลือน้องให้ที เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้วันไหนถ้าไม่มีคนนำข้าวหรืออาหารมาให้น้องก็จะต้องอดไปตลอด อีกทั้งก็อยากที่จะให้ช่วยหาบ้านให้น้องด้วย
ซึ่งภายหลังทางผู้โพสต์เองก็ได้ประสานหน่วยงานต่างๆแต่ก็ไม่สามารถที่จะปลดล็อคประตูรั้วเข้าไปได้เพราะเนื่องจากอาจะเกิดปัญหาการบุกรุกในภายหลัง จึงได้แต่เข้าไปดูใกล้ๆและพบว่าภายในตัวบ้านเองมีน้ำและอาหารไว้ให้กับน้องแต่ก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนเอาไว้ให้จึงไม่สามารถที่จะเข้าช่วยเหลือน้องได้อย่างเต็มที
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Nicharee Srisuwan
ด้วยเกิดเป็นจรไร้บ้านเหมือนคนอื่นเขา จึงได้แต่เฝ้าให้กำเนิดลูกในพุ่มไม้ แต่ก็ยังไม่วายถูกสุนัขไล่กระทำจนตัวเจ็บ
เพราะชีวิตที่เกิดมาเลือกไม่ได้ แต่สิ่งนึงที่สามารถจะทำให้ได้นั้นก็คือปกป้องลูกน้อย เพราะด้วยชีวิตของแม่นั้นสามารถยอมทำให้ทุกอย่างเพื่อลูกได้เสมอ ไม่ว่างงานนั้นจะหนักหนาสาหัสมากเพียงใด แต่ก็ยังไม่วายยอมทำให้ลูกเพื่อที่จะเสียสละให้กับลูกได้เสมอด้วยขึ้นชื่อว่าหัวอกผู้เป็นแม่
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Romtheera Chantharamas ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าเหมียวรายนี้หลังจากที่เธอได้พบน้อง โดยน้องเป็นแม่แมวจรที่ให้กำเนิดลูกอยู่ในพุ่มไม้ซึ่งตัวของแม่แมวเองนั้นถูกสุนัขรุมฟัด และในวันนี้แม่ก็เพิ่งจะได้กลับมาหาลูกน้อย
แต่ทว่าอาการของแม่แมวเองก็น่าเป็นห่วงมาก เพราะเธอได้บอกว่าอาการของน้องนั้นเหมือนจะไม่รอด โดยป้าร้านขายของชำได้ช่วยเหลือน้องด้วยการป้อนยาให้กับน้องได้กิน แต่ทว่าก็ไม่รู้ว่าน้องนั้นจะรอดไหมซึ่งเธอเองก็รู้สึกสงสารทั้งแม่และลูกเธอจึงได้นำเรื่องราวมาโพสต์เพื่อที่จะร้องขอความช่วยเหลือ
ซึ่งในช่วงนี้เองเธอก็ได้บอกอีกด้วยว่าเธอก็จะเป็นคนให้นมเจ้าเหมียวตัวน้อยๆแทนแม่ของพวกเขา เพราะด้วยสภาพของแม่แมวที่ถูกสุนัขในบริเวณดังกล่าวไล่ฟัดจนทำให้บอบช้ำไร้แม้เรี่ยวแรง เธอจึงได้ซื้อนมแพะมาป้อนเด็กๆในทุกๆวัน เพราะหัวอกแม่เองนั้นก็ทำดีที่สุดเท่าที่แม่นั้นจะทำได้
ด้วยตัวนั้นเป็นจรไม่มีที่ให้กำเนิดกับลูกเหมือนกับใครเขา เลยได้แต่เฝ้าคอยคุ้มครองลูกจากอันตราย ถ้าหากฟ้ามีตาก็คงจะเลือกเกิดมาได้ให้ดวงใจดวงน้อยๆได้อยู่อย่างสุขสบายและปลอดภัย ซึ่งหากเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากที่จะรับน้องๆไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะน้องๆอยู่ที่พิกัดรัชดา ซอย 13
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Romtheera Chantharamas
ไร้เรี่ยวแรงจะก้าวเดินต่อ ด้วยตัวเป็นจรอาศัยแอบในแคมป์คนงาน เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้
หากในวันนี้คุณเกิดท้อหรือหมดกำลังใจในการทำงานหรือกำลังใจในการที่ต้องใช้ชีวิตต่อ อยากให้ลองมองอีกหลายๆชีวิตที่ยังต้องต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะให้ตนนั้นมีชีวิตรอดพ้นไปในแต่ละวัน อย่างเช่นสุนัขหรือแมวจรทั้งหลายที่ต้องหาอาหารประทังชีวิตตนไปไม่ให้วายชีวาวาตม์
เชกเช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Fern Duangkamon ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวของเจ้าตูบรายนี้ลงในกลุ่ม รักหมา หลังจากที่เธอนั้นได้พบน้องแอบอาศัยอยู่ในแคมป์คนงานก่อสร้างด้วยสภาพที่สุดจะน่าเวทนาใจเพราะเนื้อตัวที่ไร้แม้เนื้อหนังมังสาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรง
ที่จะก้าวเดินต่อไปทำให้ได้ภาพสุดจะปวดใจมาลงยังกลุ่มเพื่อที่จะหาคนเข้าช่วยเหลือน้องเพราะด้วยไม่อยากให้ตกอยู่ในสภาพนี้โดยหากปล่อยเอาไว้น้องเองก็คงจะไม่รอดด้วยอดอยากไม่มีอะไรจะตกถึงท้อง โดยพิกัดที่เธอได้บอกเอาไว้คือน้องอยู่ที่แคมป์คนงานก่อสร้างโครงการบ้านจัดสรร
ในจังหวัดระยองบ้านค่าย ซึ่งตัวน้องเองนั้นเป็นหมาจรที่มาแอบอาศัยอยู่ทำให้ไม่มีแม้ผู้คนจะสนใจว่าจะต้องตัวนั้นจะมีความเป็นอยู่เช่นไร และด้วยตัวเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะเข้าช่วยเหลือน้องเพราะเธอก็อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรจึงอยากให้ใครสักคนเข้าช่วยเหลือน้องที
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาก็ได้มีผู้คนยื่นมาเข้ามาให้ความเมตตากับชีวิตน้อยๆนี้ที่กำลังจะดับสูญ โดยทางผู้โพสต์เองก็ได้ออกมาอัพเดทเพิ่มเติมด้วยว่าจะมีผู้คนใจดีเข้ามาช่วยเหลือน้องเพื่อที่จะนำตัวพาไปรักษาและดูแลหาบ้านอีกต่อไป ซึ่งหากเพื่อนๆท่านไหนพอจะมีความมีเมตตาและเหลือกินเหลือใช้ที่พอจะให้หนึ่งชีวิตได้อยู่อย่างไม่ต้องมานั่งทนลำบากก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ได้เลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Fern Duangkamon