เห็นนั่งเบาะหลังซ้อนท้ายหมวกไม่ใส่ ตัวไฉงมีตุ๊กตาห้อยอยู่ในกระเป๋า
ด้วยถ้าย้อนไปในวัยเรายังเป็นเด็กเราก็จะมีของติดตัวและชอบเอาไปไหนมาด้วยเสมอ ซึ่งสุนัขเองก็เหมือนกับเด็กเพราะพวกเขาจะมีความฉลาดเท่ากับเด็กสองขวบ จึงมักจะมีตุ๊กตาติดตัวและพบไปไหนด้วยเสมอแม้แต่ตอนเราเอาตุ๊กตาของพวกเขาไปซักพวกเขาก็จะนั่งเฝ้าอย่างใจจดใจจ่อ
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Jeab Nita ได้โพสต์เรื่องราวเมื่อเธอได้พบน้องสุนัขตัวนึงได้นั่งรถมอเตอร์ไซของของผู้เป็นเจ้าของด้วยใจจดใจจ่อไปยังตุ๊กตาซึ่งห้อยอยู่ในกระเป๋า ด้วยคิดว่าเจ้าของน่าจะนำมาเพื่อให้น้องยอมขึ้นรถและไปกับตัวด้วย
แต่น้องเองก็เก่งนั่งท้ายรถเกาะเบาะแน่ไม่ตก ซึ่งเพื่อนๆในกลุ่มเองก็แซวกันว่าน้องไม่ยอมใส่หมวกกันน็อคและก็เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยกับตัวน้องเอง แต่ทางเจ้าของเองก็น่าจะฝึกน้องนั่งมาอยู่เป็นประจำแล้วน้องจึงสามารถนั่งและทรงตัวได้เป็นอย่างดี
ซึ่งคิดว่าน่าจะพาน้องกลับบ้านกันในช่วงวันหยุดและเจ้าตูบเองก็คงจะไม่ยอมไปจึงต้องเอาตุ๊กตาไปก่อนน้องจึงยอมขึ้นรถไปด้วย แต่ยังไงก็ได้เห็นถึงความน่ารักของผู้เป็นเจ้าของและเจ้าตูบเองก็คงจะรักกันมากเพราะไม่งั้นก็คงจะเทเอาไว้ให้เฝ้าบ้านไปแล้ว
ซึ่งเธอจึงนำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังในกลุ่มและได้สร้างรอยยิ้มให้กับคนได้พบเห็น แต่อย่างไรก็ตามก็อยากจะฝากถึงทางผู้ได้เลี้ยงสัตว์ว่าแม้จะเห็นเป็นความเคยชินเพราะเคยทำมาแล้วแต่ก็อย่าไว้วางใจเพราะอาจจะเกิดขึ้นได้และเราจะต้องมานั่งเสียใจในตอนหลัง
ที่มา Jeab Nita
เห็นถูกเขาเอาน้ำสาด ตัวก็กวาดไปคว้ากอดปกป้องไว้ซ้ำถูกเขาทำเห็นแล้วช้ำใจ
เมื่อต้องเกิดมาเป็นจรด้วยไร้บ้านก็แย่แล้วจำต้องแคล้วเดินเร่หาอาหารประทังหิว ชีวิตยากไร้ไม่มีให้หลบแม้หลับนอนตัวยังสอนถูกเขาทำด้วยไร้ปราณี เห็นเป็นไร้ค่าไม่มีความหมายชีวิตเป็นหรือสิ้นใจไม่มีใครเขาจะมาสน เกิดมาเป็นจรมีทุกข์ไร้ให้อยู่ต้องจำทนไม่มีคนสนใจชีวิตจร
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นรินรัตน์ ฯ. ได้โพสต์เรื่องราวด้วยเขาได้พบน้องแมวจรเพศผู้ไม่ทราบอายุ ถูกคนใจร้ายเขาสาดน้ำใจจนตัวเปียกปอน ซ้ำยังถูกไล่ใช้เท้าฟาดจนเจ็บหูตัวไปเจอพอดีก็เลยเข้าไปกอดแมวเอาไว้ และคนทำก็มาตะโกนใส่ว่า "ถ้าปล่อยวุ่นวายเมื่อไหร่จะเอาให้สิ้นใจไปเลย"
เธอจึงเข้าช่วยเหลือน้องและปกป้องด้วยชีวิตเพราะมีสิทธิ์ด้วยเกิดมามีค่าเหมือนกัน และเธอก็ตั้งใจว่าจะเอาน้องไปอาบน้ำทำความสะอาดตัวแต่ก็จับน้องเอาไว้ไม่ทัน เพราะน้องก็คงจะตกใจแล้วก็กลัวคนเลยวิ่งหายไป แต่ก่อนหน้าเธอก็เคยเจอน้องน้องเป็นแมวชอบอ้อนมาก
ชอบเดินมาหามาใกล้แล้วปล่อยตัวลงนอน จึงอยากหาคนช่วยหรือว่าจะสามารถช่วยน้องได้ยังไงได้บ้าง ด้วยเธอเองก็อยู่หอและไม่สามารถจะรับน้องมาเลี้ยงเองได้ และเธอก็มีแมวอยู่แล้วและน้องแมวของเธอก็เข้ากับใครไม่ได้เลย ซึ่งพิกัดได้บอกไว้ เพชรเกษม 110 หนองแขม
กรุงเทพมหานคร ซึ่งหากใครอยู่ในระแวกและได้พบน้องก็อยากให้ช่วยเหลือเพราะน้องอาจจะโดนคนใจร้ายรังแกได้อีก เพราะเขาไม่ชอบแมวมากๆและทำกับน้องเหมือนน้องไม่ใช่สัตว์มีชีวิตหรือจิตใจเลย
ที่มา นรินรัตน์...
ใช้เสียงสุดท้ายที่มี รวบรวมกำลังเปร่งเสียงดังสนั่นหลังติดอยู่ในท่อทั้งๆที่ตายังไม่ทันลืม
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Jane Janjira ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับลูกแมวจรตัวน้อยที่ดูเหมือนน้องเองยังไม่ทันได้ลืมตาดูโลกเลย แต่ต้องเผชิญอยู่ในท่อระบายน้ำที่มีแต่เศษอาหารทั้งๆที่น้องเพิ่งเกิดมาได้ไม่นาน แต่แล้วก็...
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เรากำลังเดินไปยังที่จอดรถหลังร้านบุฟเฟ่ต์แห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเองเราได้ยินเสียงลูกแมวร้องออกมา นี่ก็เดินหาจนทั่วเลยนะ ด้วยความอยากเล่นกับน้องแมวด้วย แต่ก็หาอยู่ตั้งนาน เลยเดินตามเสียงน้องไปจนกระทั่ง...เจอน้องอยู่ในท่อระบายน้ำ
ไม่รู้ว่าตกลงไปได้ยังไง เราเองรีบเรียกพนักงานมาดูมาช่วยในทันที พนักงานเขารีบยกตะแกรงเหล็กออก ที่พีคอีก! ก็คือป้าคนล้างผักบอกได้ยินเสียงแมวร้องตั้งแต่เช้าแล้วแต่ไม่มีใครเห็น เราเห็นสภาพตอนแรกสงสารจับใจน้องคงหนาวมากแน่ๆเลย
แต่แกรอดแล้วนะต้าวเหมียวน้อยตัวอ๋วง! ปล.ป้าคนล้างผักเอาไปเลี้ยงแล้วนะคะ เชื่อแล้วว่าแมวมี...
ต้องทำทุกวันก่อนไปโรงเรียน เพราะตัวเป็นน้องและเติบโตมาร่วมกัน
ด้วยเด็กเล็กแล้วก็เหมือนผ้าขาวถ้าหากคอนสอนหรือบอกกับพวกเขาก็จะจดจำ ซึ่งถ้าเลี้ยงดูแลมาอยู่ร่วมกันทำให้ผูกพันปลูกฝังมาแต่เด็กเอ่ย เมื่อเห็นว่าตัวเติบโตมาเป็นน้องเพราะพี่มาอยู่ก่อนตัวก็มองเห็นว่าเขาเป็นพี่ของตัวไม่เหมือนอื่น ก่อนจะไปไหนมาไหนก็รักบอกเสมอ
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thanrada Numkaew ได้โพสต์เรื่องราวของลูกสาวของตัวเมื่อได้เห็นว่าน้องเริ่มแสดงอาการก่อนจะไปโรงเรียนในทุกวัน จะต้องมาสวัสดีแม่และคนในบ้านแต่ทว่าก่อนจะขึ้นรถไปส่งก็จะต้องแวะมาให้น้องแมวซึ่งเป็นแมวของแม่ของน้องเอง
ด้วยการได้เติบโตมาด้วยกันและเห็นว่าพวกเขาเป็นพี่ของตัวจึงมาสวัสดีน้องแมวและบอกลาว่าตัวจะไปโรงเรียนแล้วรีบกับเป็นประจำเลย และก็เคยมีเรื่องเกิดขึ้นเมื่อตัวแม่ของน้องได้ย้ายบ้านจากอุทกภัยได้เกิดในภาคใต้ ทำให้น้องแมวเพศเมียตัวนึงไม่ยอมกินข้าว
น่าจะเป็นเพราะแพรกบ้านด้วยย้ายหนีน้ำมา ซึ่งน้องก็รักแมวตัวไม่ยอมกินข้าวเหมือนกับพี่สาวแท้ๆของตัว น้องเข้าไปกอดพี่และร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจด้วยกลัวว่าพี่จะไม่สบายหรือเป็นอะไรไป จนเจ้าเหมียวได้หายดีและกลับมากินได้ปกติ
มนุดน้อยก็ได้ร้องไห้ออกมาอีกเพราะความเป็นห่วงและดีใจเมื่อพี่สาวของตัวได้หายจากอาการป่วย ซึ่งคุณแม่เองก็ได้บอกว่าน้องรักพี่สองแมวตัวเมียเหมือนกับพี่สาวแท้ๆ และพี่สองเองก็จะเป็นแมวชอบติดบ้านมากไม่ค่อยจะชอบออกไปไหนมาไหน ซึ่งอาการของพี่สองก็น่าจะมาจากการต้องย้ายบ้านเพื่อหนีน้ำ แต่ก็ต้องชื่นชมคุณแม่เองเมื่อได้เลี้ยงลูกมาได้มีจิตใจอ่อนโยนมาก
ที่มา Thanrada Numkaew
จำต้องฝากไว้กับพี่ให้ช่วยดู เมื่อตัวไม่อยู่ต้องไปฝึกงานและพี่ได้ส่งรูปมาให้
หากด้วยเมื่อได้เลี้ยงสัตว์แล้วเวลาพวกเราไม่อยู่บ้านหรือไม่ได้อยู่ใกล้พวกเขาเราก็จะเกิดความกังวลหรือความเป็นห่วงเป็นใยในฐานะเปรียบเสมือนแม่คนนึง เพราะความรักความดูแลเอาใจใส่คอยให้พวกเขาตลอด ทำให้เรานึกคิดไปว่าเวลาไม่ได้อยู่ใกล้แล้วใครจะมารักลูกเรามากกว่าตัวเอง
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Kaewkanda Manita ได้โพสต์เรื่องราวด้วยเธอจำต้องฝากน้องแมวของตัวเองเอาไว้กับพี่สาวและแม่ ซึ่งเมื่อต้องแยกจากเธอก็เกิดความเป็นห่วงน้องเพราะน้องเองก็ยังเล็กและยังไม่โต กลัวว่าจะไปเล่นซนจนเป็นเรื่องหรือเจ็บตัว
เพราะถ้าเธอได้อยู่บ้านเป็นปกติน้องก็จะอยู่ใกล้ๆเธอตลอดเวลาไม่ห่างกัน ด้วยหากถ้าเป็นเด็กแล้วก็จะยิ่งซนทำให้คนเป็นแม่ไม่สบายใจเวลาไม่ได้อยู่ในสายตา เธอจึงให้พี่สาวและแม่ของเธอถ่ายรูปมาให้หายเป็นห่วงว่าน้องเป็นเช่นไรบ้าง
และเมื่อพี่สาวได้ส่งรูปมาให้เธอดูว่าน้องอยู่สบายดีและมีสุขแต่ก็จะมีซนไปบ้างเลยต้องนำใส่ประเป๋าและปิดเอาไว้ เนื่องจากพี่สาวเองก็ยังต้องทำงานทำการ และน้องก็จะมากวนเธอตลอดภาพส่งมาให้ก็เลยจะออกมาน่ารักน่ากอดเหมือนในรูป
ที่มา Kaewkanda Manita
นึกว่าเป็นแมวจรมาเดินเร่เข้ามาหา แต่พอเห็นเจ้าของเป็นคุณตากลับจะยกแมวให้ขอให้รักน้องก็พอ
เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Muly Aki ได้เผยเรื่องราวหลังเธอนั้นได้พบเจอกับน้องแมวตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวสายพันธุ์ดูแล้วน่าจะหลงทางมา เธอจึงตัดสินใจว่าจะรับน้องมาเลี้ยงดีมั้ยแต่ผ่านไปไม่นานนักก็ได้พบเจอกับเจ้าของเป็นคุณตาท่านหนึ่ง และคุณตาได้กล่าวว่าถ้าจะเลี้ยงก็เอาไปเลยนะตายกให้ !
.
โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า เราได้พบเจอน้องแมวสายพันธุ์ตัวหนึ่ง น้องเป็นแมวมีเจ้าของแต่เลี้ยงแบบปล่อยเพราะเจ้าของเขาคือคุณตาและเด็กๆอีก 2 คนที่กำลังเรียน หนังสือ คุณตาได้บอกกับเธอว่าถ้าจะเอาไปเลี้ยงก็เอาไปเลยนะตายกให้ ขอให้รักน้องก็พอ
แต่เด็กๆอีกสองคนก็ดูรักแมวดี เราก็ไม่อยากจะแยกแมวกับเด็กๆออกจากกัน แต่อีกใจก็อยากได้แต่คงไม่ วันนี้แม่จะกลับกรุงเทพพอดีเลยไปถามเจ้าของแมวน้องแมวอยู่จังหวัดขอนแก่นคะ จนเรื่องราวของน้องถูกโพสต์ในโลกออนไลน์
ชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกล่าวว่า ไม่อยากให้รับน้องมาเลี้ยงเลยสงสารเด็กๆทั้งสองคน คุณตาก็พูดไปอย่างนั้นแหละแต่หัวใจของคุณตาก็คงรักแมวไม่น้อยเลยนะ จนสาวผู้โพสต์ได้มาอัพเดตเพิ่มเติมว่า
อัพเดทนะคะแม่กำลังจะเดินทางกลับมากรุงเทพค่ะไม่ได้รับน้องมาอยู่ด้วยกันนะคะ เพราะขอนแก่นกับกรุงเทพห่างไกลกันมาก...
ถูกเขานำใส่กรงล็อคประตูหนีไฟไม่ให้ออก ซ้ำตัวยังท้องเขาเอาพาราลดไข้คนให้กิน
ด้วยความรู้ตัวมีไม่มากจำมาจากพยายามหาคิดว่าช่วยได้ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีผลหรือเป็นภัยเพราะความรู้ไฉนเป็นห่วงพยายามรักษา แต่อาจคราชีวิตให้สิ้นใจเห็นเขาวิ่งไล่ตัวจำต้องหนี ด้วยชีวิตมีลูกในท้องต้องปกป้องเห็นว่าป่วยจึงนำขังน้ำตานองน้ำตาแม่นองเป็นห่วงลูกด้วยดวงใจ
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า แพรวขวัญ ชมภูหลง ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวสามสีหลังจากเขาพบน้องในตอนแรกมีเด็กวิ่งมาไล่น้องหนีไปพอมาน้องก็กลับมา แต่ป้าคนเดิมเอาไปเลี้ยงก็จับน้องมาใส่กรงแล้วขังเอาไว้ใต้บันไดหนีไฟซึ่งป้าได้บอกว่าน้องแมวป่วย
จึงนำน้องไปหาหมอรักษาด้วยน้องเองก็ท้องอยู่ เธอจึงบอกว่าจะเอาน้องมาอยู่ด้วยแต่เขาก็จับน้องใส่กรงไปแล้ว มารู้อีกวันตอนเขาเอายาแก้ไข้คนให้น้องกิน ซึ่งป้าเองก็เอากุญแจล็อกประตูบันไดหนีไฟไว้ สภาพของน้องแย่มากและเธอก็ไม่รู้ว่าจะช่วยน้องยังไง
จึงอยากหาใครอยู่แถวยงเจริญให้ช่วยน้อง ป้าเอากุญแจล็อกบันไดหนีไฟไปเลยทำให้ดูน้องไม่ได้เลย เพราะจากความไม่รู้ของคนเราและอยากจะช่วยรักษาให้น้องแมวน้องหมาได้หายจากอาการป่วย แต่ความจริงแล้วยาลดไข้ของคนเป็นของห้ามให้แมวหรือสุนัขกิน
ด้วยระบบในร่างกายของแมวและมนุษย์เราไม่เหมือนกันและยาพาราก็ถือเป็นภัยต่อสัตว์มากๆด้วย ซึ่งหากใครอยู่ในบริเวณก็อยากจะให้ช่วยน้องกับลูกในท้อง เพราะตัวผู้เป็นแม่อย่างน้องแมวเองก็คงจะเสียใจน้ำตาจึงไหลออกมาเพราะความเป็นห่วงลูกในท้องของตัวเอง
ที่มา แพรวขวัญ ชมภูหลง
จากก่อนนำมาเลี้ยงแม่เคยบอกไว้ ไม่ให้เอามายามมีแม่จ๋าตัวเปลี่ยนไร้แม้จะหลับนอน
หากด้วยเพื่อนๆเองก็คงจะเคยเจอเมื่อคิดอยากจะนำเสนอเอามาเลี้ยงไว้แก้เหงาหรืออยากได้ความรัก แต่คนเป็นแม่หรือคนเฒ่าคนแก่เองก็จะไม่ยอมให้นำมาเลี้ยง เพราะพวกเขาเองก็กลัวว่าถ้าเลี้ยงแล้วรักความผูกพันธุ์จะเกิดและเมื่อต้องจากกันก็จะต้องเสียใจตามมา
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Thamakorn Chantaruphan ได้โพสต์เรื่องราวหลังเขาได้ไปพบลูกของผู้เป็นแม่คนนึงเมื่อก่อนจะนำน้องหมาแมวมาเลี้ยง แม่เองเคยได้บอกไว้ว่าอย่าหามาเลี้ยงถ้าเอามาไม่ว่าจะหมาหรือแมวก็ไม่ต้องเอามาและหากเอามาก็จะให้เลี้ยงดูเอง
เพราะการต้องเลี้ยงสุนัขหรือแมวแล้วเมื่อเลี้ยงพวกเขาก็ต้องมีเวลาและต้องค่อยเอาใจใส่เหมือนกับเด็กต้องเติบโตและคอยสอนพวกเขาแม่จึงไม่อยากจะให้ลูกเอามาเพราะถึงเวลาตัวเองก็จะต้องเป็นคนดูแลด้วยความรับผิดชอบของตัวมีมากกว่าเด็กอยู่แล้ว
แต่ในภาพได้เห็นมันช่างต่างกันเพราะสภาพของแม่นอนอยู่บนเตียงและไร้ที่ให้ลูกนอนต่อ ด้วยเจ้าเหมียวและสุนัขอยู่บนเตียงในสภาพพร้อมนอนกันหมดแล้ว ซึ่งมาบางตัวเองก็ได้หลับไปแล้วเกือบจะกลิ้งตกเตียงไปแล้วเลยด้วย ซึ่งทางชาวเน็ตเองก็ต่างโฟกัสไปเจ้าตัวอ้วน
เพราะน้องหลับได้น่าจกพุงมากด้วยความกลมและอยู่ปลายเตียงเหมือนจะตกเพื่อนๆในกลุ่มก็กลัวน้องพงกตกลงไปพื้นจะแตก ยังมีเจ้าตัวอ้วนนอนแซกและเจ้าตูบตัวติดกับผู้เป็นแม่และก็คือแม่ผู้เคยบอกว่าอย่าหามาเลี้ยงจะไม่ดูแลให้หรอกนะ
ที่มา Thamakorn Chantaruphan
มาร้องขอไออุ่นให้มนุษย์ช่วยหา ตัวกำพร้าเป็นจรเดินสองพี่น้องไม่แยกจากกัน
ด้วยในสภาพอากาศเริ่มหนาวเย็นลูกแมวสองตัวได้เดินเข้าไปในเขตอุสาหกรรมในมอนทรีออลประเทศ แคนนาดา ลูกแมวถูกพบในสำนักงานเมื่อพนักงานบางคนกำลังมีงานปาร์ติ้กันอยู่ พนักงานเองก็พยายามจะเข้าใกล้ลูกแมว แต่ในไม่ช้าเจ้าเหมียวตัวน้อยก็หายเข้าไปในพุ่มไม้
และเมื่อเขาได้นำไก่มาจากงานหนึ่งในเจ้าเหมียวก็ปรากฏตัวขึ้นและก็เข้ามารับไก่และหายตัวไป ซึ่งก็ไม่ได้มีแม่แมวอยู่ใกล้ๆลูกแมวเลย ลูกแมวเหมือนจะต้องหาอาหารกินกันเองเพื่อจะดำรงชีวิตต่อท่ามกลางความหนาวเย็นของสภาพอากาส พนักงานเองก็รู้สึกว่าชีวิตของลูกแมวจะตกอยู่ในความเป็นภัย
เขาจึงพยายามจะติดต่อกับทางกลุ่มอุนรักษ์ในท้องถิ่นเพื่อจะช่วยเหลือ แต่ทว่าหลังจากใช้เวลาอยู่หลายวันในการช่วยเหลือเพราะจำตัวของพวกเขาไม่ได้ แต่ทางนาเดียเองก็ช่วยเหลือพวกเขาเอาไว้ได้สำเร็จเขาช่วยเหลือน้องแมวและยังตามหาแม่แมวได้เจอ
และนาเดียเองก็ได้พาน้องไปยังกลุ่มอนุรักษ์ในท้องถิ่นเพื่อนำตัวพวกเขาไปพักฟื้นและเมื่อลูกแวได้หย่านมแล้ว นาเดียก็จะพาแม่แมวรับการทำหมันและย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านปลอดภัย ส่วนลูกแมวเองทางศูนย์พักพิง Chaton orfranc montreal ก็ได้เสนอให้การช่วยเหลือเด็กๆ
ลูกแมว 2 ตัวมีท่าทางกลัวผู้คนมากแต่ก็เป็นภาพน่าจดจำเพราะพวกเขาจะคอยปกป้องกันและกันเสมอ แม้ไม่ยอมอยู่ห่างกันแม้แต่เพียงวินาทีเดียวเลย นาเดียได้เตรียมห้องอบอุ่นและเงียบสงบให้กับเด็กๆหลังจากย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพวกน้องๆก็มีท่าทางผ่อนคลายลงเห็นได้ชัด พวกเด็กๆกินอาหารหมดชามและนอนลงบนเตียงนุ่มๆ และทางศูนย์พักพิงก็ได้ตั้งชื่อให้กับเด็กๆว่า Masala และ...
ค่าตัว 7 หลักหลุดหายไปจากบ้าน แม่ก็ยังเฝ้าตามหามานานแม้กลัวลูกจะถูกกู้ภัยปล่อยป่า
ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดหากเมื่อได้เลี้ยงและใส่ใจก็จะรักด้วยผูกพันด้วยเมื่อเวลาเราเลี้ยงพวกเขาแล้วเราก็เปรียบเสมือนกับผู้เป็นแม่ด้วยยากแท้ยามลูกหนีหายไปจากบ้านแม่ก็นอนไม่หลับกินไม่ได้ ซึ่งถ้าเราตั้งใจนำพวกเขามาเลี้ยงและพวกเขาเองก็มีมูลค่าสูงแล้วด้วย
เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Aliona Lissone ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าเหมียวแมวพันธุ์ซาวันน่าห์ ด้วยน้องเป็นแมวลูกผสมระหว่างแมววิเชียรมาศและแมวเซอร์วอลและถือกำหนิดขึ้นเป็นแมวพันธุ์ซาวันน่าห์ในปี 1986 และได้มีการเทียบมูลค่าของค่าตัวน้องในราคา 50,000 เหรียณสหัรฐ
หรือประมาณ 1,511,000 บาทไทย ด้วยทางผู้เป็นเจ้าของได้นำเรื่องมาลงยังโลกออนไลน์เพราะน้องได้หลุดหายออกไปจากบ้าน ในวัน 5 เดือนธันวาคม 2563 น้องมีอายุ 1 ปีพิกัดได้หายไปหาดสุรินทร์์ จังหวัดภูเก็ตน้องมีนิสัยกลัวคนแพรกหน้ามาก
ถ้าหากจะพยายามจับเขาจะไปไกลกว่าเดิมเพราะน้องตัวใหญ่และวิ่งหนีได้เร็ว เจ้าของเองก็ร้องไห้ตามหาน้องมาร่วแรมวัน จึงอยากจะบอกใครถ้าเจอหรือถ้าหน่วยกู้ภัยเจอก็อย่านำเขาไปปล่อยป่าหรือทำร้ายเขาเพราะเขาเป็นแมวไม่ใช่เสือหรือสัตว์เป็นภัยต่อมนุษย์
ซึ่งถ้าเพื่อนๆได้อยู่ในระแวกบริเวณแล้วพบเจอเข้าก็อย่านำจับด้วยตัวเองให้บอกไปตามต้นโพสต์เพื่อให้ทางเจ้าของเขาได้มาเรียกน้องและนำตัวกลับบ้านเอง
ที่มา Aliona...