เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 แฟนเพจเฟสบุ๊กช่วยเหลือสัตว์อย่าง : มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand – WDT ได้เผยเรื่องราวและอัพเดตเรื่องราวประเด็นดราม่า หลังกู้ภัยรายหนึ่งได้นำน้องแมวที่มีชื่อว่าเจ้าสัวนำไปเทในป่า หลังมีป้าข้างบ้านโทรแจ้งว่าเข้าบ้านไม่ได้เป็นชั่วโมงเพราะจะถูกแมวเข้ามาฟัด และโพสล่าสุดของกู้ภัยน้อยใจก็เป็นคนเหมือนกันหลังถูกดราม่าเข้ามาหนัก
โดยทางเจ้าของได้โพสต์เอาไว้ว่า “เหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ครอบครัวของเราได้เดินทางไปพักผ่อนยังต่างจังหวัดที่สระบุรีเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน ปรากฏว่าไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตจึงไม่สามารถดูน้องผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้ได้เหมือนปกติที่เคยดู
เราออกจากที่พักเวลาประมาณ 14:00 น.พอออกจากที่พักบีมก็เปิดดูกล้องดูน้องตามปกติ ผลปรากฏว่าไม่เห็นน้องเจ้าสัวอยู่ในกล้องแล้ว จึงย้อนดูกล้องตั้งแต่เช้าจึงรู้ว่าน้องไม่ได้อยู่ในกล้อง จึงรบกวนพี่บ้านข้างๆเขาให้ไปดูหน้าบ้านให้หน่อยว่าหน้าต่างเปิดออกมั้ย ซึ่งน้องอายุ 2 ขวบพฤติกรรมไม่เคยออกจากบ้านเลย ไม่เคยเปิดหน้าต่างเองได้เลย
ปรากฏว่าวันนั้นหน้าต่างเปิดออกจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้จะมีแมวมาก่อกวนเจ้าสัวอยู่บ่อยครั้ง แต่เจ้าสัวเป็นตัวผู้และน้องเจ้าสัวทำหมันตอนแล้ว ด้วยความที่อาจจะอยากรู้หรือดลใจให้หน้าต่างเปิดออกอันนี้ทางเจ้าของไม่ทราบ น้องจึงหลุดออกจากบ้านไป
พี่ข้างบ้านแจ้งว่าบ้านข้างๆเขาได้แจ้งอาสาสมัครของอำเภอบางปะอินมานำเจ้าสัวไปในเวลาประมาณ 15:00 น พี่ข้างๆบ้านจึงออกไปตามหาให้แล้วพบแต่ถุงปุ๋ยตกอยู่ในสถานที่ที่เขานำไปเทไว้ คนที่แจ้งน้องพูดว่าน้องมีพฤติกรรมแค่ขู่ไม่ได้จะฟัดหรือเข้ามากระทำซึ่งเป็นพฤติกรรมปกติของเจ้าสัวเวลาที่เขากลัว ตกใจและตื่นคนแปลกหน้า
เขาบอกว่ากู้ภัยนำถุงกระสอบมา 1 ถุงแล้วนำเจ้าสัวใส่กระสอบโดยอาสามารถยนต์ 1 คันมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ซึ่งมาทราบทีหลังว่ารถมอเตอร์ไซค์ไม่ได้ไปกับรถยนต์ด้วย ซึ่งรถยนต์ที่ขับผู้ขับคือผู้ที่นำแมวไปเทไว้ที่ป่าข้างทาง ทางเจ้าของขับรถมาถึงบ้านก็รีบตามหาน้องในทันที ผลปรากฏว่าไม่พบน้องเธอจึงโทรแจ้งหน่วยอาสา ทางหน่วยรับเรื่องแล้วพูดปฏิเสธและบอกว่าไม่ว่างมาช่วยเหลือ
เจ้าของจึงพูดกลับไปประมาณว่าน้องไม่รู้หรอว่าแมวเขามีเจ้าของ ลักษณะแบบนี้น้องทำไมไม่เก็บเขาไว้ตามหาเจ้าของล่ะ ทางศูนย์อาสาสมัครจึงพูดขึ้นมาว่าเขาไม่สามารถรับรู้ได้ว่าแมวมีเจ้าของหรือไม่มีเจ้าของ เขาบอกว่าแมวบีมเป็นแมวจรเฉยเลย เพราะทางบ้านที่แจ้งเขาบอกว่าแมวไม่มีเจ้าของ
หลังจากนั้นบีมกับแฟนและเพื่อนกลุ่มบีมจึงได้ออกตามหาน้องอีกประมาณ 3 ชั่วโมงจนถึงมืดค่ำแต่ก็ไม่พบตัว บีมจึงได้โทรตามอาสาที่เขานำแมวมาเทให้เขาช่วยมาชี้จุดให้หน่อยว่าตรงไหน เขาพูดแค่เขาสามารถช่วยชี้จุดให้ได้ แต่เขาไม่สามารถช่วยตามหาให้ได้
ตอนนั้นบีมรู้สึกโมโหมากเลยโพสต์ขึ้นหน้าเฟสบุ๊ก แท็กชื่อมูลนิธิพุทไธสวรรย์บางปะอินไปด้วย เรื่องราวเลยเกิดขึ้นพอบีมได้เจอกับฝั่งอาสาที่นำแมวไปเทเขาพูดอย่างเดียวว่าเขามีหน้าที่แค่นำแมวออกมาจากบ้าน แต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะต้องนำแมวเอาไปไว้ที่ไหนคืออันนี้บีมงงมากค่ะ
ขั้นตอนของอาสาสมัครคือแค่นำแมวออกไปจากบ้านให้พ้นจากบ้านที่เดือดร้อนเขา แต่ทำไมคุณถึงไม่ตามหาเจ้าของแมวและเก็บแมวไว้ก่อนหรือให้แมวอยู่ในที่ปลอดภัย แต่คุณนำไปเทไว้ในป่า ซึ่งเขานำไปเทเวลาประมาณ 15:00 น.บีมกลับถึงบ้านมาประมาณ 16:00 น ก็ไม่เจอน้องแล้วค่ะ มันคลาดกันแค่นิดเดียว เจ้าของบ้านที่แจ้งเขาบอกว่าเขาเข้าออกบ้านไม่ได้เจ้าสัวมันขู่เขาตลอด เขากลัวค่ะ แต่เจ้าสัวไม่ได้ฟัดนะคะ เจ้าสัวแค่ขู่
เมื่อเช้าบีมไปคุยกับเจ้าของบ้านที่แจ้งเจ้าสัวแล้วค่ะ ตอนพี่ที่โทรมาบอกว่าแมวอยู่กับกู้ภัย บีมรู้สึกปลอดภัยนะคะ นึกว่าน้องอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว ก็คิดว่าลำดับขั้นตอนต่อไปเขาคงตามหาเจ้าของ แต่ไม่ใช่ค่ะเขาเอาไปเทไว้ในป่า พฤติกรรมของหน่วยอาสากู้ภัยชุดนี้ไม่มีมีวุฒิภาวะที่จะเป็นหน่วยกู้ภัยค่ะ เจอกันไม่เคยพูดดีกับเราเลยสักครั้ง ขึ้นเสียงไม่ฟังเหตุผลใดๆเลยแถมเอาเราไปโพสเสียๆหายๆ
ที่มา มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์