เดินด้อมๆเข้ามามองผ่านประตูเหมือนต้องการบางอย่าง ส่งสายตาอ้อนวอนโปรดรับหนูไปเลี้ยงที

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊ก : ท่านหนึ่งในประเทศเกาหลีใต้ ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับแมวจรตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวจรตัวอ้วนที่เธอนั้นเคยเล่นด้วย และวันนี้เองจู่ๆน้องก็เดินเข้ามาหาและสอดส่องสายตาเข้ามาทางประตูเหมือนกับต้องการอะไรบางอย่าง . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า น้องเป็นแมวจรเดินมาหาเพื่อตามหาฉัน ในตาของน้องดูเศร้ามากเหมือนกับต้องการอะไรบางอย่างและดูเหมือนน้องแมวตัวนี้กำลังหิว เหมือนกับน้องต้องการให้ช่วยน้องทีเพราะน้องเองไม่เหลือใครแล้วจริงๆ ด้วยตนเองเป็นแค่จร น้องแมวเองก็มองไปรอบกายก็ไร้ให้ใครให้พึ่งพิง แต่ตัวเธอเองก็รู้สึกผิดที่ช้าเกินไปเพราะเธอเองก็กำลังจะไปซื้ออาหารแมวมาให้น้องกิน แต่น้องก็ด่วนรีบเดินจากไปเสียก่อน แต่เธอสัญญานะเธอเจอน้องอีกครั้งอาหารที่เตรียมไว้ให้จะเอาไว้ให้เธอเพียงผู้เดียว จนเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ของประเทศเกาหลี แต่ถ้่าดูดีๆดูสภาพของน้องแล้วน้องคงมีคนให้อาหารบ้างแหละหนา เพราะตัวก็ไม่ใช่น้อยๆเลยออกจะอ้วนเลยด้วยซ้ำ ถ้าน้องมาอยู่เมืองไทยแอดเชื่อได้เลยว่าน้องจะมีบ้านเหมือนกับคนอื่นเขาได้อย่างแน่นอน เพราะทาสแมวบ้านเราละชอบมากๆเลยแมวจรสวยๆแบบนี้อะน้าา ขอขอบคุณเจ้าของโพสต์ด้วยนะครับ

เห็นขลุกอยู่แต่ในห้องไม่ยอมออกไปไหน เลยหามาให้หวังแม่ประทังหิว

เพราะความเป็นแมวในตัวมีจึงและก็มีด้วยไม่คิดเมื่อได้ทำแล้วมีสนิทไม่คิดหน้าหลังใดๆ ด้วยความเป็นแมวจึงมีความคิดมีคติประจำตัวไป แม้เฝ้าเลี้ยงดูมาแต่ไกลๆก็คิดไม่ตามไม่ทันว่าเขาคิดอะไรอยู่ หรือเพราะรักด้วยความเป็นห่วงเห็นแม่ท้วงไม่ออกไปไหน จึงเฝ้าหามาด้วยความจริงใจอยากให้แม่ได้อิ่มและสุขสบาย เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า กอ.ไก่ ขันปลุก ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวของเขา ด้วยเมื่อน้องเห็นว่าแม่ของตัวไม่ยอมออกจากบ้าน จึงพยายามหาอาหารมาให้ประทังความหิวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยและรักแม่ แต่แม้ว่าเธอก็ไม่ได้ต้องการอาหาร เพราะแมวจะคิดเสมอว่ามนุษย์เป้นสัตว์อ่อนแอ และหากินเองไม่ได้ผลออกมาเลยชอบคาบอาหารมาให้ตลอดเธอก็เหนื่อยใจไปกับน้องในแต่ละวันเพราะต้องลุ้นว่าพรุ่งนี้จะกี่วันจะมีอะไรมาให้แม่อีก แม้แต่จะพยายามบอกหลายครั้งหลายหน แต่น้องก็จะเอามาให้กับเธอด้วยความเป็นห่วงเสมอ เพราะแมวเขาจะคิดไม่เหมือนกับมนุษย์เราและมองว่าเราไม่สามารถจะหาอาหารประทังชีวิตด้วยตัวเองได้แม้แต่เราก็หาให้พวกเขากินเช้าเย็น ก็ยังไม่เข้าใจว่าคิดอะไรกันอยู่แน่หรืออยากจะแกล้งแม่เล่นๆ เธอจึงมาโพสต์ลงยังกลุ่ม ทาสแมว และบอกความรู้สึกว่าเหนื่อยใจแน่แต่ละวันเพราะนอกจากจะได้ความรักและรอยยิ้มก็ต้องมาคอยดูว่าพรุ่งนี้จะเป็นตัวอะไรต่อ ซึ่งหากเลี้ยงดูแล้วก็อย่าลืมสอนแต่เล็กๆพวกเขาจะได้เข้าใจว่ามนุษย์เราหากินเองเป็น ที่มา กอ.ไก่ ขันปลุก

ส่งเสียงร้องดังสนั่นจนต้องรีบวิ่งออกมาดู พบแมวคลานไปกับพื้นพร้อมส่งสายตาเศร้ากับชีวิตที่สิ้นหวังไร้คนช่วย

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : วชิรา เลียบทวี ได้เผยเรื่องราวแมวตัวแรกในชีวิต โดยเขานั้นได้พบเจอน้องแมวลายสลิดตนนี้เข้าด้วยสภาพที่ตัวน้องนั้นกำลังคลานไปกับพื้น เขาจึงตัดสินใจพาน้องไปรักษาเพราะถ้าไม่ช่วยไว้น้องคงไม่รอดแน่ๆ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า แมวตัวแรกในชีวิตของผม วันนี้ก็ครบรอบ3ปีแล้วที่ผมได้เจอน้องเลม่อน ย้อนไปเมื่อ3ปีก่อน ผมทำงานที่เต้นท์ขายรถมือสองแห่งหนึ่งย่านเกษตรตัดใหม่ ผมได้พบเจอแมวลายสลิดตัวนึงวิ่งอยู่ในเต้นท์อยู่หลายวันแล้ว จนมาวันนึงผมได้ยินเสียงแมวร้องดังลั่นออกมา เห็นน้องนอนอยู่จึงนึกว่าน้องคงหิว เราเอาอาหารเปียกไปให้น้องกิน แต่น้องกลับไม่กินจนสังเกตว่าน้องนอนไม่ปกติ แล้วพยามลากขาไปกับพื้นแล้วก็ส่งเสียงร้องดังออกมา ผมสังเกตขาหลังของน้องผิดปกติ จึงนำใส่ลังที่สำหรับใส่แบตเตอรี่รถยนต์ แล้วพาน้องไปโรงพยาบาลสัตว์เกษตรที่อยู่ใกล้ๆ พอนำน้องไปถึงโรงบาลเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าแมวชื่ออะไร เอาหล่ะสิ ก็เลยนึกชื่อไปว่าเลม่อนก็แล้วกัน หมอเอกซเรย์ออกมาปรากฎว่า ขาหลังน้องหักทั้ง2ข้างคาดว่าเจ้าหน้าที่ในเต้นท์คงจะถอยรถไปโดนเข้า ถามเรื่องรักษาหมอบอกประมาณ...

โมโหจนหูร้อนหลังแมวสุดที่รักถูกหนังยางรัดขาจนบวมเป่ง โดยฝีมือลูกหัวแก้วหัวแหวนภายในบ้านของตัวเอง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : ชัชชญา ขยันการ ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอได้เลี้ยงเอาไว้ โดยแมวของเธอถูกหนังยางมารัดขาจนบวมเป่ง ฝีมือก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนะ นั่นก็คือลูกของตัวเธอเองที่ทำไปโดยไม่ได้คิดให้ดีก่อน . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า โมโหจนหูร้อนกันเลยทีเดียว ลูกเราเอาหนังยางมารัดขาน้องแมวที่เลี้ยงเอาไว้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เลย เราเพึ่งจะเห็นว่าขาน้องบวม เราไม่ทันได้สังเกตเห็นยางเพราะขนแมวมันบัง ณ ตอนนี้ตีนบวมมากใจเต้นรัวๆเลย เราควรเอาลูกไปปล่อยวัดเลยใช่ไหม จนเธอนั้นรู้สึกโมโหลูกของเธอเป็นอย่างมาก แต่ที่บอกจะเอาไปเทไว้ที่วัดอันนี้เธอแค่ประชดนะ แต่ขาน้องก็บวมจริงๆนั่นแหละหนา ถ้าหากมาเห็นช้ากว่านี้คงไม่ดีแน่ๆ แต่ของแบบนี้ก็ต้องสอนกันแหละเนอะ เธอเองก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นอีก หากบ้านไหนเลี้ยงลูกที่ยังเล็กๆเราก็ควรสอดส่องดูแลทั้งคนทั้งแมวเนอะ ยิ่งหนังยางตัวดีถ้าเก็บได้ควรเก็บเลย เพราะเด็กเขาก็ทำไปโดยไม่ได้คิดหน้าคิดหลัง พอโตขึ้นน้องก็จะค่อยๆคิดได้กันเองไป...

เห็นช่างมาติดแอร์ตามหาลูกทั่วบ้านไม่เจอ เดินมาเจ๋อนอนเอาผ้าม่านปิดจะได้ไม่เห็นช่าง

ด้วยนิสัยลักษณะของแมวเองก็ทำให้มนุษย์อย่างเราไม่ค่อยจะเข้าใจ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ถึงได้ทำ ซึ่งหากได้เลี้ยงดูหรือเคยสัมผัสมาก็จะหาคำอธิบายไม่ได้ แม้แต่ความฉลาดของพวกเขาได้แสดงออกมาให้พวกเราเห็นแต่พวกเขาก็ทำให้เรายิ้มได้เสมอ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tack Hongsala ได้โพสต์เรื่องราวเจ้าเหมียวตัวส้มแมวของเขาเอง ซึ่งเขาก็ได้เลี้ยงดูน้องมาแต่ยังเล็กและด้วยนิสัยกลัวของเขาก็เป็นเรื่องราวทำให้ยิ้ม เมื่อช่างแอร์ได้มาติดแอร์ยังคอนโดของเขาและน้องก็ถูกเลี้ยงดูมาในบ้านไม่เคยได้ออกไปไหน ทำให้มีความกลัวคนสูงและเมื่อเจอกับช่างแอร์น้องจึงกลัวและตกใจเข้าไปแอบไว้เขาก็หาทั่วบ้านแล้วก็ไม่เจอ แต่พอเขาก็ได้เห็นผ้าม่านขยับจึงได้ลองมองดูและเห็นว่าน้องแมวของตัวมาแอบหลบช่างอยู่ในผ้าม่าน ซึ่งเมื่อเป็นคอนโดจะมีพื้นที่ไม่มาก ทำให้น้องไม่สามารถหนีหรือหลบไปจากความกลัวของตัวเองได้ จึงต้องหาจุดปลอดภัยสำหรับตัวเองให้หายกลัวเลยเอาผ้าม่านบังหัวตัวเองไว้ไม่ให้เห็นช่างแอร์จะได้ไม่กลัวต่อไป เขาจึงได้มาโพสต์ลงยังกลุ่ม ชมรมแมวสายดาร์ก เพราะความเป็นเด็กของเจ้าส้มเอง ด้วยเมื่อเรายังเด็กถ้ากลัวแล้วไม่รู้ว่าจะหลบหรือแอบจุดใดก็คงจะต้องหลับตาน้องเองก็เลยไปหลบเอาหลังม่านให้บังจากสายตาจะได้ไม่กลัว ซึ่งตัวของเขาเองก็สงสารน้องเพราะจากการอยู่แต่ในห้องไม่เคยพาไปข้างนอกบ้านเลยเห็นคนแล้วก็เลยมีการตื่นกลัว ที่มา Tack Hongsala

ถูกเขาเทนำมาไว้ไร้ใครต้องการ สู่อกแม่แม้ตัวหารแต่จะรักเลี้ยงดูเป็นอย่างดี

ด้วยชีวิตยากไร้ต้องทนทุกข์ไม่มีสุขเกิดเป็นจรเหมือนใครเขา ต้องลำบากอดทนต่อให้ผ่านพ้นไป แต่หากเคยมีบ้านอยู่มีคนรักเฝ้าเลี้ยงดูมายามไม่หาเขานำมาเทไว้ไร้จิตสำนึก แต่ต้องทนนอนตากยุงด้วยตัวไร้พูดไม่ได้จะไปร้องเรียกบอกใครเขาให้ช่วยใครจะฟังตัว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า มาลินี สังเวียนวงศ์ ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวน้อยหลังเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ได้มีคนนำน้องมาใส่ตระกร้าสีชมพูอ่อนมาวางไว้ตรงข้างถังขยะ ซึ่งเขาก็เห็นว่าเป็นตระกร้าจึงได้เดินไปหาและเปิดออกดู พบเป็นน้องแมวตัวน้อยลายสลิดสีขาวครึ่งนอนนิ่งตึงมีผ้าใส่ไว้ให้กันหนาวตัวคงยังไม่รู้ว่าตนถูกเขาเทแล้ว เขาจึงได้เอามาช่วยเหลือดูแลเอาไว้ก่อนเพื่อจะทำการหาบ้านให้น้องต่อ แต่ทว่าเขาก็ได้อัพเดทว่าครบ 7 วันอยู่ด้วยกันมาชื่อน้อง Lotto และเขาเองก็เลือกจะรับน้องเอาไว้ดูแลเข้าสู่ครอบครัวเป็นแมวงอกตัว 101 ด้วยเธอเองก็เลี้ยงแมวอยู่แล้วจึงได้เห็นความน่ารักน่าเอ็นดูของน้องเลยรับเลี้ยงเอาไว้เองและจะดูแลน้องเป็นอย่างดีชดเชยให้น้องจากคนเลี้ยงเดิม โดยเรื่องราวเกิดขึ้นในจัวหวัดนครนายก และตัวน้องก็คงจะถูกเจ้าของเก่าเทด้วยเหตุผลแต่ก็คงจะรักน้องเช่นกันเพราะจากการนำมาวางไว้พร้อมตระกร้ายังมีผ้าใส่มาให้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยน้องเองก็คงจะคิดถึงเจ้าของเก่าไม่แพ้ใคร แต่เธอก็บอกไว้ว่าจะดูแลให้น้องเติบโตเป็นอย่างดี ที่มา มาลินี สังเวียนวงศ์

จากก่อนรักแม่ก็เฝ้าเลี้ยงดูมาคอยถนอม ยามบานจากผอมๆกายร่างเป็นหมู

เมื่อยามเด็กแม่ก็เฝ้าดูเจ้าคอยถนอมให้เติบโตโอ๋ตัวหนอแม่เป็นห่วงกลัวลูกจะอดหนา ยามไม่กินแม่ก็ห่วงเป็นห่วงทุกข์อุรายามตัวหนาแม่ก็ตรอมด้วยเสียใจเอง จากคืนวันผ่านพ้นเจ้าตัวเล็กยามเป็นเด็กตัวนิดนึงคนึงร้องหาแม่เสมอ แต่เติบโตแล้วแค่เรียกชื่อยังไม่เคยหัน ด้วยถ้าหากได้เลี้ยงแมวแล้วก็จะเข้าใจเมื่อพวกเขาได้เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ก็จะมีความเป็นตัวเองไม่ค่อยจะสนใจทาสแล้วเหมือนตอนยังเล็กหรือเป็นเด็ก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ฉัน มาทำอะไร ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวกำไรแมวของเขา ซึ่งด้วยความเปลี่ยนไปของน้องกำไรเองก็ทำให้แม่ท้อใจนิดหน่อย จากก่อนเคยเเป็นลูกสาวตัวเล็กตัวน้อยมาเป็นหมูตัวใหญ่เพราะกลายร่างเอง ด้วยเมื่อ่กอนเธอก็ได้นำน้องมาเลี้ยงดูแต่ยังเด็กด้วยความรักความเอาใจใส่ของผู้เป็นแม่มีให้กับตัวลูกน้อย ลูกก็ค่อยๆจะเติบใหญ่เกินตัวแม่จะอุ้มไหวและหน้าก็เปลี่ยนเป็นเหวี่ยงแรงเกินเบอร์ไป แม่เสียใจลูกรักไม่ใยดีเหมือนเคยมา ด้วยอุส่าเฝ้าเลี้ยงรักถนอมจิตไม่เคยคิดลูกจะไร้รักเมื่อโตแล้วไม่เข้าหา แม่ก็หมดค่าข้าวลูกไปต่างนาๆ ลูกไม่หาเรียกไม่มาเหมือนเคยเป็น ซึ่งหากเลี้ยงก็บอกไว้ให้ช่วยคิดใครมีสิทธิ์เป็นนายเป็นบ่าวให้รู้หา จากเป็นลูกเป็นแม่เรียกแล้วไร้ไม่เคยมายามต้องหาเรียกปากท้องนอนอ้วนผ่านพ้นวัน แต่ก็ยังรักเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนจากวันเคียงอยู่คู่เสมอมาก่อนเข้านอนก็ยังกอดแม้จะรู้ตัวว่าลูกตนได้เปลี่ยนไป ที่มา ฉัน มาทำอะไร

ไม่เสียดายเวลาเลยกับหนึ่งปีที่ตามหา หลังแมวหายไปกว่า1ปีกับชีวิตนี้ที่ยังไงเราก็ต้องได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Nuna Kaa ได้เผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวที่เธอนั้นได้เลี้ยงเอาไว้ โดยเธอนั้นได้เล่าประสบการณ์ตามหาแมวหายกว่า 1 ปี และเธอเองก็ไม่มีวันท้อด้วยว่าสักวันเธอคงได้แมวกลับคืนมา และในวันนั้นก็มาถึงจนได้ . โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราอยากเล่าประสบการณ์ที่เคยโพสต์ตามหาแมวหายเมื่อ กันยายน ปี 2562 เราได้โพสต์ไว้ที่หลายๆเพจ โพสต์เป็นระยะๆไปมีความหวังว่าจะได้น้องกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง เราไม่เคยหมดความหวังเลย เห็นโพสต์ที่ไหนสงสัยว่าเหมือนหรือว่าใช่ เราก็ตามไปดูทุกที่ผิดหวังซ้ำๆหลายๆที่แต่ก็ไปให้สุด ผลสุดท้ายวันที่รอคอยก็มาถึง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านไป 1 ปีกับอีก 2 เดือน...

เฝ้าเดินตามหาแมวดึกๆดื่นๆ ด้วยกลัวว่าจะอยู่นอกบ้านและหนาวท้ายคนเดินมาเป็นแทน

เพราะแมวเองก็เป็นสัตว์ไม่ค่อยจะสนใจโลกด้วยหากว่าแม้ผู้เป็นเจ้าของเองจะเรียกแหกปากแม้ชาวบ้านตื่นไปสามบ้านเจ็ดบ้านน้องก็ไม่ออกมาหรือส่งเสียงร้อง เพราะด้วยตัวของพวกเขาคิดว่าตัวเองเป็นนายและไม่ค่อยจะสนใจทาสอย่างเราทำให้เกิดเรื่องราว เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Panurak Tangsurakunchi ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเขาเองได้หาน้องแมวของตัวไม่พบและด้วยความเป็นทาสเองก็เป็นห่วงน้องกลัวว่าถ้าหลุดออกไปอยู่นอกบ้านและต้องนอนนอกบ้านแล้วก็คงจะหนาวแน่ เพราะสภาพอาการช่วงผ่านมาเข้าหน้าหนาวแล้ว จึงพยายามจะเดินตามหาแม้จะหาอย่างไรก็ไม่พบทูนหัวของตัวเลย แต่ทว่าเขาก็มาหยุดอยู่ดูถุงกระดาษเมื่อถุงกระดาษใบเดิมมาอยู่ตรงกลางบ้าน เพราะปกติแล้วเขาก็จะเก็บเป็นไว้เรียบร้อยแต่น้องแมวก็จะเอามาเล่นเสมอจึงไม่ได้แพรกใจอะไร จึงพยายามเดินเรียกหาเจ้าเหมียวต่อด้วยใจเป็นห่วงและคำนึง แต่เมื่อเวลาได้ผ่านไปสักพักตัวเองก็กำลังจะไปนอนเพราะคิดว่าน้องคงจะไม่กลับมาบ้านแล้ว เขาก็จึงเดินไปปิดไฟและก็ได้เห็นสายตาอันคลุนเคืองเหมือนโกรธใครมาเหล่ตามามองเขา เขาจึงได้เห็นว่าเจ้าเหมียวทูนหัวของเขาได้เข้าไปบรรทมลงในถุงกระดาษเอง ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็มาบอกกันว่าเรียกแล้วไม่ส่งเสียงด้วยใช่ป่าวและทางเจ้าของโพสต์ก็ได้มาบอกไว้ว่า เงียบกริบ จึงอยากจะให้ดูและพวกเขาให้ดีๆนอกจากจะเป็นนายของมนุษย์แล้วยังเป็นเจ้ากรรมนายเวรด้วย ที่มา Panurak Tangsurakunchi

นอนนิ่งใต้ลิ้นชักไม่ขยับ เมื่อทาสจับมาแอบเข้ามาเรียนด้วยบอกเดี๋ยวครูรู้

เพราะแมวก็จะมีความเป็นตัวเองอยู่ในตัวและเมื่อว่าเราจะพูดหรือบอกเขาให้ทำตามเหมือนกับสุนัขก็คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ก็จะมีแมวอยู่บางตัวเองซึ่งไม่เหมือนกับแมวตัวอื่นๆเพราะพวกเขาจะเลือกทำตามทาสด้วยใจรัก แต่ทว่าการเลี้ยงดูและเตรียมความพร้อมก็เป็นเรื่องสำคัญ เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งในประเทศจีนได้นำเรื่องราวของเขามาลงยังโลกออนไลน์เมื่อแมวตัวอ้วนของเขาพยายามจะซ่อนตัวเพื่อไม่ให้ถูกจับได้โดยคุณครูผู้สอน หลังจากเจ้าของแมวเองได้แอบอุ้มเจ้าเหมียวตัวกลมเข้าไปด้วยในชั้นเรียน ซึ่งเรื่องราวได้เกิดขึ้นในประเทษจีน และเราก็จะได้เห็นแมวพันธุ์มันช์กิ้นแคทวัย 1 ขวบตัวหนึ่งกำลังนอนนิ่งอยู่ใต้ลิ้นชักโต๊ะด้วยสีหน้าเป็นกังวลเพราะกลัวอารจารย์ผู้สอนจะจับได้ว่าตัวแอบอยู่ใต้ลิ้นชัก ซึ่งด้วยทางเจ้าของก็ได้บอกกับน้องไว้ว่าให้เงียบๆและอย่าซนเพราะจะถูกจับได้ Ms Wen นักศึกษาของมหาวิทยาลัยและเจ้าของแมวตัวกลมเตี้ยได้บอกว่า "เขาเงอจำเป็นต้องพาน้องแมวมาเรียนด้วยเพราะเจ้าเหมียวไม่ยอมให้เขาออกจากบ้านหากไม่พาตัวน้องไปด้วย" จึงต้องพากันมาแอบใต้ลิ้นชักโต๊ะอย่างได้เห็น และเขายังบอกว่าน้องแมวของเขาชื่อว่า Ba Dun โดยวันเกิดเรื่องคือวันศุกร์สัปดาห์ได้ผ่านมาเมื่อเธอกำลังเตรียมตัวไปเรียนอยู่ๆเจ้าเหมียวก็เข้ามาคลอเคลีย ในจังหวะเธอกำลังจะก้าวขาออกจากบ้านเจ้าเหมียว Ba Dun ก็ใช้มือสอง 2 โอบกอดขาเธอไว้พร้อมกับทำหน้าเศร้าใจเหมือนไม่อยากให้เธอไปเรียนเธอเองก็ไม่สามารถจะขาดเรียนวิชาได้และก็ไม่อยากจะให้น้องอยู่ลำพังจึงต้องแอบเอามา ที่มา dailymail