สัตว์โลก

เพราะในความรักที่เราได้เลี้ยงดูแลเขามาเป็นอย่างดีแม้จะมีบางทีที่บางเคสเลี้ยงด้วยความไม่ได้ตั้งใจเพราะสงสาร แต่ก็ทำให้เกิดความผูกพันธุ์แม้รักเขาเหมือนกับดั่งลูกในดวงใจจริงๆ และถ้ามีบางสิ่งที่มาทำให้ลูกของเราต้องเจ็บหนักแล้วเราไม่รู้ก็คงจะใจสลาย เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pitchaya Toey Nampim ได้โพสต์เล่าด้วยน้ำตาหลังจากที่เธอได้ติดกล้องมาและไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นภาพแบบนี้ เพราะในวันแรกที่เธอได้ตัดสินใจติดกล้องก็เห็นเจ้ามิ้วที่เธอได้เลี้ยงเขามาด้วยความสงสาร ถูกสุนัขเข้ามาหาและมาคาบและลากน้องไปมาเหมือนเป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง ซึ่งน้องแมวก็มีท่าทีที่กลัวจนหัวหดและคิดว่าน่าจะโดนแบบนี้มานานแล้วเธอก็ยังสังเกตและคิดว่าน้องแมวไปถูกอะไรมาเพราะก่อนหน้านี้มีอาการขาเจ็บและเดินไม่ไหว ซึ่งเธอก็คงจะเอ๊ะใจและสงสัยเลยติดกล้องเอาไว้ดูน้องด้วย และสิ่งที่เธอได้เห็นหลังจากได้ติดกล้องก็คือทำให้เธอต้องเสียใจมากแม้น้ำตาไหลพรากไม่รู้ว่าเขาต้องโดนและทนอยู่แบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งน้องหมาก็น่าจะเป็นหมาจรในบริเวณแถวบ้านและสาเหตุก็คือน้องมุดรั้วเข้ามาทำทีเหมือนว่าจะเล่นกับน้องแมว แต่ด้วยพละกำลังของน้องหมามีแรงเยอะกว่าน้องแมวเยอะก็เลยทำให้น้องแมวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตัวน้องแมวเองก็อ้วนเกินกว่าจะสู้แรงน้องหมาหรือหลบหนีไหว น้องก็เลยทำได้แค่นอนยอมให้เขาเล่นไปมาเป็นเวลาที่แสนเนินนานหรือโดนมานานแล้ว แม้ในภายหลังเธอก็ได้มาบอกสาเหตุทั้งหมดว่าทำไมถึงเลี้ยงน้องแมวเอาไว้ภายนอกบ้านเพราะเธอก็แจ้งว่าน้องเป็นแมวจรในหมู่บ้านและเขาก็ชอบเดินไปมาตามบ้านต่างๆ ซึ่งถ้าเอามาเลี้ยงภายในบ้านก็กลัวว่าเขาจะอึดอัดและก็ไม่ได้ชั่งใจกับเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะภายหลังเธอก็ได้นำรั้วมาติดเพื่อที่จะกันไม่ให้น้องหมาเข้ามาได้แล้ว และสัญญากับน้องแมวว่าจะดูแลเขาให้ดีกว่านี้และเฝ้าขอโทษเขาด้วย ที่มา Pitchaya Toey Nampim

เพราะในการรับเลี้ยงดูแลคนส่วนใหญ่เขาก็คงอยากจะได้แต่แมวที่น่ารักหรือหน้าตาดี แม้บางตัวหน้าตาไม่ดีเขาหาใครเขาก็ว่าอัปลักษณ์หรือรังเกี้ยจได้ ซึ่งก็มีน้อยคนมากๆที่เขาจะเห็นถึงจิดใจและเฝ้าดูแลถนอมไว้จนกลายมาเป็นขวัญใจหรือเพชรในโคลนตมประจำบ้าน เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ชีวิต ที่ผ่านน้ำ ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของเจ้ามิ้วตัวนี้หลังจากวันแรกที่เขาได้ตัดสินใจรับเลี้ยงน้อง มาม่า ซึ่งน้องเป็นแมวตัวนิดเดียวและตกอยู่ในสภาพที่หลายคนเขาอาจจะเรียกว่าแมวไม่น่ารัก ซึ่งเขาก็ตัดสินใจรับน้องมาอยู่ด้วยและเลี้ยงดูแลมาด้วยความรักมาตลอด แม้จะนอนยังต้องกอดและคอยอุ้ม แต่มาวันนี้เขาเองก็ได้เห็นถึงผลลัพธ์ในความใส่ใจเพราะตอนนี้เขาอุ้มน้องแทบจะไม่ไหวและน้องกินเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหยุดโต กลายเป็นลูกบ่าวหนุ่มในบางสุราษฎร์นี แม้น้องอาจจะมีหายตัวไปจากบ้านก่อนหน้านี้ร่วม 6 เดือนได้ แต่เมื่อเขาได้เห็นผลลัพธ์ในการดูแลเอาใจใส่อย่างตัดใจมันก็ทำให้เขายิ้มได้ทุกครั้งที่ได้มองเพราะความถนอมและรักษาให้น้องโตมามีรูปลักษณ์ที่สวยสง่าเรียกได้ว่าเป็นลูกเป็ดขี้เหร่ตอนเด็กแต่โตมาหน้าตาเป็นหนุ่มหล่อเลยก็ว่าได้ เขาเลยได้นำเรื่องราวนี้มาโพสต์ลงในกลุ่มทาสแมว ซึ่งหลายคนก็เข้ามากดไลค์เพราะเป็นการสร้างรอยยิ้มและให้กำลังใจสำหรับคนที่คิดจะเลี้ยง ว่าอย่าได้ไปตัดสินด้วยรูปลักษณ์เพียงภายนอกเพียงเท่านั้น ถ้าเราเลี้ยงเขาและเข้าใจในการดูแลเอาใจใส่กันเชื่อได้ว่าพวกเขาก็จะออกมามีรูปลักษณ์และสุขภาพที่แข็งแรง ที่มา ชีวิต ที่ผ่านน้ำ

เพราะชีวิตหนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงจรยามจะนอนยังต้องคอยหลบหา เพราะเกิดมาไร้บ้านไร้ญาติแม้ขาดคนดูแลมากว่าจะหาได้แต่ละวันตกถึงท้อง ต้องเดินเที่ยวร้องเร่หาเศษอาหารกินแม้ตามที่ตกลงพื้น ต้องกล้ำกลื่นหากวันไหนไม่มีได้อิ่มท้องไปคุ้ยขยะประทังชีวิต ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาแล้วจะชอบแมวเลยทำให้พวกเขาถูกทำร้ายได้ แม้ชีวาวายจนบางตัวต้องสิ้นใจไปก็มีเหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า ฐิตินันท์ ใสสีสูบ ได้โพสต์เล่าเรื่องราวด้วยน้ำตาหลังมาขอกำลังใจให้กับน้องการ์ตูนด้วย เพราะน้องเป็นแมว ที่เป็นแมวจรที่ชอบมาขอกินข้าวตลอดเธอก็เฝ้าให้ด้วยความสงสารและเอ็นดูเขา แต่มาวันนี้เธอกลับต้องเกือบจะใจสลายเพราะเช้ามาได้พบว่าน้องการ์ตูนถูกคนใจร้ายย ิงมาตอนกลางคืนแล้ว และน้องก็ยังคงแบกสักขารมาหาเธอแม้ตัวจะเจ็บปวดแทบหมดลมหายใจ ซึ่งเธอก็ได้มาขอกำลังใจเพราะตอนที่เธอโพสต์เธอก็กำลังจะพาน้องไปคลีนิคเพื่อที่จะรักษา และในภายหลังเธอก็ได้มาอัพเดทเอาไว้ว่า คุณหมอได้ทำการรักษาและปิดแผลให้น้องแล้วแม้น้องก็มีอาการกระดูกแตกและต้องทำการรักษาอีกสักพักใหญ่ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเอาเรื่องกับคนทำที่ไหนก็ได้แต่รักษาเขาไปด้วยความสงสาร เราก็ขอให้น้องการ์ตูนหายในเร็ววันและหวังว่าสักวันหนูจะมีบ้านจะได้ไม่ต้องถูกคนใจร้ายเขามารังควานแม้ทำร้ายหนูแบบนี้อีกต่อไป ที่มา ฐิตินันท์ ใสสีสูบ

ด้วยในชีวิตหนึ่งที่เกิดมาเป็นเพียงน้องแมวตัวน้อยๆ และมีเจ้าของที่ได้เลี้ยงดูแลแม้ปกป้องและคอยหาให้เขากินมาตลอด พอวันหนึ่งเกิดพลัดหลงตัวก็คงจะทำอะไรไม่ถูกแม้หากินเองก็ไม่เป็นและได้แต่รอด้วยใจหวังว่าผู้เป็นพ่อหรือเป็นแม่จะวนกลับมารับเขาไปเหมือนดั่งเคย ก็คงจะเปรียบเสมือนกับเด็กคนหนึ่งที่หลงทางกับผู้เป็นพ่อเป็นแม่ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใชเฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Tos Tanchai ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวในระหว่างปั๊มปตท.ซึ่งเป็นเส่นทางไปชัยภูมิทางไปดาดโดน ซึ่งเขาก็ได้พบเจอว่ามีคนลมน้องแมวไว้และอยากจะให้กลับไปรับน้องด่วน ซึ่งลักษณะของน้องเป็นแมวสลิดไม่ทราบเพศเอาแต่นอนรอผู้เป็นแม่ พี่ๆปี๊มก็ใจดีแท้บอกให้น้องรอแม่อยู่ที่นี้และไม่ต้องซน ซึ่งเขาเลยได้นำเรื่องราวมาโพสต์ลงยังโลกออนไลน์หวังให้ผู้เป็นเจ้าของได้กลับมารับน้องเพราะน้องนอนรอเห็นแล้วก็น้ำตาคลอแม้น้องก็แอบมีน้ำตาด้วย ซึ่งตัวน้องเองก็ยังใส่ปลอกคอเอาไว้ด้วยไม่รู้ว่าแอบไปเล่นซนติดรถมาหรือว่าอย่างไร เลยอยากจะฝากเอาไว้สำหรับใครที่พบเจอโพสต์นี้ก็อยากจะให้ช่วยกันแชร์เพื่อที่จะให้น้องได้กลับคืนอ้อมกอดผู้เป็นพ่อแม่เพื่อว่าเขาจะไม่รู้ว่าน้องติดรถออกมา ซึ่งถ้าใครคิดว่าเป็นเจ้าของก็สามารถที่จะติดต่อไปหาเขาหรือสอบถามถ้าคิดว่าเป็นเจ้าของได้เลย แม้หลังจากการโพสต์ไปภายในหนึ่งวันร่วงเลยผ่านแล้วก็ยังไม่มีใครเข้ามาติดต่อขอรับน้องกลับไปเลย น้องก็ยังคงรอเจ้าของแม้พี่ๆในป๊๊มก็ช่วยกันดูแลและเอาลังกระดาษมาใส่ไว้กลัวน้องจะวิ่งแล้วถูกรถทับ ที่มา Tos Tanchai

ในบางครั้งบางทีเหตุการณ์ต่างๆมันก็เกิดขึ้นได้อย่างคาดไม่ถึง จนตัวเราเองตั้งตัวไม่ติดว่าจะทำอย่างไรต่อชีวิต เหมือนกับหนุ่มทาสแมวท่านนี้ที่จู่ๆต้องออกจากงาน แต่ที่ห่วงที่สุดก็คือลูกแมวที่บ้านนี่แหละจะอยู่กันอย่างไร . โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Pratya Vilaivong ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า วันนี้ผมถูกจ้างออกจากบริษัทแบบสายฟ้าแล่บ ผมเตรียมใจและเตรียมตัวไม่ทันเลยนะครับ เด็กๆก็ยังไม่โตกันเลย แต่ยังดีที่พี่ๆที่บริษัทจะรับช่วงดูแลเด็กๆแทนอีก2-4สัปดาห์ ผมเองก็ใจหายเหมือนกันครับ ไม่เคยซีเรียสเรื่องตกงานแต่อย่างใดแต่ที่ผมซีเรียสคือเด็กๆจะอยู่ได้ไหม อดทนนะ เปียกปูน&แซลม่อน รอโตอีกนิดจะมารับกลับบ้านมาอยู่ด้วยกันนะลูกเอ้ย และนี่คือทำงานวันสุดท้ายลูกๆของพ่อคงจะโตขึ้นอีกสักหน่อย อย่าร้องดังก็พอ จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้กำลังใจกับทางผู้โพสต์ เพราะล่าสุดนี้เองทางผู้โพสต์ก็ยังตกงานจนถึงทุกวันนี้ ที่มา Pratya Vilaivong

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Bam Stn ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า มีใครพอจะช่วยเราบ้างได้มั้ยคะ เรื่องของเรื่องคือเราจะไปขึ้นเรือที่อ่าวนุ่น ที่จังหวัดสตูล แล้วก่อนขึ้นเรือเราไปเข้าห้องน้ำเจอน้องแมวตนนี้นั่งตัวเดียวเราก็เลยไปเล่นกับน้อง . คือสภาพของน้องผอมมากๆ แล้วมีป้าคนนึงเดินมาบอกกับเราว่า เอาไปเลี้ยงได้มั้ยตรงนี้มีแต่คนเอาแมวมาทิ้งไว้ เราเลยตัดสินใจว่าจะเอาน้องไปเลี้ยง คือตอนแรกเราจะเอาขึ้นเรือไปด้วยแต่แฟนบอกว่าไม่ได้เลยฝากไว้ที่ร้านค้า และพอขึ้นฝั่งวันต่อมามันขึ้นคนละท่าเรือ เราเสียใจมากเลยเพราะน้องน่าสงสารมากๆ เราอยากเอาน้องกลับมาด้วยกัน แต่ก็ทำไรไม่ได้เพราะไม่มีคนพาขับรถไปรับน้อง เราจะช่วยน้องยังไงได้บ้างคะ เราสงสารน้องเหลือเกิน จนเรื่องราวของน้องได้โพสต์ลงในโลกออนไลน์ ชาวทาสแมวต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆนาๆว่าอยากให้ช่วยน้องออกมาก่อน แล้วค่อยคิดหาวิธีหรือประกาศหาคนช่วยรับเคสของน้องต่อไป เราก็ได้แต่หวังว่าน้องจะมีคนช่วยในเร็ววันนะ ที่มา Bam Stn

เมื่อยามชีวิตที่เกิดมาเป็นเพียงจรแม้ไม่มีใครเขาให้ถึงคุณค่าแม้จะมาคนช่วยหาหรือพามาเลี้ยงดูแลเขาไว้ในอ้อมกอด เพราะเลือกไม่ได้ พอวันหนึ่งเกิดหมดวาระหรือพวกเขาเลือกที่จะช่วยเลี้ยงดูแลเอาไว้ต่อไม่ได้ ก็คงจะต้องใจสลายแม้หอบผ้าหอบผ่อนกลับไปเป็นจรอยู่ตามเดิม เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pailin Sangpuenteing ได้โพสต์เรื่องราวในหลังปีใหม่นี้ที่ก็คงจะต้องกลับไปเป็นจรเหมือนเดิมแล้ว เพราะไม่มีที่ให้ฝากเลี้ยงอีกแล้วนะเด็กๆ ด้วยน้องแมวทั้ง 5 ตัวนี้เป็นแมวที่ฝากเลี้ยงเอาไว้ บางตัวก็ฝากเลี้ยงตั้งแต่อายุ 2 เดือน จนตอนนี้จะ 4 เดือนแล้วยังไม่ได้บ้านเลย เธอก็เลยอยากที่จะให้น้องมีบ้านแมวโตทำหมันหมดแล้ว น้องนิสัยดีเรียบร้อยมากนะคะ อาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อยหลังจากย้ายบ้านเลยอยากจะขอคนที่เข้าใจแมวโต พิกัด ทุ่งครุ กทม. ปริมลฆล ยินดีไปส่งให้แมวฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และอยากที่จะให้อ่านเงื่อนไขก่อน...

เพราะความอินดิ้ในตัวแมวหรือความที่พวกเขาคิดว่าเราจะต้องเป็นทาสเลยทำตัวน่าหมั่นไส้บ้างเพราะความไม่รู้ความของพวกเขา ด้วยตัวเองจะชอบคิดว่าตัวเป็นนายและคนอย่างเราๆเป็นทาส เลยทำให้หลายคนต้องลำบากแม้ยังงงว่าพวกเขาคิดอะไรอยู่ เหมือนกับเรื่องราวนี้เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า หมู ป๊อปอาย ที่ได้โพสต์เล่าเรื่องราวสุดหัวจะปวดหลังตัวเขาเองเป็นนักกางเต็นท์และก็กางเต็นท์มาหลากหลายปีก็ไม่เคยคิดว่าจะเจอดีเจอกับตัวเอง เพราะเขาได้เข้ามาโพสต์ลงในกลุ่มกลางเต็นท์เอา ด้วยเป็นรูปเรื่องราวของเขาหลังจากการไปกลางเต็นท์ที่ลานรักแคมป์ lanrak camp แต่ทว่าเขากลับเจอพลังงานบางอย่างที่ไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอมาส่องอยู่ที่หน้าเต็นท์ แม้ในตอนแรกเขาก็ยังคงกล้าๆกลัวๆเพราะตัวไม่เคยพบเจอมาก่อน ซึ่งหลังจากสักพักเจ้าพลังงานก้อนนี้ก็มานั่งจ้องอยู่ข้างหน้าเต็นท์แล้วทำทีเข้ามาตีสนิท พอเริ่มชินแล้วตกดึกก็เข้ามานอนแพร่บนตัวเหมือนพยายามที่จะตกเหยื่อได้สำเร็จ เขาเลยเสร็จถูกตกไปเรียบร้อยตามระเบียบเหมือนในรูป เลยได้นอนกอดกันทั้งคืนและดูว่าจะอุ่นมากๆ แม้ในภายหลังเขาเองก็ไม่ได้มีการอัพเดทว่าได้มีการเก็บน้องแมวกลับบ้านไปด้วยหรือเปล่าหรืออย่างไร แต่ก็คิดว่าน้องน่าจะมีคนเลี้ยงดูแลดีอยู่เพราะดูจากสภาพตัวและจนก็ยังสวยอยู่น่าจะมีคนให้อาหาร ก็ถือเป็นเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้มให้กับเหล่านักกลางเต็นท์ทั้งหลาย ที่มา หมู ป๊อปอาย

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Petsiri Phiudaeng ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ตามหาเจ้าของน้องแมวตนนี้ค่ะ พิกัดหอพักหลิงหลงชลบุรี เรื่องของเรื่องคือมีลุงรปภ.เเจ้งมาว่าน้องแกโดนรถชนประมาน2เดือนแล้ว ตอนแรกน้องอ้วนมากๆ . ตอนนี้น้องผอมเพราะได้กินอาหารบ้างไม่ได้กินบ้าง ส่วนขาหลังน้องก็จะเดินเป๋ๆหน่อย แต่หางน้องที่เราจับดูลักษณะเป็นเหมือนเขากวางเหมือนกิ่งไม้เลยค่ะน่าจะเกิดจากที่น้องโดนรถชน ตัวจริงคือน้องน่ารักมากเลยนะคะ แล้วถ้าหางของน้องเป็นแบบนี้แล้วเราต้องพาน้องไปตัดออกมั้ยคะ เพราะที่หอที่น้องอยู่ไม่มีคนให้อาหารเค้าเลยอยากให้เราเอามาเลี้ยงแต่ว่าเรามีน้องแมวอยู่แล้ว6ตัวกลัวจะเกินกำลังที่เรามี เลยมาโพสประกาศตามหาเจ้าของน้องแมว เผื่อเค้ากำลังตามหาอยู่น้องน่าสงสารมากค่ะ ถ้าเจ้าของน้องเห็นหรือผู้ใจบุญอยากได้น้องติดต่อมาได้นะคะ และล่าสุดนี้เองอัปเดตอาการน้องแมว ตอนนี้มีผู้ใจดีใจบุญเมตตาน้องช่วยรักษาน้องทำหมันให้น้อง ตอนนี้น้องอยู่ที่โรงพยาบาลสัตว์พัทยาค่ะ เราต้องขอขอบคุณทุกๆท่านมากๆเลยนะที่ได้ช่วยน้องไว้ ที่มา Petsiri Phiudaeng

โดยผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ : Tanyarato Otaraynat ได้เผยเรื่องราวลงในกลุ่มทาสแมวอันมีใจความระบุว่า ไม่ว่าแขกจะไปใครจะมา ปิติก็รับบทเป็นเจ้าของบ้านที่น่ารักตลอดเลย ใครๆมาก็ต้องมาตกหลุมรัก เอ็นดูปิติแบบหัวปักหัวปำ ขอมาหาอีกบ่อยๆ ทาสอย่างเราก็ยิ้มกว้างชุ่มชื่นหัวใจฝุดๆที่ใครๆก็รักเอ็นดูเค้า . ภูมิใจในตัวเค้าที่เค้าเป็นเด็กดี ปิติ (ชื่อเก่านางชื่อแซลมอน)อดีตเคยเป็นแมวจรที่น่าจะเคยมีเจ้าของมาก่อน แล้วย้ายออกไปไม่พาเค้าไปอยู่ด้วย ก่อนเราจะย้ายออกจากบ้านเก่าไม่กี่สัปดาห์ปิติเค้าเริ่มแวะเวียนมาที่บ้านอยู่บ่อยๆเราเลยซื้ออาหารเปียกมาติดไว้ให้ เราเป็นทาสหมา 100% ไม่เคยเลี้ยงแมวมาก่อนเลย พอมาบ่อยๆเข้าจากหน้าบ้านก็เริ่มเข้ามาสำรวจในบ้าน ตอนนั้นเนื้อตัวเค้ามอมแมมเราเลยพูดลอยๆไปว่า "อยากไปอยู่ด้วยกันไหมล่ะ ถ้าอยากไปอยู่ด้วยกันมาเจอกันพรุ่งนี้เที่ยงนะ" ตอนนั้นเราพูดไปงั้นๆเพราะปกติช่วงเที่ยงหรือบ่ายเค้าจะไม่แวะมาจะมาแค่ตอนช่วงเย็นๆ แต่พอถึงนัดเค้ามาจริงๆ เดินมาร้องเเง๊วๆที่หน้าประตูเฉยเลย ใครบอกว่าเค้าไม่รู้เรื่องมันไม่จริงเลย...