อย่าได้หลุดหายออกไปนอกบ้านเชียวนะ ลุงข้างบ้านมันอันตราย
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Tiphakorn Suabdaung ได้เผยเรื่องราวจากกรณีน้องเจ้าสัวถูกคนเขานำไปเทไว้ในป่าจนสิ้นใจ หลังเจ้าของเดินตามหากว่า3วันจนกระทั่งพบเจอน้องที่ไร้ลมหายใจ ทางผู้่โพสต์ท่านนี้ก็ได้พูดถึงกรณีนี้ว่าถ้าเป็นแมวของตัวเองจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ขนาดน้องเจ้าสัวหน้าตาน่ารัก ลุงข้างบ้านยังแจ้งกู้ภัยนำใส่กระสอบเอาไปเทไว้ในป่าได้ และนี่ถ้าเป็นลูกของตนที่หลุดไปล่ะก็มันคงจะโดนหนักหนากว่านี้แน่ๆ หรือไม่ก็เรียกหน่วยอรินทราชมาจัดการเป็นแน่แท้
อย่าได้ริอาจหลุดไปไหนเชียวน่ะ ลุงข้างบ้านมันอันตราย สำหรับเราแมวไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง เราเลี้ยงไว้เพื่อสนองความต้องการตัวเองหรือแก้เหงาอย่างใด เราเลี้ยงเค้าเยี่ยงลูก เค้าคือแก้วตาดวงใจ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีเลยก็ว่าได้
เค้าอาจจะไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคนก็จริงอยู่ แต่เราก็เลี้ยงเขามาอย่างดี ถนุถนอมเค้าทุกอย่าง สุดๆคือเราอดได้แต่ลูกเราห้ามอดเด็ดขาด อยู่กันมา 8 ปีเข้าปีที่ 9...
เป็นลูกกำพร้าพี่น้องที่อยู่ด้วยกันต่างสิ้นใจกันหมดรวมถึงตัวแม่ แถมคนก็ชอบมาว่าเป็นแมวไม่น่ารักเหมือนตัวอื่นๆ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Anantaporn Pummaprang ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเจ้าเหมียวของเธอมีชื่อว่าเจ้าไฝ เจ้าไฝเป็นลูกกำพร้าแม่ กำพร้าครอบครัวเพราะทั้งพี่และน้องและตัวแม่นั้นสิ้นใจไปกันหมดแล้ว แถมผู้คนก็มาว่าไฝว่าไม่น่ารักเหมือนแมวตัวอื่นๆ
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สวัสดีครับกระผมไฝเองฮะ ไฝมีพี่น้องทั้งหมด 4 ตัวฮะ แต่พวกเขาไม่แข็งแรงสิ้นใจไปกันหมดแล้วเหลือแต่ไฝฮะ ไฝกินนมไม่เป็นขุนยายต้องป้อนนมไฝทุกวัน ใครๆก็ว่าไฝไม่น่ารัก ไฝเป็นลูกกำพร้าฮะ
แม่ไฝก็สิ้นใจไปแล้วด้วยพ่อก็ไม่ปรากฏว่าเป็นใคร แต่ตอนนี้ไฝมาอยู่โรงเรียนกับนุดแม่แล้วฮะ พี่นักเรียนรักไฝไฝก็รักพี่นันเรียนนะฮะ จนเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวถึงความน่ารักเอาไว้ว่า
พี่ไฝอย่าได้น้อยใจไปเลยนะ พี่ไฝน่ารักสุดๆคนที่เขาเข้ามาว่าเขาไม่ได้รักแมวจริงๆหรอก บ้างก็บอกว่าน้องไฝยิ่งตัวโตไฝที่อยู่บนใบหน้าก็ใหญ่ตามขึ้นเรื่อยๆนะ บ้างก็บอกว่าต้องขอขอบคุณผู้โพสต์ที่เลี้ยงดูไฝเป็นอย่างดี...
แค่ใช้ไม้เขี่ยก็วิ่งหนีแล้ว สาววอนโปรดอย่าได้ทำอีกไม่ว่าจะเป็นแมวของใครก็อย่าเทในป่า
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Chan Kuekrai ได้เผยเรื่องราวหลังเกิดเหตุการณ์สุดดราม่าในโลกออนไลน์ หลังมีกู้ภัยคนหนึ่งได้นำแมวพันธุ์ไปเทไว้ในป่า จนกระทั่งน้องได้สิ้นใจเพราะไม่สามารถเอาตัวรอดจากโลกภายนอกได้ จนกระทั่งทางผู้โพสต์ได้มาบอกกล่าวถ้าแมวของเธอหลุดไปรบกวนอย่าเทในป่า
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่า่า นางเป็นลูกครึ่งสก็อตติชหูพับ & อเมริกันช็อตแฮร์ ไม่ใช่แมวป่าหรือแมวจรแต่อย่างใดไม่ฟัดและกระทำต่อผู้อื่น เลี้ยงระบบปิด 100% ไม่ใส่ปลอกคอ เหตุผลคือ กระดิ่งติดซอกบันไดจนเกือบต้องสิ้นใจมาแล้ว
หากวันใดนางหลุดออกจากบ้านไป รบกวนอย่าเอาไปเทไว้ในป่าเพราะนางอ่อนต่อโลกนักหากินเองไม่เป็นค่ะ ขอกินเป็นอย่างเดียว และหากนางหลุดไปบ้านใครแค่เอาไม้เขี่ย ย้ำ!!! เขี่ย นางก็หางจุกแล้ว โดยส่วนตัวเรามองเรื่องกู้ภัยเอาแมวไปเทป่าเคสน้องเจ้าสัว
ถ้าหากคุณออกมายอมรับผิดและกล่าวคำขอโทษกับเจ้าของด้วยความสำนึกผิดจริงๆ...
กู้ภัยโพสล่าสุด ลั่นก็เป็นคนเหมือนกันมีความรู้สึกและก็มีส้น…ด้วย ถ้าไม่ถูกใจขออภัยเรื่องของคุณ
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊กช่วยเหลือสัตว์อย่าง : มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand - WDT ได้เผยเรื่องราวและอัพเดตเรื่องราวประเด็นดราม่า หลังกู้ภัยรายหนึ่งได้นำน้องแมวที่มีชื่อว่าเจ้าสัวนำไปเทในป่า หลังมีป้าข้างบ้านโทรแจ้งว่าเข้าบ้านไม่ได้เป็นชั่วโมงเพราะจะถูกแมวเข้ามาฟัด และโพสล่าสุดของกู้ภัยน้อยใจก็เป็นคนเหมือนกันหลังถูกดราม่าเข้ามาหนัก
โดยทางเจ้าของได้โพสต์เอาไว้ว่า "เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ครอบครัวของเราได้เดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัดที่สระบุรีเป็นเวลา 2 วัน 1...
จอดรถไว้ลงไปตลาด เจอแม่ย่านางไม่ได้ตาฟาดมาปรากฏตัวให้เห็น
เพราะความอินดิ้ที่ได้มีอยู่ในตัวแมวทุกตัวบนโลก ซึ่งเมื่อเวลาจะนอนหลับหรือจะทำอะไรพวกเขาก็ไม่ค่อยจะสนใจใครรอบข้าง ด้วยความเป็นตัวเองสูงและเชื่อมั่นว่าตัวสามารถที่จะทำอะไรก็ได้เพราะทุกที่เป็นที่ของพวกเขา
เช่นเดียวกับเรื่องนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pang Pangka ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาได้พบเจอแม่ย่านางมาปรากฏตัวให้เห็น ขณะเขาได้ไปจอดรถเอาไว้ที่ตลาดและลงไปซื้อของจ่ายตลาดเป็นปกติ แต่เมื่อได้เดินกลับมาในขากลับ
ได้กลับมาเห็นรถและพบเจอแม่ย่านางมาปรากฏตัวให้เห็นซึ่งนอนอ้วนตุบอยู่บนฝากระโปรงของรถไม่ได้สนใจใคร ซึ่งเขาจึงได้มาถามเพื่อนในกลุ่มว่าถ้าเราเจอแม่ย่านางรถเช่นนี้เราควรจะต้องทำเช่นไรดี ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็ได้มาตอบกันไว้ว่า
ให้อุ้มท่านกลับไปบ้านแล้วท่านจะคุ้มครองเราเป็นอย่างดี เพราะดูจากลักษณะหน้าตาและเนื้อตัวคงจะเป็นจรที่อยู่ในบริเวณแต่ก็ไม่ได้อดเพราะอ้วนมาก อยากจะรับเอาไปเลี้ยงกันเป็นแถว โดยเพื่อนๆก็ต่างพากันบอกให้อุ้มกลับบ้านกัน
เพราะมาเช่นนี้แล้วไงคงจะให้โชค เพราะการเป็นจรถ้าไม่มีใครให้กินดีอยู่ดีเนื้อตัวก็คงจะไม่ได้อ้วนเช่นนี้ แต่นี้มานอนอ้วนและด้วยอาการของบ้านเราก็เริ่มที่จะเย็นคงจะมาหาที่อุ่นๆให้นอนพุงพิงให้อบอุ่นจึงได้มาหลับไม่สนใจใครบนรถเป็นแม่ย่านาง
ที่มา Pang Pangka
เฝ้าเลี้ยงดูมา 7 ปีวันนี้แคล้วไปข่วนลูก เขาบอกให้ไปเทไว้วัดช้ำหนักจะหากินอยู่เช่นไร
หากความรักความผูกพันธุ์ที่มาได้ก็ต้องหายเมื่อวันนี้ได้มีลูกเกิดขึ้นมาใหม่ จากเคยรักเลี้ยงดูคอยห่วงในวันนี้ไซร์มีลูกแล้วห่างไกลกัน จากที่เคยเฝ้าเลี้ยงดูคอยถนอมวันนี้ตรอมเขาไม่สนเหมือนใจฉัน จากรักอยู่เลี้ยงดูทุกคืนวัน
วันนี้พลันหันไปเขาให้เท เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชัตดาวน์ จันทร์เมืองไทย ได้โพสต์เรื่องราวหลั่งน้ำตาเมื่อที่บ้านได้บอกมาให้เอาน้องไปเทวัด ด้วยเมื่อวานน้องไปข่วนลูกที่บนคิ้วจึงเจ็บลึก แต่ลูกของเธอเองก็คงจะไปกอดหอมน้องเพราะผู้เป็นแม่ได้ทำธุระอยู่
ซึ่งลูกของเธอก็ได้มีอายุ 2 ขวบแล้วแต่ที่บ้านก็ยังบอกให้เอาแมวไปเทด้วยน้องก็แก่มากเกินแล้วเพราะเลี้ยงมา 7 ปี เธอจึงไม่มีวิธีและหนทางจะให้น้องอยู่ต่อไปเลย ใจเธอก็เบื่อคนที่บ้านมากเพราะเมื่อก่อนตอนน้องติดสัตว์
เคยไปงับคนในบ้านเขา แมวก็ก้าวร้าวแต่ตอนนี้ทำหมันแล้วก็ไม่เป็นเหมือนก่อนเคย แต่น้องน่าจะรำคาญเวลาเด็กไปเล่นด้วย เธอจึงได้มาถามว่าควรจะทำเช่นไรกับน้องดีเพราะไม่อยากที่จะนำน้องไปเทไว้ กลัวจะหากินเองไม่ได้และเธอก็เสียใจ
ซึ่งเมื่อเวลาผ่านมาเธอเองก็ได้คำแนะนำจากเพื่อนๆในกลุ่มจึงได้เปลี่ยนใจและดูแลน้องเอาไว้เช่นเดิม เพราะจะให้เอาไปเทไว้น้องก็คงจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปด้วยตัวเองไม่ได้เลย เมื่อได้ถูกเลี้ยงดูมาอยู่แต่ในบ้านเป็นเวลา 7 ปีและเธอก็รักและเลี้ยงของเธอมา
ที่มา...
เห็นมีน้ำมีนวลพุงเริ่มออกพาไปตรวจ หมอบอกดีใจด้วยเจ้าตัวนิ่งไปเลย
หากเพื่อนๆเองได้เคยเลี้ยงหรือเคยสัมผัสชีวิตแมวจรกันมาบ้างแล้ว ก็จะเข้าใจวัฏจักรของแมวจรดีซึ่งหากเป็นแมวตัวผู้ก็จะใช้ชีวิตเร่เตร่ไปเรื่อยๆเมื่อได้เวลาติดสัตว์ แต่ถ้าเป็นแมวตัวเมียแล้วแม้ยังเล็กเพิ่งจะเป็นสาวก็จะท้องได้
เพราะชีวิตที่เลือกเกิดมาไม่ได้และไม่มีผู้เป็นเจ้าของมาคอยดูแล เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Mirantri Soodmee ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวที่มีชื่อว่าเจ้า ภูเก็ต ด้วยน้องเป็นแมวจรที่เขาได้ไปพบน้องเข้าจากการที่เธอได้ไปเที่ยวที่ภูเก็ต
และเห็นความน่าสงสารและเกิดถูกชะตาด้วยน้องก็หากินเร่ร่อนอยู่ในโรงแรมที่เธอได้ไปพัก ถูกชะตามากจึงคิดว่าจำทำเช่นไรให้ได้รับมาเลี้ยง เธอจึงได้ให้พนักงานที่โรงแรมช่วยกันน้องเอาไว้ เพราะด้วยความปลอดภัยและกลัวว่าถ้าถึงวันที่เธอจะไปรับ
แล้วจะจับน้องไม่ได้แต่พนักงานก็รีบตะคลุบน้องเอาไว้ด้วยความเป็นห่วงจึงเกิดการที่ทำให้น้องตัวเลอะเพราะต้องขับถ่ายอยู่ในกรงแคบๆ จึงต้องเลื่อนวันที่จะต้องส่งตัวขึ้นมาให้เธอออกไปเป็นช่วงเย็นแต่ทว่าเมื่อได้เวลาที่จะต้องนำตัวน้องไปหาหมอ
เพื่อที่จะนำตัวขึ้นมาให้กับเธอคุณหมอก็ได้ทำการตรวจอย่างละเอียดและได้บอกกับทางเพื่อนของเธอที่ไปทำเรื่องให้ว่ายินดีด้วยนะครับ น้องกำลังมีน้องซึ่งส่วนของเจ้าตัวเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองกำลังตั้งท้องก็ได้ตกใจและแน่นิ่งไปเลย แต่เธอก็ยังจะรับน้องมาเลี้ยงเพิ่มแม้ว่าที่บ้านของเธอจะมีแมวอยู่แล้วเป็น 10 ตัวเพราะถูกชะตากับน้องและก็ไม่ได้คิดไว้ว่าน้องจะท้องซึ่งน้องเป็นแมวพันธุ์ผสมบิริติสช็อตแฮร์ละตัวคุณหมอก็ยังได้บอกไว้ว่าลูกของน้องน่าจะมาในทางแม่เพราะมีสายพันธุ์ที่ดีกว่า
ที่มา Mirantri Soodmee
กลายเป็นดราม่าประเด็นร้อน หลังแมวพันธุ์ถูกคนเขานำไปเทไว้ในป่าเพราะกลัวว่าน้องจะดุ
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Suphaksana Vavichanee ได้เผยเรื่องราวหลังของเธอนั้นถูกคนของมูลนิธิจับตัวน้องไป แล้วเอาไปเทไว้ในป่า คุณฟังไม่ผิดหรอกครับในป่ารก โดยที่น้องแมวตัวนี้เป็นแมวสายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์
.
โดยเรื่องนี้สรุปคร่าวๆได้ว่า สงสารเจ้าของแมวมากค่ะ แมวตัวแค่นี้จะไปฟัดใครเขาอีกอย่างเป็นแมวเลี้ยงไม่ใช่แมวจรมันคงไม่ดุขนาดนั้นหรอกมั้ง น้องไม่ใช่เสือนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าแมวตัวนี้ได้หลุดออกจากบ้านไป ในตอนที่เจ้าของบ้านเขาไม่อยู่บ้าน
คนข้างบ้านเค้าจึงโทรแจ้งมูลนิธิว่ามีแมวหลุดออกมากลัวจะไปฟัดเค้า มูลนิธิเลยจับแมวไปเทไว้ในป่า แทนที่เค้าจะลงโพสหาเจ้าของหรือไม่ก็เอาแมวไส่กรงเพื่อรอเจ้าของเขากลับมารับ แต่เค้ากลับเอาน้องไปเทในป่า สงสารเจ้าของแมวสุดๆเลยค่ะ
ทางเจ้าของก็ออกตามหาอยู่ในป่าจนมืดค่ำ แต่หายังไงก็หาไม่เจอ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนเรื่องราวดังกล่าวกลายมาเป็นดราม่า...
ความบังเอิญที่มีอยู่จริง เรื่องจริงของแมวพ่อลูกที่ไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nithirut X Lertpanyakulhiran ได้เผยเรื่องราวความบังเอิญที่ไม่มีในโลก โดยเจ้าเหมียวทั้งสองชีวิตนี้ถูกคนเขานำมาเทไว้ในตอนที่น้องอายุเพียง 2 เดือน ทั้งสองตัวถูกคนนำมาเทไว้ในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกันออกไป จนกระทั่ง....
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ไม่มีเรื่องบังเอิญอยู่บนโลกใบนี้ แมวจรหนึ่งตัวเจอตอนประมาณ2เดือน ในตัวเมืองระยอง ผมจึงหอบหิวน้องมาอยู่ด้วยกัน อายุรวมที่อยู่ด้วยกันก็ 1 ปี กับอีก 9 เดือน นางชื่อพี่เสือ 20/10/2020
ส่วนน้องแมวอีกหนึ่งตัวถูกคนเข้านำมาเทไว้เช่นเดียวกัน โดยน้องนั้นได้หนีเข้ามาอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวข้างๆ...
เมื่อเจ้าของหมดรักเพราะแมวมีดราม่า รีบเข้าไปถอดปลอกคอแล้วปล่อยเทให้กลายเป็นจร
เมื่อไม่นานมานี้แฟนเพจเฟสบุ๊ก : แปลงกาย ได้เผยเรื่องราวของน้องแมวตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวที่เคยมีเจ้าของแต่ปัจจุบันต้องกลายเป็นแมวจรและอยู่อย่างโดดเดี่ยว เหตุที่ถูกคนเขานำมาเทไว้พร้อมถอดปลอกคอออกก็คือน้องแค่ติดสัด
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า สวัสดีครับผมเป็นแมวเพศผู้ เป็นแมวพันธุ์ผสมต่างประเทศ(คุณหมอบอก) ตอนนี้ตัวผมหนัก6กิโล ยังไม่ได้ทำหมัน ถ้าทำหมันแล้วผมจะตัวใหญ่กว่านี้มาก ผมมีเหนียงหน้าตาน่ารักอ้วนตุ๊บตับ ผมแข็งแรงไม่มีโรคภัย
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดเจ้าของเก่าเขาถึงไม่รักผมอีกแล้ว ทันทีทันใดที่มีดราม่าเกิดขึ้นในหมู่บ้าน เพียงเพราะผมซนนิดหน่อยตามสัญชาตญาณและภาวะติดสัด(เจ้าของไม่ยอมพาไปทำหมัน) เขาจึงถอดปลอกคอของผมออกแล้วเทผมให้กลายเป็นแมวจร
ผมอยากได้บ้านที่พร้อมจะเลี้ยงดูเหมือนกับลูกและไม่เทผมตลอดทั้งชีวิต น้องเชื่องมากแค่ติดสัด จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ฝากถึงคนที่รักน้องตอนเล็กๆแต่พอน้องโตไม่ชอบน้องไม่รักน้องคุณอย่าเลี้ยงค่ะถ้าเลี้ยงต้องรับนิสัยของเขาได้ต้องศึกษาลายเขาให้ละเอียดเพราะแต่ละลายแต่ละพันธุ์นิสัยไม่เหมือนกัน
ที่มา แปลงกาย