เล่าน้ำตานอง หลังเกือบต้องเสียใจไปตลอดเพราะการให้ลูกกินตามใจปากมากเกินไป

หากเลี้ยงดูมาด้วยรักประจักษ์หาไม่มีมาให้เหลินตามนิสัย เฝ้าเลี้ยงดูมาเมื่อได้เติบใหญ่แม่ก็ตามใจลูกเสมอให้อยู่ดี เมื่อวันนี้มาร้องออดอ้อนแม่ไม่มีแม้จะยอมให้ไม่ใช่ที่ ยอมทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้อยู่อย่างสุขมีแม้เดิมทีจะไร้ไม่เคยได้กินตาม กินขนมวันนึงจะกี่รอบ แม่ก็บอกกินเถอะลูกเมื่อสุขหนาจะไม่ให้กินอยู่อย่างไรก็เคยมาไม่มีหานึกห้ามกินไม่มีใจ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Room Story ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เธอได้มาบอกกับเพื่อนๆในกลุ่ม เมื่อแมวของเธอถูกแมวจรฟัดซึ่งได้รับบาดเจ็บเป็นแผลแค่ปลายนิ้วก้อย แต่ทว่าแผลเริ่มลามใหญ่โตขึ้นเพราะการอักเสบจึงต้องแอดมิทอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์เป็นเวลา 1 วัน เนื่องจากเชื้อและไขมันเป็นอาหารชั้นดีของแบคทีเรียเนื้อเริ่มเสียและกินกันไปเรื่อยๆ ซึ่งโดยร่วมแล้วเกิดมาจากการที่น้องแมวอ้วนมากเกินไป เพราะพี่ส้มของเธอมีน้ำหนัก 7.1 กิโลกรัม จึงมาบอกกับเพื่อนๆเอาไว้ลงในกลุ่มทาสแมว 4.0 ว่าถ้ารักพวกเขาจริงก็อย่าให้พวกเขากินตามใจตัวเอง เพราะเธอเองก็มักจะให้น้องกินทุกครั้งที่น้องร้องหิวหรือเพียงแค่อยากจะกิน เราควรจะกำชับดูการเรื่องของการกินของพวกเขา เพราะเมื่ออ้วนขึ้นมาก็เหมือนกับคนเราที่จะเป็นโรคเยอะได้ โดยเธอเองก็จะจดจำในเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งนี้เพราะเธอก็ไม่รู้ว่าความอ้วนของน้องก็มีผลต่อโรคต่างๆ ซึ่งทาสเองก็ควรจะที่คุมอาหารให้อยู่ในความพอดีไม่ให้อ้วนเกินหรือผอมเกินไป ซึ่งก็ยังโชคดีที่ว่าเธอได้เอาพี่ส้มมาหาหมอเร็วเนื่องจากแผลที่ไม่ยอมหาย ที่มา...

อับอายไม่กล้าไปไหน จากก่อนเคยหนีหายไป 4 วันทุกวันนี้ไม่กล้าแม้ย่างเท้าออกจากบ้านไป

คนไม่เลี้ยงไม่ได้รู้คนรู้มักได้เลี้ยง หากเลี้ยงดูเฝ้าอยู่จะรู้อยู่แก่จิตว่ามีสิทธิ์จะคอยห่วงมากเพียงไหน ยามลูกหายไกลตาเรียกเร็วไวลูกอยู่ไหนเป็นห่วงหนอเฝ้าคอยดู ยามเมื่อหายหน้าหายตาไป 4 วันพ่อใจสั่นร้องเรียกจะหาไหน เฝ้าคอยลูกก็ไร้ไม่มากลับเร็วไว ลูกอยู่ไหนไม่เห็นมีแม้คอยดู เมื่อได้เลี้ยงมักพันธ์ผูกและผูกพันธุ์ตัวพ่อมั่นหาลูกที่ได้หาย ไปเที่ยวเล่นเป็นจิ๊กโก๋คุมซอยหมายไม่ใช่หายไปเที่ยวอยู่ไม่รู้คอย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Sriumpan Karoona ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แมวของเขาได้หายออกไปจากบ้านเป็นเวลากว่า 4 วัน ซึ่งน้องก็ได้ออกไปเที่ยวเล่นเพราะเป็นจิ๊กโก๋คุมซอยอยู่แถวบ้าน แต่ในความเพลิดเพลินก็ไม่ยอมกลับมาบ้านจนผู้เป็นพ่อได้คิดหนัก ลูกรักได้จากหายมาวันนี้ไม่กล้าไม่ย่างเท้าออกจากบ้านด้วยอับอายไม่เคยหายนอนอยู่บ้านทุกวันนอน เพราะสิ่งที่ให้ติดตัวไปด้วย เมื่อเจ้าเหมียวได้ออกจากบ้านหาย สามารถโทรเข้าจะมีเสียงส่งเสียงดังได้ยินไปทั่วซอย และยังเปิดดูให้รู้ว่าอยู่ตรงไหนเมื่อเปิดแอพไว้ดูจากในโทรศัพท์ ด้วยยังดูพื้นที่ได้ไม่จำกัดไม่ว่าจะอยู่ไกลเพียงใดก็หาเจอ เจ้าเหมียวเลยไม่กล้าที่จะออกไปจากบ้านเลย เพราะพ่อเคยโทรเข้ามาครั้งนึงเสียงดังไป7-8 บ้านจึงไม่กล้าแม้จะย่างเท้าออกไปไหน ด้วยตัวก็เป็นจิ๊กโก๋คุมซอยใหญ่คงจะเสียเชิงและอับอายเพื่อนจรที่อยู่ในแถวบ้านตัว...

จำต้องจากยกให้คนอื่นเขา เมื่อตัวเราไม่มีแม้จะดูไหว แต่ก็ต้องเปลี่ยนใจ

ยามเมื่อเลี้ยงเฝ้าดูแลมาด้วยรักตัวประจักษ์มักรักด้วยสรรหา ยามแค่เพียงไม่เห็นหน้าหรือแววตาจำต้องเรียกหาลูกอยู่แห่งที่ใด มาวันนี้จำต้องจากยากใจนักตัวประจักจำหาบ้านให้ที่ใหม่ เมื่อเลี้ยงดูแลไม่ได้เหมือนก่อนไง จำจากไปยกให้แม้น้ำตานอง เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wisit Wanpen ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาจำต้องยกน้องให้คนอื่นหรือต้องการที่จะหาบ้านให้กับน้องลงในกลุ่ม ซึ่งเขาอยากจะยกให้คนที่มีบ้านพร้อมซึ่งน้องตามืดมองไม่เห็นตั้งแต่เมื่อ 5 เดือนด้วยเป็นต้อและต้องการรับการรักษา ด้วยมีค่าใช้จ่ายที่สูงโดยเขาเองก็เสียใจและร้องไห้ไม่หยุด ด้วยเขาพึ่งจะเรียนจบและได้งานอีกทีซึ่งงานหลักๆต้องออกต่างจังหวัดบ่อยและไม่มีเวลาจะได้อยู่ห้องค่อยเฝ้าดูแลเหมือนก่อนนี้ จึงไม่สามา่รถที่จะดูแลต่อได้แม้ทุกข์ใจทีไม่ว่ามีหาทางดูไว้ทุกคืนวัน จึงมาโพสต์หาบ้านแม้น้ำตาจะตกตัวก็พ่ออกจะแตกแม้ทุกข์หนา ก่อนเคยรักเลี้ยงดูเฝ้านอนก่อนทุกคืนมายามวันนี้จำต้องจากลาไม่มีหน้าแม้ได้พบเจอ มาวันนี้ขอเปลี่ยนใจสินใจผิดตัวสนิทขอหยุดการหาบ้าน เมื่อเขาเองทำใจยอมรับไม่ได้ด้วยน้ำตาเมื่อคิดหาน้ำตาไหลไม่ยอมหยุดเลย จึงมาบอกขอโทษลงในกลุ่มและจะพยายามหาทางรักษาน้องต่อไปและไม่ขอมอบให้ใครอีก เมื่อเลี้ยงดูมาก็รักนอนด้วยกันมาทุกคืนถ้าจะให้คนอื่นเขาตัวเราก็ทำใจไม่ได้จริงๆ ที่มา Wisit Wanpen 

ความน่ารักอย่างนึงของเด็กๆที่บ้าน คือเวลาแมวตัวนึงเจอปัญหาแล้วเราไม่เห็น

หากเรายังไม่เคยที่จะได้เลี้ยงพวกเขาเราก็จะไม่ได้รู้ว่าความน่ารักของพวกเขามีมากเพียงใด เพราะแมวมีความคิดและความอ่านเทียบกับเด็กสองขวบ หรือพูดง่ายๆว่าเราก็จะเหมือนกับการเลี้ยงลูกที่มีอายุ 2 ขวบ ซึ่งสิ่งต่างๆที่เด็กวัยนี้ทำได้แมวก็ทำได้หมด เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wachiraphong Ruengnithikongkrai ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาได้เลี้ยงแมวเอาไว้เป็นจำนวนหลายตัว และสิ่งนึงที่เขาได้บอกไว้ว่าความรักอย่างนึงของเด็กๆที่บ้านที่เขาได้เลี้ยง คือเวลาที่แมวตัวนึงเจอหรือพบกับปัญหาแล้ว ถ้าเขาไม่เห็นหรือไม่ได้ไปพบ พวกเจ้าเหมียวก็จะไปยืนออกันเอาไว้ให้เขาได้รับรู้ว่าตรงนี้มีปัญหาที่พวกเขาไม่สามารถที่จะแก้เองได้อยู่ อย่างเช่นเคสนี้เป็นตัวอย่าง น้องตัวนึงเล็บติดอยู่ในตู้เสื้อผ้ากับผ้าที่แขวนเอาไว้ในตู้เกิดมาจากการซนเข้าไปเล่น ซึ่งพี่ๆได้มาเห็นและพบเข้าก็ทำการช่วยเหลือกันอยู่นานสองนาน ซึ่งน่าจะหมดหนทางจะช่วยจึงเรียกกันมายืนรวมตัวกันเอาไว้ให้ทาสได้รับรู้ว่าตรงนี้น้องติดอยู่เล็บเอาไม่ออกแล้ว ซึ่งก็เป็นภาพที่น่ารักที่พวกเขาพร้อมใจกันช่วยเหลือระหว่างแมวที่บ้านด้วยกันเอง เพราะสิ่งที่พวกเขาได้คิดก็คงจะเหมือนกับเด็กตัวน้อยๆเพียงแต่เขาพูดออกมาเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ จึงอยากฝากไว้ว่าหากนำมาเลี้ยงดูแล้วก็ควรที่จะดูแลพวกเขาให้ดีเหมือนวันแรกที่เราอยากจะรับพวกเขาเข้ามาเลี้ยงเอาไว้ เพราะพวกเขาก็มีชีวิตและจิตใจเหมือนกับเรา ที่มา Wachiraphong Ruengnithikongkrai

จากเคยขออาศัยกินข้าวเหลือบาตร รับมาเฝ้าเลี้ยงดูจึงได้เห็นเด็กวัดในคราบนางฟ้า

จากก่อนนี้เคยไม่มีขออาศัยกินข้าวก้นบาตรพระ เมื่อรู้ตัวว่าตนไร้ที่ต้องการไม่สรรหาจึงหลบแอบนอนหลับแม้ยามทุกข์ก็ไร้ค่า ไม่มีใครเข้าหาเมื่อตัวเองเกิดมาเป็นจร มาวันนี้ได้มาเติบใหญ่แม่สั่งเสียเลี้ยงดูไปให้เฝ้าหา โตมาเป็นสภาพเป็นนางฟ้า แต่ใครหายังบอกเสมอว่ามาจากวัด เมื่อแรกเห็นสงสารด้วยรักจิตไม่มีสิทธิ์จะช่วยเหลือหรือไขว่หา จึงไปขอมาเลี้ยงเฝ้าด้วยช่วยเยียวยาคอยรักษาให้เติบโตแต่เยาว์วัย มาวันนี้เติบโหญ่เป็นลูกรักตัวประจักษ์รักลูกกว่าไหนๆ คอยเฝ้าเลี้ยงสม่ำเสมอเลี้ยงดูไป เลี้ยงด้วยใจใช่ด้วยรักเลยพักดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หมาโอ๊ต สุดดื้อ ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เอาน้องมาเลี้ยงจากที่วัด เมื่อครั้งก่อนได้เห็นก็รู้สึกผูกพันจึงนำมารักษาด้วยทันควันให้หายที แต่ทว่ากว่าจะมาหน้าตาสวยสภาพเป็นนางฟ้าก็หมดไปหลายหมื่น แม้ชื่นมื่นแต่ดูแลให้ไม่ขาดหาย ซึ่งก็อยู่ที่ความใส่ใจของตัวเธอเอง เพราะน้องในตอนแรกน้องไม่สบายหนักด้วยสภาพที่ผอม เธอจึงนำมารักษาด้วยหมดไปราวๆ 2 หมื่นบาทแต่ด้วยที่น้องมาเป็นสภาพนางฟ้าและหน้าตาสวยมากเช่นนี้เพราะความรักที่เธอได้มอบให้น้องและความใส่ใจที่เธอคอยเฝ้ารักษาจนหายดี ซึ่งเธอก็ได้รับน้องมาเลี้ยงดูและรักษามาเป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้วจึงอยากจะให้กำลังใจสำหรับเพื่อนๆที่แมวป่วยหรือไม่สบายว่าถ้านำพวกเขามาเลี้ยงแล้วเราก็ควรที่จะดูแลพวกเขาให้ดี เพราะอาจจะเป็นครั้งเดียวที่พวกเขาจะได้รักษาพวกเขาและคือสิ่งที่เราได้เลือกจะนำเขามาเลี้ยงแล้วด้วย ที่มา หมาโอ๊ต...

จากแมวที่ไม่มีใครต้องการ แต่ความคิดเปลี่ยนจากคนไม่ชอบแมวกลายเป็นรักสุดใจ

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : J-Pasu Pramokchon ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้พบเจอลูกแมวตัวหนึ่งที่ติดฝากระโปรงรถของแฟนมาตั้งแต่ลำปางจนถึงเชียงใหม่ ใจนึงก็ไม่ค่อยชอบแมว แต่อีกใจก็คิดถึงตัวเองว่าแมวตัวนี้เหมือนกับชีวิตของเขาที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกับเขา ก็เลยตัดสินใจเอาไงเอากันจะเลี้ยงน้องให้ดีที่สุดเลย . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เมื่อ 6 ปีก่อน ได้เก็บลูกแมวตัวหนึ่งได้เพราะน้องติดมากับใต้ฝากระโปรงรถของเมียจากลำปาง พอมาถึงที่เชียงใหม่ผมกะจะล้างรถทำความสะอาด จนกระทั่งผมได้ยินเสียงเลยล้วงเอาออกมา สภาพอย่างที่เห็นเลยครับ เอาให้ใครเขาก็ไม่เอาเพราะผมไม่ชอบแมวอยู่แล้ว แถมเลี้ยงไม่เป็นด้วย สุดท้ายเพราะเห็นเขาพยายามเลียทำความสะอาดตัวเอง ซึ่งปกติแล้วแม่แมวจะทำให้กับลูกแต่น้องเขาไม่มีแม่ เลยคิดถึงตัวผมเองที่กำพร้าเหมือนกับแมวตัวดังกล่าวนี้ เลยตัดสินใจว่าจะเลี้ยงสักตั้ง เราพาไปหาหมอตรวจสุขภาพ ซื้อนมสำหรับสัตว์มาป้อนทุกๆ3 ชม. ไปราชการต่างจังหวัดก็ต้องเอาน้องไปด้วยสอนหนังสือเสร็จก็ต้องพากลับบ้านพักไปป้อนนม ใช้ชีวิตกันสองคนพ่อลูก...

เป็นเรื่องเป็นราว หลังแฟนแพ้ขนแมวไม่อยากให้แมวมานอนด้วยและพร้อมยื่นคำขาด

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : วิ ไงจะใครละ ได้เผยเรื่องราวสุดน่ารักของแฟนของเธอและเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแฟนของเธอเกิดแพ้ขนแมวและยื่นคำขาดให้กับเธอ ถ้าเธอยังคงเอาแมวเข้าห้องนอนแล้วละก็ เป็นเรื่องเป็นราวแน่ๆ จนกระทั่ง.... . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ทุกคนค่ะ เรามีเรื่องจะเล่าให้ฟังและอยากได้คำปรึกษาค่ะ พอดีแฟนของเราแพ้ขนแมว แล้วยื่นคำขาดว่าถ้าเอาแมวเข้าห้องนอนอีกละก็ เค้าจะไปนอนอีกห้องนึง เราก็เลยตามใจเขาให้เค้าไปนอนอีกห้อง ทุกคนว่าเราทำถูกต้องมั้ยค่ะ? จนเรื่องราวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์จนมีชาวเน็ตเข้ามาสอบถามและให้ความคิดเห็นว่า ไม่ควรเอาแมวไปนอนด้วยที่ห้องด้วยนะเพราะทางผู้ที่เข้ามาคอมเม้นต์ก็เป็นภูมิแพ้เช่นเดียวกันจึงเข้าใจหัวอกแฟนดี ทางเจ้าของโพสต์จึงเข้ามาตอบกลับว่า น้องชอบเข้านอนในตู้เสื้อผ้าเราค่ะ ตรงที่เค้าชอบนอนเราจะเก็บเสื้อผ้าออกมาจนหมดค่ะ มีแต่ที่นอนของน้องเค้า ตู้เสื้อผ้าแฟนจะไม่ให้นอน แยกกันค่ะที่นอนของเรากับแฟนก็นอนคนละที่กันค่ะ บ้านแมวเคยมีให้น้องนอนนะ แต่นางขี้เบื่อค่ะ...

เดินมาส่งเสียงร้องขอให้ช่วย เมื่อตัวเคยมีบ้านวันนี้จำจากเดินหาอาหารอยู่แรมวัน

จากเคยมีบ้านอยู่จำต้องเดินตากฝนเร่ร่อนหาที่หลบใต้ท้องรถ เมื่อเคยได้รับความรักอยู่แต่ในบ้านไม่เคยต้องทนแม้ตัวจะหิว วันนี้พลันเป็นจรเดินหาเศษอาหารที่ตกลงพื้นแม้บูดก็ต้องทนฝืนกินเพื่อให้ได้อิ่มท้อง แม้รู้ตัวว่าถ้ากินไปแล้วจะท้องเสียก็ตามจำต้องอดกลั้นกิน เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Meuk Montai ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาได้พบน้องเป็นแมวพันธุ์เปอร์เซียมาหลบแดดหลบฝนที่ใต้รถ ในสภาพที่คอได้รับบาดเจ็บน้องมีตาสองสี สีฟ้ากับยสีส้มไม่ทราบว่าเป็นเพศอะไรแต่ใช้ชีวิตเร่ร่อนอยู่แถวลานกว้าง ในซอยเทอดไท 33/1 ตลาดพลูซึ่งจากแมวที่เคยมีบ้านอยู่ที่อบอุ่นต้องมาใช้ชีวิตเร่เยี่ยงแมวจร หากินก็ยากไร้เพราะไม่เคยได้ใช้ชีวิตอยู่ภายนอกเพียงลำพัง ต้องหาเศษอาหารที่ตกหล่นตามพื้นฝืนกินแม้เศษอาหารจะบูดก็ต้องกลั้นใจ ด้วยตัวไร้ไม่มีที่ให้ไปซึ่งก็ไม่รู้ว่าน้องพลัดหลงกับผู้เป็นเจ้าของมาหรือถูกนำมาเทเอาไว้กันแน่ เพราะชีวิตที่ไม่เคยได้พบเจอโลกภายนอกน้องจึงต้องคอยหลบแอบภัยจากภายนอกเช่นสุนัขจรที่เป็นเจ้าถิ่นหรือแม้แต่แมวจรเอง คงจะต้องใช้ชีวิตยากลำบากมามากมายนัก ซึ่งหากใครทำแมวหายหรือคิดว่าใช่แมวของตนเองก็สามารถลองติดต่อกับต้นโพสต์ดูได้ หรือหากใครอยากจะรับน้องไปเลี้ยงหรืออยากจะช่วยเหลือก็ติดต่อได้เช่นเดียวกัน ที่มา Meuk Montai

เดินมาปาดน้ำตาแมวหายไป 3วัน มาเจอตีลังกาใส่ขาถ้าไม่กลับมาจะเอากลับบ้านแล้วนะ

ยามเลี้ยงดูเฝ้าคอยดูแลมาด้วยรัก เกิดผูกพันด้วยรักเสมือนดั่งเป็นลูก มาวันนี้หายหน้าไม่มีแล้วแม้มาดู ยามเรียกหาคิดหดหู่ลูกหายด้วยไกลตา จากที่เลี้ยงเฝ้าดูแลไม่เหินห่างตัวไม่ห่างเมื่อหายหน้ารีบตามหา วันนี้ไร้ที่ใดจะให้แม่เรียกมาไม่มีหาเรียกลูกแล้วแม่มีใจ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Walailuck Thapnakhok ได้โพสต์เรื่องราวตามหาเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่าชู ซึ่งน้องได้หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2563 ด้วยเธอก็ยังตามหาน้องมาอยู่ด้วยตลอดแม้จะลงตามหาในโซเชียล แต่ทว่าในวันนี้ได้ไปเซเว่นด้วยความเศร้า เดินมาจะเข้าเซเว่นปาดน้ำตาตกเมื่อได้พบเห็นน้องมาตีลังกาใส่ขา หวังเมตตาเอาไปเลี้ยงรักดั่งใจเธอ จึงมาเล่นกายกรรมให้ดูอีกเดินมาอีกตีลังกาใส่ขาม้วนหน้าม้วนหลังก็มีมา ไม่รู้หาเมตตาอยากไปอยู่กับทาสเธอ ซึ่งจากที่เธอกำลังเศร้าแล้วเสียใจ ที่เจ้าชูได้หายไปต้องเปลี่ยนโหมดไม่ทันขำก็ขำยังต้องเศร้าตามหาแมว เห็นเดินมาอ้อนมาเล่นคิดว่าหิวนั่งๆอยู่ตีลังกาให้ดูเฉย กลิ้งไปมาให้รู้ดูเหมือนอยากจะกลับบ้านไปด้วย เธอจึงได้บอกไว้ว่าถ้าเจ้าชูไม่กลับมาบ้านจะเอาเจ้าตัวนี้กลับไปเลี้ยงแทนแล้วนะ ซึ่งน้องก็เป็นแมวไทยบ้านๆที่อาศัยอยู่ในบริเวณแถวดังกล่าวซึ่งก็ไม่ได้ผอมมากแถมยังอ้วนอีกตั้งหากด้วย แต่ก็คงอยากจะเข้ามาอ้อนหรือได้กลิ่นในความเป็นทาสในตัวของเธอเอง เพราะหากเราดูจะเห็นว่าพวกเขามีสัญชาตญาณความรู้สึกว่าคนไหนเป็นทาสแมวหรือคนไหนไม่ได้เป็น ที่มา...

ความเจ็บปวดที่งดงาม แม้ตัวจะเจ็บหนักแต่ก็แลกมาด้วยการปกป้องลูกรักของตัวเอง

ในบางครั้งคนที่ไม่เคยได้เลี้ยงหรือไม่เคยได้ผูกพันกันมาก็จะไม่เข้าใจ ในสิ่งที่คนที่ได้เลี้ยงหรือได้เลี้ยงตัวเองว่าทาสแมวได้ทำ เพราะสิ่งนึงที่เราจะได้จากการที่รับพวกเขามาเลี้ยงก็คือความรักและความสุขของคนเป็นแม่ แม้อาจจะไม่เหมือนแม่โดยแท้แต่เปรียบเสมือนแม่ได้เลย เพราะหากเราเอาพวกเขามาเลี้ยงตั้งแต่ยังเล็กสิ่งที่เราจะได้เห็นคือการเติบโตของพวกเขา เพราะพวกเขาเองก็เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆที่ต้องการความเอาใจใส่ดูแล เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kob Patcharaporn ได้โพสต์เรื่องราวของตัวหลังจากที่เธอนั้นได้ยอมเสียสละตัวเอง เพื่อที่จะปกป้องเจ้าเหมียวน้อยของเธอ ซึ่งในวันที่เธอได้ให้น้องเล่นกันอยู่ที่หน้าบ้านด้วยการที่เป็นแมวที่เลี้ยงเอาไว้ในระบบปิด เธอจึงมักจะพาน้องๆออกมาเดินเล่นข้างนอกบ้านอยู่เสมอ แต่ทว่าในตอนที่ได้เล่นกันอยู่ก็มีเจ้าเหมียวจรมาจากไหนไม่รู้พุ่งตัวเข้ามาใส่แมวของเธอเอง จึงทำให้เธอรีบเข้าไปห้ามเพื่อไม่ให้น้องแมวของเธอเองถูกทำร้าย แต่ด้วยความที่แมวจรจะเข้ามาทำร้ายลูกของเธอเธอจึงเลือกที่จะอุ้มลูกของตัวเพื่อปกป้องลูกเอาไว้ และแมวจรก็ได้หันมาทำร้ายเธอเข้าแทน เธอได้รับบาดเจ็บที่แขนเต็มไปหมด แต่เธอก็เลือกที่จะทนเพราะมันคือสิ่งที่เธอจำต้องทำในฐานะเจ้าของและแม่ที่ดูแลเจ้าเหมียวของเธอเอง ซึ่งเธอจึงได้มาบอกลงไว้ในกลุ่มทาสแมว 4.0 ว่าความเจ็บปวดที่งดงามแม้ตัวจะเจ็บหนักก็ตาม แต่ก็จะต้องทำขอเพียงเจ็บแทนแลกกับลูกได้ปลอดภัย ที่มา Kob Patcharaporn