จากเคยมีบ้านอยู่อดสู่ตัวเป็นจร เดินเร่ขออาหารผอมโซอาศัยร่มหลังคากำบังฝน

ก่อนอยากจะได้ด้วยใจรักตัวก็อยากจะรักเอามาเลี้ยงไว้ มาวันนี้เริ่มป่วยไม่ใส่ใจปล่อยเอาไว้ให้เดินเร่พลันเป็นแมวจร จากวันที่เคยรักให้ความอบอุ่นตัวก็อุ่นใจให้เข้าหาวันนี้ไร้ใครเขาจะเมตตาต้องเดินหาอาหารประทังไป ยามชีวิตยากไร้ด้วยเลือกไม่ได้จึงต้องใช้ชีวิตตามไปเหมือนเป็นจรให้ แม้ยามฝนตกแดดออกก็ต้องอดใจไม่ว่าใยหาอาหารประทังพอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wispy Infinity ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เธอได้พบน้องเมื่อได้มีโอกาสผ่านมาที่จตุจักร ซึ่งเธอก็ได้เอาอาหารเม็ดอาหารเปียกมาช่วย ด้วยป้าที่อยู่ในระแวกได้บอกเธอว่าพึ่งเจอน้องได้อาทิตย์นึง สภาพตอนนี้ถือว่าดีขึ้นเยอะแล้วน้องเป็นโรคผิวหนังด้วยตัวจริงก็ผอมมากๆ เธอซื้ออาหารเปียกไปให้น้องแล้วดูหิวโซมาก ใครอยากจะช่วยก็มาได้แต่ต้องให้อาหารในถาดหลบๆนิดนึงและไม่ทำให้สกปรกกับพื้นที่ น้องอยู่แถวตรงทางสามแยกข้างใน จตุจักรที่มีสัตว์น้ำ ซึ่งถ้าใครอยากจะรับก็สามารถติดต่อไปได้ ป้าเขาก็หาคนรับไปเลี้ยงอยู่ด้วยตัวน้องเองก็คงจะเคยมีเจ้าของมาก่อน ด้วยเป็นแมวพันธุ์น้องจะเฝ้ารออยู่ตรงที่เดิมเป็นประจำตั้งแต่ที่หลงมา โดยมีคนแถวบริเวณช่วยๆกันดูถูๆไถๆไปหวังให้รอดชีวิตแม้ได้อิ่มนอนหลับ แต่ก็ยังไม่มีใครจะรับไปจริงจังสักคน น้องจึงต้องคอยหลบนอนกำบังฝนใต้ร่มหลังคาช่วงนี้หน้าฝนยุงก็เยอะกลัวน้องจะต้องถูกยุงฟัดอีก โดยเธอเองก็ไม่สะดวกที่จะรับเอาไว้เอง ที่มา Wispy Infinity

ขับรถผ่านเห็นปาดน้ำตาตก เมื่อเจอตัวอกทำใจไม่ไหว ยอมจอดรถแม้จะเป็นภัย

เพราะความอ่อนโยนของหัวใจคนเราไม่เท่ากัน ซึ่งถ้าได้เติบโตหรือเคยถูกเลี้ยงมาด้วยกันกับสัตว์แต่ยังเยาวก็จะเข้าใจ เพราะความรักที่พวกเขาได้มอบให้ทำให้หัวใจเราได้เติบใหญ่ขึ้นมาและมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก และก็ไม่ใช่แค่กับสัตว์แม้แต่คนเองเราก็จะนึกถึงใจเขาใจเราเสมอ ด้วยหากได้ดูเด็กบ้านไหนที่ได้เติบใหญ่มาร่วมกันเมื่อโตขึ้นจิตใจของพวกเขาก็จะมีแต่ความอบอุ่นและความเห็นอกเห็นใจ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Wanvisa Duampair ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาได้พบเจอน้องตกอยู่บนสะพานภูมิพล ซึ่งเขาก็ได้จะขับรถผ่านแต่ก็ทำใจไว้ไม่ได้ ด้วยสภาพน้องที่นอนมอบอยู่ริมถนนบนสะพานภูมิพลที่เต็มไปด้วยรถที่วิ่งผ่านไปมาไม่มีหยุด น้องนอนนิ่งด้วยความกลัวฟันก็หักปากเจ็บที่ตัวก็ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ซึ่งก็ไม่รู้ว่ามาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไรไม่รู้ใครเขาทำตกไว้หรือติดรถมา นอนแน่นิ่งไปแล้วด้วยตัวสั่นเขาก็ขับรถผ่านกันไม่สนใจสนหา แต่ก็อดใจไม่ไหวจึงวนรถกลับมาลงมาดูว่าเป็นร้ายดี เอากลับบ้านใส่กล่องด้วยรถมอเตอร์ไซค์ที่ได้ขี่แม้จะลำบากยากดี ก็จะพยายามช่วยเหลือ ซึ่งเขาเองก็ได้สะดวกที่จะรับเลี้ยงเอาไว้ เพราะที่บ้านก็เพิ่งจะมีลูกใหม่เพิ่งเกิดได้ แต่ก็ขี่ผ่านไปไม่ไหวจริงๆซึ่งทางเขาเองก็จะพาน้องไปรักษาให้หายดีและทำการหาบ้านต่อไป โดยหาเพื่อนๆท่านไหนเป็นเจ้าของแมวหรืออยากจะรับไปเลี้ยงก็สามารถติดต่อไปได้ที่ต้นโพสต์ ที่มา Wanvisa Duampair https://www.facebook.com/wanvisa.duampar/posts/3717327674952383

ห่างหายหน้าไปจากบ้านร่วม 3 วันฉันยังเฝ้าคิดถึง วันนี้ได้มาพบเจอพร้อมจดหมาย

หากเพื่อนๆที่ได้เลี้ยงคงได้รู้เมื่อตัวไม่อยู่ใกล้ใจสั่นไหว เมื่อได้เลี้ยงก็รักปักดวงใจยามไม่อยู่ใกล้ใจแม่หายไม่เหลือดี ยามยังเล็กแม่คอยเฝ้าสั่งสอนตัวก็มองเห็นลูกเป็นเด็กดี วันนี้หายห่างหน้าไม่ปราณีไม่เจอสักทีนึกถึงคำนึงหา เฝ้าคอยมาวันนี้ก็ร่วม 3   ตัวแม่จางได้เห็นอกสั่นไหวเจอเข้าแล้วตัวรักปักดวงใจลูกนี่ไงเห็นพร้อมจดหมายมาคาตา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ครายที่ใช้ชื่อว่า Pet Citiz ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เจ้าของเจ้าเหมียวได้ทำเจ้าเหมียวหายออกไปจากบ้าน เพราะด้วยเป็นแมวตัวผู้ที่ชอบไปเที่ยวเล่น น้องจึงห่างหายหน้าไปจากบ้าน 3 วันส่วนผู้เป็นแม่ก็เฝ้ารอให้ลูกได้กลับมาด้วยตามหาในใจก็ยังคงคิดถึง วันนี้ได้พบเจอก็คำนึงเมื่อได้มีจดหมายมาห้อยคอลูกที่เฝ้ารอ เพราะในจดหมายได้เขียนไว้ว่า แมวคุณมานั่งเฝ้าปลาทูป้า ป้าเลยให้ไป 3 ตัว ป้าก็พร้มอบอกเบอร์และซอยไว้ให้ด้วย แล้วก็เอาเงินไปจ่ายค่าปลาทูด้วยและเบอร์โทร เมื่อทาสได้มาพบและเห็นเข้าตัวก็ต้องเอาเงินไปจ่ายป้าเมย์ที่ซอยสอง และไม่รู้ด้วยว่าควรน้ำตานองเมื่อเจ้านายสองหายไปนั่งเฝ้าปลาทูปลาเมย์ จึงอยากจะฝากเอาไว้นักว่าไม่ควรที่จะให้น้องออกไปใช้ชีวิตลำพังเพียงภายนอก ด้วยตัวไม่รู้ภัยจะมาครองวันนี้ดีเจอปลาทู 3...

เห็นพลัดหลงมาอยู่ใต้ท้องรถตัวผงกดูแลไว้ให้ตามหา แต่วันนี้ถ้ายังไม่ได้มีมา จะยึดไว้เป็นของตัวไม่ยอมคืน

เพราะทุกครั้งที่เราบอกกับเพื่อนๆเสมอ ว่าการเลี้ยงแมวในระบบปิดจะส่งผลดีกับตัวของพวกเขาเอง เพราะการที่เราปล่อยให้น้องอยู่กับโลกภายนอกที่มีภัยมากกว่าที่พวกเราจะมองเห็นได้ซึ่งชีวิตเล็กที่ต้องอาศัยอยู่หรือได้หลุดออกไปโดยส่วนมากก็จะไม่ค่อยได้กลับมาอีก เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า เฉยเฉย นะ โอ ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่เขาได้พบเจอน้องมาหลงมาหลบใต้ท้องรถ ที่พิกัดคลอง 8 ลำลูกกาซึ่งเขาก็เห็นรู้สึกสงสารด้วยการที่ได้พลัดหลงกับเจ้าของมาเป็นเวลานานทำให้ขนของน้องเป็นสังกะตังเต็มตัว และส่งกลิ่นชัดกว่าสุนัขจร เขาจึงได้นำน้องกลับมาบ้านและทำการอาบน้ำเพื่อที่จะดูแลรักษาต่อ เพราะด้วยน้องคงจะหลงและใช้ชีวิตภายนอกมาเป็นเวลานานพอสมควรทำให้น้องผอมมาก โดยเขาเองก็ได้บอกไว้ว่าหากท่านใดที่คิดว่าเป็นแมวของตัวเองก็ให้ทักไปหาเขาได้ แต่ก็ขอมีรูปถ่ายเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของคู่กับน้อง ซึ่งถ้าเกิน 7 วันแล้วทางผู้เป็นเจ้าของไม่มาแสดงตัวเป็นเจ้าของน้อง เขาก็จะทำการยึดเป็นของตัวเองและเลี้ยงดูแลต่อไปให้อย่างดี เพราะความเป็นทาสแมวในตัวเขาเองก็มีและเห็นใจที่น้องต้องตกระกำลำบากมามากมาย โดยหากเพื่อนๆท่านไหนเคยเห็นน้องหรือเป็นเจ้าของน้องก็สามารถไปแสดงตัวได้ที่ต้นโพสต์เอง เพราะโลกภายนอกที่คนเราดูแล้วมองว่าไม่มีอะไร ด้วยความเป็นจริงแล้วภัยจากภายนอกก็สามารถที่จะปิดชีวิตเล็กๆได้มากมายเสมอ ที่มา เฉยเฉย นะ โอ

น้ำตาคลอเบ้ารีบเข้ามาอ้อนเมื่อเห็นเจ้าของ เพราะรู้ดีว่าวันนี้คือวันสุดท้ายของชีวิต

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Happy New June ได้เผยเรื่องราวที่ยากจะทำใจได้ของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยก่อนหน้านี้แมวของเธอมีอาการหายใจถี่และแรงขึ้น จนเธอผิดสังเกตรีบพาน้องไปยังโรงพยาบาลสัตว์ จนกระทั่ง... . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า โรคหัวใจและโรคปอดคือโรคที่อันตรายมากสำหรับแมว ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมานี้ ชิฟฟ่อน  เข้าโรงพยาบาลสัตว์มา 2 รอบ มีอาการช็อคคามือแม่มา 3 หน วันนี้ก็เช่นเดียวกันที่ผ่านมาแม่รู้ว่าชิฟฟ่อนสู้มาโดยตลอด เราสบตากันเราจะรู้แต่วันนี้มันไม่ใช่เลย น้องน้ำตาคลอเบ้า...

ก่อนเคยรักเลี้ยงดูมาเติบใหญ่วันนี้ใยไม่ต้องการ ให้ใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจร

หากก่อนอยากจะได้มาเลี้ยงดูวันนี้สู่ปล่อยไร้ไม่ต้องการเหมือนแต่ก่อน เมื่อตัวต้องใช้ชีวิตเยี่ยงแมวจรเดินเร่ร่อนหาอาหารประทังวันไป ตอนเป็นเด็กก็รักเอ็นดูให้โตแล้วใจพลันเปลี่ยนไม่ต้องการปล่อยให้เดินเร่ขออาหารบ้านนู่นทีบ้านนี้ทีและใช้ชีวิตไปวันๆ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pattamawadee Pat Kp ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากได้พบน้องมาเดินเร่ขออาหาร จากเคยมีบ้านอยู่ต้องอดสู่ตัวเป็นจร ซึ่งก่อนยังเล็กเจ้าของก็เลี้ยงดูน้องมาอย่างดีวันนี้ครอบเกือบ 1 ปีโตแล้วนี้ไม่ต้องการ ซึ่งน้องก็ต้องออกมาใช้ชีวิตภายนอกบ้าน เร่ร่อนเพื่อที่จะขออาหารประทังหิวไปบ้านโน้นบ้านนี้ทีเพื่อขอข้าว วัคซีนก็น่าจะยังไม่เคยได้ทำเธอได้เห็นแล้วก็สงสารเมื่อตัวต้องทนทุกข์ถูกเจ้าถิ่นเขาไล่ฟัด ด้วยไม่ชอบแมวด้วยกันจึงอยากจะหาบ้านให้ที่ไม่ได้เลี้ยงแมวมาก่อน เพราะน้องเข้ากับตัวอื่นไม่ค่อยได้ ด้วยน้องเป็นแมวพันธุ์ผสมเพราะโครงร่างใหญ่ พิกัดที่บอกไว้ คลองเก้าธัญบุรี ถ้าไม่ไกลก็ยินดีที่จะส่งให้ได้น้องเป็นแมวตัวผู้หน้าตาน่ารัก พูดพอจะฟังรู้เรื่องบ้านเพราะเคยมีบ้านมีเจ้าของ จำมาวันนี้ต้องพลันตัวหันเป็นจรจำทุกข์ร้อนเดินตามฝนทุกข์ทนไป ที่มา Pattamawadee Pat Kp

แมวจรตาข้างเดียวกับชีวิตที่ต้องดิ้นรน กระเสือกกระสนอยู่ในโลกกว้างกับชีวิตนี้ที่ใครๆเขาก็ไม่ต้องการ

เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Phanit Banthanit ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวน้อยกับครอบครัวที่น่าสงสาร ต้องคอยหลบแดดหลบฝนจากโลกกว้าง แถมน้องแมวก็ยังเป็นตาอักเสบตาปิดสนิดตลอดเวลา . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า หาบ้านให้กับน้องแมวจรค่ะ สงสารน้องมากแม่เจอน้องตาอักเสบตั้งแต่เมื่อตอนเย็น และจะพาไปหาหมอแม่เลี้ยงอีกตัวไม่ไหวแล้วเพราะแม่มีแมวแล้ว1ตัวต้องหิ้วไปทำงานทุกวันเป็นแมวจรเหมือนกันนี่แหละค่ะ น้องมีด้วยกันทั้งหมดมี2ตัวนะคะ ส่วนแม่น้องไม่น่าเป็นห่วงเพราะเอาตัวรอดเก่งแล้ว ส่วนเราอยู่คอนโดเขาห้ามไม่ให้เลี้ยงสัตว์สงสารน้องค่ะ ใครสนใจทักแชทได้นะคะถือว่าทำบุญช่วยกันค่ะ พิกัดพระราม2ข้างเคียงได้ค่ะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตหลายท่านต่างพยายามช่วยหาบ้านให้กับน้อง ด้วยตัวยังน้อยแถมตาก็อักเสบถ้าได้รับการรักษาและมีคนเลี้ยงดูแอดเชื่อได้เลยว่าน้องจะกลับมาน่ารักในเร็ววัน หากท่านใดสนใจรับน้องๆไปเลี้ยงก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะ ถ้ารับได้ทั้งครอบครัวจะดีมากๆเลยจ้า   ที่มา Phanit Banthanit

เล่ามาน้ำตาตกจากก่อนเคยเลี้ยงระบบปิด วันนี้ย้ายชอบไปนั่งใกล้ชิดให้เขาป้อนหมู

จากการที่เราได้รักและเฝ้าเลี้ยงดูพวกเขาได้เติบใหญ่ก็คงจะมีใจรักหากวันนึงเขาได้เปลี่ยน เพราะการเลี้ยงแมวแล้วนอกจากจะได้รับความรักและความสุขพวกเราก็อยากจะให้เขารักเราเพียงคนเดียว เมื่อมาวันนี้ลูกได้เปลี่ยนไปรักข้างบ้านมากกว่าแม่ที่เลี้ยงมา ก็ย่อมเกิดอาการน้อยใจกันขึ้นมาบ้าง เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ณิชนันท์น์ ภิมล ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แมวของเธอมีท่าทีที่เปลี่ยนไป จากที่เมื่อก่อนตอนที่อยู่กรุงเทพเคยเลี้ยงน้องไว้ระบบปิด ตอนนี้เธอได้ย้ายมาอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด สังคมเลยเปลี่ยนไปน้องชอบไปนั่งไปนอนอยู่ที่ร้านค้า จากน้องกินเป็นแค่อาหารที่แม่เทให้ตอนนี้น้องก็เริ่มกินหมูที่เพื่อนบ้านได้ป้อน ใจนึงเธอก็รู้สึกดีที่เพื่อนบ้านได้เอ็นดูน้องแต่อีกใจนึงก็เป็นห่วงน้องกลัวจะโดนใครเขาวางยา และด้วยความรักที่เคยได้รับมาก็เริ่มปันใจ จากที่เคยให้แม่อุ้มและกอดได้เพียงคนเดียววันนี้เที่ยวเดินไปหาข้างบ้านให้เขากอดอุ้ม เธอจึงกลัวว่าน้องจะเจออะไรใหม่แล้วจะหนีไปไม่รักเธอเหมือนเช่นเดิม เพราะความรักที่แม่เฝ้าเลี้ยงดูมาก็หวงลูกหนักหนาเจ้าตัวเอ่ย วันนี้ใจไม่รักแม่เหมือนดั่งเคยเจ้าตัวเอ่ยมาเปลี่ยนแม่ใจไม่ดี จึงอยากฝากไว้หากใครได้ย้ายที่หากให้ดีอยู่เลี้ยงไว้ในระบบปิด เพราะแมวสมัยนี้ก็ปันใจเก่งและก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเลิกรักเราและไปรักข้างบ้านตอนไหน เพราะความรักที่เคยได้รับมาถ้าวันนึงมันหายไปใจก็จะหายตาม ที่มา ณิชนันท์น์ ภิมล

บวกกันไม่เกรงใจพระ พระก็สวดไปแมวก็ตีกันไป เพราะทุกที่เป็นสนามเด็กเล่นของเรา

หากเพื่อนๆเองที่ได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจกันว่า แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่สนโลกมีอยู่จริงๆเพราะความที่พวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นเจ้านายและเราเป็นทาสอีกด้วยการที่เป็นแมวเด็กก็เป็นอีกส่วนนึง เพราะก็จะเหมือนกับเด็กตัวน้อยๆที่ยังไม่รู้ประสีประสาดี หรือไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรควรหรือควรทำอะไรในเวลาไหนๆ เช่นเดียวกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Naratip Boobpathong ที่เป็นพระซึ่งหลวงพี่ได้นำเรื่องราวของเจ้าเหมียวขณะที่พระอาจารย์รูปหนึ่งได้สวดมนต์อยู่ด้วยจิตอันแน่วแน่ ก็ได้มีตัวป่วน 4 ตัวเข้ามาในระหว่างการสวดมนต์ซึ่งพวกเจ้าเหมียวก็ได้เข้ามาเล่นกันอย่างสนุกสนาน โดยที่ไม่ได้สนใจเลยว่าพระท่านได้ทำอะไรกันอยู่ ด้วยความเป็นเด็กเล็กที่ยังไม่โต เจ้า 4 ตัวก็เล่นกันอยู่บนตัวพระอาจารย์รูปนี้อย่างสนุกสนาน ด้วยตัวท่านพระอาจารย์เองก็จะต้องทำกิจนิมนต์ให้เสร็จ ซึ่งเจ้าเหมียวก็ยังเล่นกันไม่เสร็จจึงได้ฟัดกันต่อ โดยเรื่องราวนี้ถูกนำมาโพสต์ลงยังโลกออนไลน์ในเฟสบุ๊คของพระรูปนี้ ซึ่งวัดที่น้องๆได้อยู่อาศัยกันที่วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร ซึ่งหลังจากการโพสต์ก็ได้มีเพื่อนๆจำนวนมากเข้ามากดไลค์และแชร์ออกไปและได้ออกข่าวในหลายๆช่อง เพราะจากความสนุกที่เจ้าเหมียวได้เล่นกันอย่างไม่สนใจโลกและความน่ารักของพระรูปนี้ที่ท่านไม่ได้ไล่พวกน้องหรือดุพวกน้องเลยแม้แต่น้อย ที่มา Naratip Boobpathong https://www.facebook.com/naratip.boobpathong/videos/10217114342482346/

จำถูกเขาจองจำไว้ไม่มีแม้ที่จะให้กลับตัว เมื่อตัวทาสย้ายหายไปไม่เห็นแม้เงา

จากก่อนที่เคยรักเอามาเลี้ยงดูวันนี้สู่จำถูกเขาจองจำเอาไว้ไม่มีที่แม้จะให้กลับตัว เมื่อย้ายไปอยู่ที่อื่นกลับไม่เอาน้องไปด้วยให้อยู่ในที่ที่ไร้อาหารจะตกถึงท้อง ซึ่งที่เราเคยได้บอกไว้ว่าการที่จะรับสัตว์มาเลี้ยงดูก็ควรจะต้องเตรียมความพร้อมให้ดี เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ปาน' นิ้ ได้โพสต์เรื่องราวหลังได้พบน้องถูกจองจำเอาไว้ในที่ไม่มีที่ให้แม้จะกลับตัวได้ ซึ่งเธอได้มาพบน้องเพราะมาทำงานที่นี้และก็เห็นน้องอยู่แต่ข้างในนี้โดยไม่มีเจ้าของมาดูแล เลยถามคนในระแวกได้ความว่าเจ้าของได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่อื่น และนำน้องมาใส่เอาไว้โดยที่ไม่ได้กลับมารับน้องหรือดูแลน้องเลย น้องต้องทนอยู่ในที่แคบๆไม่มีที่ให้แม้จะเดินเล่นได้ อาหารก็ไร้ไม่มีได้ตกถึงท้องถ้าวันไหนเธอไม่ได้ไปทำงานน้องก็จะต้องอด จึงอยากหาบ้านให้กับน้องใหม่ น้องมีกันสองตัว ที่ตัวมีปลอกคออยู่แต่ก็ไร้แม้เงาของเจ้าของ ไม่รู้ว่าใยถึงให้น้องใช้ชีวิตอยู่เช่นนี้ โดยพิกัดที่เธอได้ลงไว้ที่ สี่แยกปฐมพร จังหวัดชุมพรและหากเพื่อนท่านไหนอยู่ในบริเวณพื้นที่แล้วอยากจะรับน้องไปเลี้ยงดูก็สามารถติดต่อไปที่ต้นโพสต์ได้เลย ขอเพียงแค่บ้านขออาหารให้ได้อิ่มท้อง ที่มา ปาน' นิ้